ผู้การฯภูเก็ต เตือนอย่าหลงเชื่อแก๊งมิจฉาชีพ อ้างเป็นตร.มีคนนำหมายเลขพาสปอร์ตไปทำผิดกม.แล้วขู่รีดเงิน

ผู้การฯภูเก็ต เตือนอย่าหลงเชื่อ แก๊งมิจฉาชีพ อ้างเป็นตำรวจ มีคนนำหมายเลขพาสปอร์ต ไปทำผิดกฎหมาย ขู่บังคับหว่านล้อมให้รู้สึกกลัว สูญเสียเงินไป 57,000บาท

4 ก.พ.2565 - พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากกรณีชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ต โดนแก๊งมิจฉาชีพแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยอ้างว่ามีคนนำหมายเลขพาสปอร์ต ไปทำผิดกฎหมาย ขู่บังคับและใช้วาจาหว่านล้อม ให้รู้สึกกลัว สูญเสียเงินไป 57,000บาท กรณีนี้ เป็นหน้าที่ของตำรวจ ต้องสืบสวนสอบสวน รับคำร้องทุกข์ ดำเนินการ ทุกคดีเกี่ยวกับการหลอกลวงผ่านออนไลน์ ตามนโยบายข้อสั่งการ ของ ผบ.ตร.และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8

พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ กล่าวว่า ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการให้แต่ละสภ.ลงเพจของ สภ.ทั้ง 11แห่ง และ เพจ ของ ภ.จว.ภูเก็ต รวม 12 เพจ ประชาสัมพันธ์การกระทำของแก๊งมิจฉาชีพที่หลอกลวงทางโลกออนไลน์ ทุกสัปดาห์ อย่าหลงเชื่อในเล่ห์เหลี่ยมของมิจฉาชีพ เช่น หลอกขายของออนไลน์ กู้เงินออนไลน์ มีดอกเบี้ยมหาโหด พอหลงเชื่อไปกู้แล้วผ่อนระยะยาวไม่ได้รับเงินกู้ตามที่ได้ตกลงไว้อีกทั้งดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นด้วย หรือ เงินกู้ออนไลน์ที่ไม่มีจริงหรือเงินกู้ทิพย์ ซึ่งมิจฉาชีพจะหลอกให้โอนเงิน หรือ หลอกให้ลงทุนจะได้ผลตอบแทนจำนวนมากทำให้ สูญเสียเงินทั้งหมด หรือ หลอกให้เล่นพนันออนไลน์ หรือ โรแมนซ์สแกม หลอกให้รักให้โอนเงิน เมื่อโอนไปแล้วไม่สามารถติดต่อได้ หรือ ส่งลิ้งค์ปลอมให้เมื่อกดไปจะแฮคข้อมูลโทรศัพท์ทำให้ได้ข้อมูลทางธนาคารไป ทำให้สูญเสียเงินได้ รวมถึงอีกหลายกรณีที่หลอกลวงจากแก๊งมิจฉาชีพ หรือ มีการแต่งเครื่องแบบอ้างเป็นตำรวจ สวมใส่แมสก์

"ขอให้อย่าไปเชื่อ อย่าตกใจ ว่าโดนเรียกจากราชการจริงหรือไม่เพราะส่วนมากจะเป็นการหลอกลวงทั้งนั้น ถ้าเป็นจริงจะต้องมีหมายเรียกหรือหมายจับมา ส่วนมากจะส่งไปที่บ้านอยู่แล้ว หรือ ไปตรวจสอบกับหน่วยงานต่างๆได้ ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐให้ถามยศชื่อนามสกุล ตำแหน่งและสอบถามจากหน่วยงานต่างๆว่ามีบุคคลดังกล่าวหรือไม่ เรื่องการโอนเงิน อย่าไปโอน เพราะการตรวจสอบบัญชีเป็นเรื่องเจ้าหน้าที่รัฐกับธนาคาร สถาบันการเงิน ไม่ใช่ให้ท่านโอนเงินมาให้เราตรวจสอบ อย่าโอนเงินเป็นอันขาด"พล.ต.ต.เสริมพันธุ์