
24 มี.ค. 2568 – ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่รายงานว่า จากสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในระยะนี้และทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพอากาศที่มีค่า PM 2.5 เกินมาตรฐานต่อเนื่องและรุนแรงขึ้นนั้น ล่าสุดจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อัคคีภัย ไฟป่า รวม 5 ตำบล ในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.อมก๋อย และ อ.เชียงดาว พร้อมสั่งการเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยและการดำรงชีวิตของประชาชนที่มีความเสี่ยงมากขึ้น

จังหวัดเชียงใหม่จึงได้ออกประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อัคคีภัย ไฟป่า เป็นครั้งแรกของปีนี้ เพื่อเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ภาคส่วนต่างๆ เพื่อการเฝ้าระวัง ป้องปรามและจับกุมผู้ลักลอบกระทำผิดตามกฎหมาย เป็นการประกาศภัยพิบัติ เฉพาะเท่าที่จำเป็น รายพื้นที่หมู่ ตำบลอำเภอ และเพื่อการควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัด โดยสั่งการให้ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในเขตพื้นที่ประสบภัยดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดและแผนอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ประกาศและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเร็วและดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด

ส่วนคุณภาพอากาศในภาคเหนือและเชียงใหม่จากเว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษพบว่า วันนี้ เวลา 12.30 น. คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ จุดตรวจวัดที่กลางเมืองเชียงใหม่ดัชนีคุณภาพอากาศ aqi เกิน 2 เท่าอยู่ที่ 214 ไมครอน PM 2.5 88.2 ไมครอน ส่วนค่าสูงสุดอยู่ที่จังหวัดน่าน aqi อยู่ที่ 258 ไมครอนรองลงมาแพร่ แม่ฮ่องสอน ลำพูนและลำปาง 242,241,235และ 229 ไมครอนตามลำดับ
ส่วนเว็บไซต์ iqair.com เชียงใหม่คุณภาพแย่อันดับ 3 ของโลก ณ 12.30 น. https://www.iqair.com/th/world-air-quality ขณะที่ค่าฝุ่นรายชั่วโมงจากการตรวจวัดตามเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่า PM 2.5 สูงสุดอยู่ที่อำเภอเชียงดาวเกิน 375 ไมครอน เป็นอันตรายต่อสุขภาพงดทำกิจกรรมในที่แจ้งและสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา https://www.cmuccdc.org/hourly/38
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ภูมิปัญญาโบราณล้านนา อาวุธลับของ Soft Power เปรียบเทียบ เมืองเชียงใหม่ กับ เมืองเกียวโต
Soft Power หรือ “อำนาจละมุน” คือความสามารถในการดึงดูดและโน้นน้าวผู้คนโดยไม่ต้องใช้อำนาจหรือกำลังในการบังคับ แต่มีพลังเหลือล้นด้วยการใช้วัฒนธรรม ค่านิยม ซึ่งถือได้ว่า Soft Power เป็นเครื่องมือสร้างอิทธิพล ตามแนวคิด Joseph Nye นักรัฐศาสตร์ชาวอเมริกันที่ได้นำเสนอไว้ เมื่อกล่าวถึงวัฒนธรรม ค่านิยม ทำให้ภาพของ “เชียงใหม่” ปรากฏขึ้นมาในความคิด เชียงใหม่มีวัฒนธรรมที่งดงาม มีการสืบสานประเพณีที่ส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่นอย่างมิเคยเลือนหาย วัฒนธรรมทางด้านศิลปะล้านนา ประเพณี วัดวาอาราม สถานที่ทางวัฒนธรรมต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็น อำนาจละมุน ทั้งสิ้น และยังคงทรงพลังอยู่เสมอมา เชียงใหม่จึงเป็นเมืองที่มีศักยภาพ ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมล้านนา ภูมิปัญญาท้องถิ่น ธรรมชาติที่งดงาม มีวิถีชีวิตที่มีความเรียบง่ายกับความลึกซึ้งได้อย่างลงตัว
'มาดามหยก' รับตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สตรีดีเด่นเชียงใหม่ พร้อมส่งเสริมพลังสตรี
"มาดามหยก" ขอบคุณนายกสภาสมาคมสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติ และนายกชมรมสภาสตรีดีเด่นจังหวัดเชียงใหม่ แต่งตั้งเป็น ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ให้กำลังใจสตรีภูมิใจในตัวเอง แนะคิด สร้างสรรค์ นวัตกรรมใหม่เพื่อสังคม
62 จังหวัดอ่วม! ฝุ่นPM2.5 พุ่ง เหนือหนักสุด 133 ไมโครกรัม
ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศประจำวันที่ 24 มีนาคม 2568 ณ 07:00 น. สรุปดังนี้
เช็กเลย! 53 จังหวัด จมฝุ่นPM2.5 พร้อมคาดการณ์ 7 วันข้างหน้า
ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศประจำวันที่ 21 มีนาคม 2568 ณ 07:00 น. สรุปดังนี้
‘พรรคก้าวอิสระ’ ปลุกพลังเงียบเชียงใหม่ สร้างการเปลี่ยนแปลงการเมืองท้องถิ่น
พรรคก้าวอิสระ หรือ INDY ประกาศรับผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และสมาชิกสภาเทศบาล ปลุกพลังเงียบชาวเชียงใหม่ทุกเพศทุกวัยให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลง เมืองเชียงใหม่เป็นโมเดลใหม่ของการเมืองที่แท้จริงและไม่แบ่งฝ่าย
เหนืออ่วม! ฝุ่น PM2.5 ท่วมเกือบทุกพื้นที่ ทะลุ 143 ไมโครกรัม
ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 17 มีนาคม 2568 ณ 07:00 น. สรุปดังนี้