'ภูเก็ต' เล็งฟื้นอุตสาหกรรมทูน่าผงาดในอาเซียน

'ภูเก็ต' เตรียมฟื้นอุตสาหกรรมปลาทูน่า หวังเป็นผลักดันจังหวัดแทนที่พึ่งพาแต่การท่องเที่ยวอย่างเดียว

03 มี.ค.2565 - นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการค้าปลาทูน่าและผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าอาเซียน ประเด็นยุทธศาสตร์ การพัฒนาสู่เมืองเศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและบริการมูลค่าสูงระดับนานาชาติ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฯ ณ ห้องประชุม สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต

โดยที่ประชุมรับทราบ คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 7648/2564 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาของจังหวัดภูเก็ต ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาสู่เมืองเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและบริการมูลค่าสูงระดับนานาชาติ คณะทำงานขับเคลื่อนให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการค้าปลาทูน่าและผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าอาเซียน แนวทางการพัฒนาตามประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาเมืองเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและบริการมูลค่าสูงระดับนานาชาติ โดยพิจารณาจัดทำแผนปฏิบัติราชการจังหวัด(พ.ศ. 2566-2570) เพื่อการขับเคลื่อนให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการค้าปลาทูน่าและผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าอาเซียน

นายพิเชษฐ์กล่าวว่า การขับเคลื่อนภูเก็ตให้เป็นศูนย์กลางการค้าทูน่าอาเซียนเป็นหนึ่งใน 7 ยุทธศาสตร์ของจังหวัดที่จะเป็นอุตสาหกรรมที่จะต้องพัฒนาเพื่อให้พึ่งพาเศรษฐกิจได้ ซึ่งในอดีตภูเก็ตพึ่งพาการท่องเที่ยวอย่างเดียวเมื่อเกิดวิกฤติได้ประสบปัญหา แต่ปัจจุบันมีอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่จะต้องพัฒนาขึ้นมา ดังนี้ 1. อุตสาหกรรมมารีน่า 2.อุตสาหกรรมด้านการศึกษานานาชาติ 3.อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 4. อุตสาหกรรมอาหารสร้างสรรค์ 5.อุตสาหกรรมปลาทูน่าและสัตว์น้ำ 6.ศูนย์กลางการจัดงานและมหกรรมกีฬา ระดับชาติ และ 7.สมาร์ทซิตี้ ซึ่ง 7 อุตสาหกรรมนี้จะเป็น 7 ขายันเศรษฐกิจของภูเก็ต

นายพิเชษฐ์กล่าวต่อว่า อุตสาหกรรมด้านศูนย์กลางการค้าทูน่าและผลิตอาเซียนนั้น เป็นเรื่องที่ภูเก็ตมีศักยภาพอยู่แล้ว โดยเอาทูน่ามาขึ้นฝั่งที่ภูเก็ต แต่ประมาณปี 2556-2557 หลังจากขับเคลื่อนเรื่องค้ามนุษย์ และมาตรการIUU หยุดไประยะหนึ่งเนื่องจากกิจการที่ทำขัดต่อกฎหมายของ IUU จึงยกเลิกไป แต่ตอนนี้มีการพัฒนาปรับปรุงขึ้นอยู่ในระดับเทียร์ 2 แล้ว ทางจังหวัดจะฟื้นฟูเรื่องทูน่ากลับเข้ามาใหม่ เพราะมีศักยภาพที่ทำได้แต่ต้องไปแก้ไขกฎหมายในเรื่องการเพิ่มเรือเป็นเรือเบ็ดราว จะใช้เป็นเรือประมงสำหรับปลาทูน่า

“การประชุมในวันนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขกฎหมายประมง และการเตรียมความพร้อมของบุคลากรผู้ประกอบการมีความพร้อมหรือไม่ เพราะทุกอย่างต้องใช้เวลา แต้ถ้าไม่หารือกันเลยจะไม่ได้รับการหยิบยกขึ้นมา ซึ่งโครงการนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัด ด้านการพัฒนาสู่เมือง เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม บริการมูลค่าสูงระดับนานาชาติ อยู่ในยุทธศาสตร์ที่จะขับเคลื่อน ซึ่ง สามารถที่จะขับเคลื่อนได้จึงให้มีการประชุมติดตามสนับสนุนด้วยงบประมาณในกิจกรรมที่นำสู่การปฏิบัติศูนย์กลางสัตว์น้ำ การให้มีท่าเรือสำหรับขึ้นฝั่งของทูน่า การสนับสนุนการอบรมสัมมนาต่างๆเกี่ยวกับทูน่าเป็นโครงการที่ สามารถของบประมาณสนับสนุนได้ และในการประชุมครั้งต่อไปให้ประมงจังหวัดภูเก็ตทำหนังสือเชิญเจ้าหน้าที่จากกรมประมง ส่วนกลาง ลงมาหารือร่วมกันเพื่อต้องการรับทราบข้อคิดเห็นและความเป็นไปได้ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมทูน่าในจังหวัด”

ทั้งนี้ ข้อมูลปริมาณการนำเข้าปลาทูน่าผ่านท่าเรือจังหวัดภูเก็ตสูงสุดในปี 2558 ปริมาณ 12,786 ตัน มูลค่า 1,245 ล้านบาท ปริมาณนำเข้าลดลงอย่างต่อเนื่องปี 2564 ปริมาณ 843 ตัน มูลค่า 51 ล้านบาท

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โบลิเวียออกหมายจับอดีตประธานาธิบดี ‘เอโว โมราเลส’

การแย่งชิงอำนาจในโบลิเวียกำลังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ทางการกำลังออกหมายจับอดีตประธานาธิบดี เอโว โมราเลส ด้วยข้อ