'ครูใหญ่' ขึ้นศาลยื่นข้อเสนอไกล่เกลี่ยคดีฟ้อง 'ปารีณา' หมิ่นประมาท ปมแจ้งความ ม.112

ศาลจังหวัดขอนแก่น นัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานในคดีที่ “ครูใหญ่” แกนนำกลุ่มขอนแก่นพอกันที เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง “ปารีณา” ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ก่อนนัดสืบพยานทั้ง 2 ฝ่ายอีกครั้ง เดือน ก.ย.

 25 ก.พ. 2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้นัดพร้อมตรวจพยานหลักฐาน คดีหมายเลขดำที่ อ.998/63 ระหว่างโจทก์ คือนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ “ครูใหญ่” แกนนำกลุ่มขอนแก่นพอกันที กับ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พร้อมเรียกค่าเสียหาย 2,475,112.75 บาท จากการที่ น.ส.ปารีณา โพสต์ภาพขณะเข้าแจ้งความที่ สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี พร้อมระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “วันนี้มาดำเนินคดีครูใหญ่ หรือ นายอรรถพล บัวพัฒน์ ยั่วยุ ปลุกปั่น และอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ ตามมาตรา 112 พร้อมติดแฮชแท็ก #ไม่ยกเลิก112 #การอาฆาตมาดร้ายคือผิดกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา”

โดยเมื่อถึงเวลานัดหมาย นายอรรถพล ได้เดินทางมาพร้อมกับนายวีรนันท์ ฮวดศรี ทนายความ ขณะที่ น.ส.ปารีณา ได้เดินทางมาพร้อมกับทนายความส่วนตัวเช่นกัน โดยศาลไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพในเขตศาล และกำหนดจุดให้สื่อมวลชน รวมทั้งผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ในจุดที่กำหนดไว้เท่านั้น โดยศาลได้นัดพิจารณาคดี ที่ห้องพิจาณาคดี 5 โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ

นายอรรถพล บัวพัฒน์ แกนนำกลุ่มขอนแก่นพอกันที กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกันภายในศาล ทางศาลเองก็ได้มีความพยายามในการไกล่เกลี่ยให้อย่างเต็มที่ และตนเองในฐานะฝ่ายโจทก์ก็ได้ยื่นข้อเสนอ 2 ข้อ ที่คิดว่าเหมาะสมที่สุดให้กับ น.ส.ปารีณา แล้ว คือ ขอให้ น.ส.ปารีณา เลี้ยงข้าว 1 มื้อ เพื่อแสดงความเป็นมิตรซึ่งกันและกัน และขอให้ น.ส.ปารีณา ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาทำคดีให้กับทนายฝ่ายโจทก์ ซึ่งทั้ง 2 ข้อนี้ โดยส่วนตัวคิดว่า เป็นข้อเสนอที่แสดงความเป็นมิตรมากที่สุดแล้ว โดยไม่ต้องกล่าวคำขอโทษ หรือแม้กระทั้งการเรียกร้องสินไหมทดแทน

"แต่ น.ส.ปารีณา ก็ปฏิเสธและยืนยันว่าไม่ได้หมิ่นประมาท และยืนยันที่จะต่อสู้ต่อในชั้นศาล ขณะเดียวกันในวันนี้ก็ยังมีประเด็นจากทาง น..สปารีณา ที่บอกว่า ต่อไปนี้ใครที่ไปแจ้งความเอาผิดกับครูใหญ่ แล้วก็ต้องโดนครูใหญ่ฟ้องร้องดำเนินคดีในที่ไกลๆ ราวกับว่าเป็นการกลั่นแกล้ง ซึ่งตนเองยืนยันว่า ไม่ใช่ตามที่กล่าวมา เพราะการที่ตนเองฟ้องร้องดำเนินคดีที่ขอนแก่น เพราะภูมิลำเนาตนเองอยู่ที่นี่ ซึ่งท้ายที่สุดก็ต้องรอดูต่อไปว่าการฟ้องร้องดำเนินคดี ผลจะออกมาเป็นอย่างไร"

นายวีรนันท์ ฮวดศรี ทนายความของนายอรรถพล กล่าวว่า เมื่อฝ่ายจำเลย ไม่ตอบรับข้อเสนอและไกล่เกลี่ย ขั้นตอนหลังจากนี้ก็ต้องว่ากันไปตามขั้นตอนกฎหมาย โดยหลังจากนี้ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์ ในวันที่ 29 ก.ย.2565 ประกอบด้วย นายอรรถพล ในฐานะโจทก์, ผู้รู้เห็นข้อความการโพสต์เฟซบุ๊กของจำเลย และ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา อีก 2 ปาก ส่วนในวันที่ 30 ก.ย.2565 จะเป็นการสืบพยานในฝ่ายจำเลย ซึ่งฝ่ายโจทก์มั่นใจในพยานหลักฐานที่มี และจะดำเนินคดีตามข้อกล่าวหาและค่าเสียหายตามเดิม ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับศาลเป็นผู้พิจารณาตัดสินเท่านั้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก้าวไกลแพ้! ศาลยกฟ้อง 'ณฐพร โตประยูร' แจ้งเท็จ-หมิ่น ล้มล้างการปกครอง

ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.308/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้องนายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ,หมิ่นประมาทฯพร้อมเรียกค่าเสียหาย 20,062,475บาท   

'ทวี' ตื่น แม่สร้างห้องขังดูแลลูกติดยา รุกจับมือทุกฝ่ายดูแลก่อนออกสู่สังคม  

“ทวี”เยี่ยม “เอ็ม” หนุ่มบุรีรัมย์ที่ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ รพ.ธัญญารักษ์ขอนแก่น ครบ 1 อาทิตย์หลังแม่ทนไม่ไหวสร้างห้องขังลูกเหตุเพราะติดยา พร้อมประกาศเดินหน้ากวาดล้างยาเสพติดอย่างจริงจัง และสร้างคนให้มีความรู้ความสามารถทัดเทียมนานาประเทศ

พ่อสุดทน! ใช้ขวานจามหัวลูกสาหัส หลังโดนทำร้ายมานาน

พ่อเหลืออด! รองรับอารมณ์ลูกชายมานาน หลังลูกอาละวาดขู่ฟันคอพ่อกับแม่ที่ป่วยติดเตียง ใช้ขวานฟันหัวลูก สาหัส สารภาพสิ้นกะฟันให้ตายคามือ

นายกเล็กขอนแก่น สั่งสอบครูเรียกรับเงินบริจาคสร้างโดม 2 พันบาท ต้องได้ข้อสรุปใน 7 วัน

นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น พร้อมด้วย นายบุญธรรม โบราญมูล ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดกลาง ร่วมกันชี้แจงกรณีที่ผู้ปกครองนักเรียนย้ายลูกชายเข้าเรียน ม.2 เทอม 2 ที่โรงเรียนเทศบาลวัดกลาง ภายหลังจากที่ น.ส.อริยา โคตะลี อายุ 31 ปี นำน้องออกัส อายุ 13 ปี