น่าใจหาย! ขนส่งเลิกต่อทะเบียนรถโดยสารคอกหมู เอกลักษณ์สุโขทัย

22 มีนาคม 2568 - กลายเป็นประเด็นร้อนจนโลกโซเชียลแห่วิจารณ์สนั่น หลังมีข่าวแพร่สะพัดว่าขนส่งจังหวัดจะยกเลิกการต่อทะเบียนให้กับรถโดยสารคอกหมู หรือรถสองแถวไม้ ที่เป็น Soft Power และเอกลักษณ์ของ จ.สุโขทัย มายาวนานถึง 88 ปี โดยปีนี้ 2568 จะนับเป็นปีสุดท้ายที่รถสองแถวไม้ หรือรถคอกหมูในตำนาน จะสามารถวิ่งให้บริการประชาชน-นักท่องเที่ยว ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

นายบัญชา และนางประทุม ฮุยเขียว ชาว อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย เจ้าของรถโดยสารคอกหมู (สายกงไกรลาศ-พิษณุโลก) เผยกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นเรื่องจริงที่ขนส่งจะไม่ต่อทะเบียนให้ เขาว่าเลขคัสซีกำลังจะหมดอายุ เราหากินมาตั้งนานก็ไม่รู้ว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เพิ่งมารู้กันตอนปลายปี 2567 หลังมีเจ้าหน้าที่กรมขนส่งจากกรุงเทพฯมาที่สุโขทัย เรียกเจ้าของรถไปพูดคุยและแจ้งว่าจะไม่ต่อภาษีให้ เพราะรถโดยสารคอกหมูหมดอายุการใช้งานแล้ว

“เขาให้เปลี่ยนรถใหม่ ทว่าแต่ละคนก็อายุ 60 กว่ากันทั้งนั้น จะเอาเงินที่ไหนมาซื้อตั้ง 4-5 แสน แล้วถ้าต่อทะเบียนไม่ได้ รถก็วิ่งบนถนนหลวงไม่ได้ เจอเจ้าหน้าที่ก็โดนจับปรับอีก ทำให้ขาดรายได้จากการวิ่งประจำ ซ้ำโรงเรียน-อบต.-เทศบาล จะจ้างเหมาไปทัศนศึกษาดูงาน เข้าค่ายลูกเสือ หรือต้อนรับนักท่องเที่ยวก็ไม่ได้ เพราะกลายเป็นรถผิดกฎหมาย ทำได้แค่จอดไว้ดูที่บ้าน หรือไม่ก็ขายทิ้งแบบขาดทุน เอาไปทำร้านกาแฟแทน”

นายบัญชา และนางประทุม บอกอีกว่า รู้สึกเครียดและเดือดร้อนมาก ถ้าไม่วิ่งรถรับจ้าง ก็ยังนึกไม่ออกเลยว่าจะไปทำมาหากินอะไร ไร่นาก็ไม่มี เงินคนแก่เดือนละ 600 ก็ไม่พอใช้ ลูกหลานก็ต้องไปเรียนหนังสือ ชีวิตแต่ละวันมีค่าใช้จ่าย ตอนนี้เหมือนโดนลอยแพ ถูกตัดมือตัดเท้า หมดหนทางทำกิน

นางประเทือง เนียมหอม อายุ 67 ปี เจ้าของรถโดยสารคอกหมู (สายกงไกรลาศ-สุโขทัย) บอกว่า ขับรถเองมาร่วม 20 ปีแล้ว แม้ปัจจุบันจะเหลือรายได้วันละ 200 บาท ก็ยังพอกินพอใช้ แต่ถ้าต้องหยุดวิ่งรถเพราะขนส่งไม่ต่อทะเบียนให้ ก็จะกระทบทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ และผู้โดยสารประจำหลายคนจะเดือดร้อน เพราะไม่มีรถนั่งไปทำธุระ ซื้อของ หรือหาหมอในตัวเมือง ได้อย่างสะดวกเหมือนรถคอกหมู

ด้านเจ้าของร้านค้าแห่งหนึ่งใน อ.กงไกรลาศ บอกว่า ถ้ารถคอกหมูต้องหยุดวิ่งจริงๆ นอกจากเจ้าของรถกับผู้โดยสารจะเดือดร้อนแล้ว พ่อค้าแม่ค้าหลายร้านก็จะเดือดร้อนตามไปด้วย เพราะทุกวันนี้ต่างพากันซื้อของจากตัวเมืองเอามาขายที่ร้าน โดยการฝากของมากับรถคอกหมู ส่งตรงถึงหน้าร้านในราคาไม่แพง แค่ชิ้นละ 20 บาท แต่ถ้าไม่มีก็ต้องปิดร้านขับรถไปซื้อเอง เสียเวลา เสียค่าน้ำมัน และเสียโอกาสในการเปิดร้านขายของด้วย

สำหรับรถโดยสารคอกหมู หรือรถสองแถวไม้ เอกลักษณ์ของ จ.สุโขทัย มีมายาวนานถึง 88 ปี โดยรถโดยสารประจำทางคันแรกของเมืองสุโขทัย เจ้าของคือ “แป๊ะเซี่ยงเชย แซ่โง้ว” วิ่งรับส่งผู้โดยสารระหว่าง อ.เมืองสุโขทัย กับ อ.กงไกรลาศ เมื่อปี พ.ศ. 2480 ถนนสิงหวัฒน์เพิ่งจะสร้าง สมัยนั้นยังไม่เรียกรถคอกหมู แต่เพิ่งมาเรียกกันภายหลังตามลักษณะตัวรถ ที่มีไม้กั้นเป็นคอกเหมือนคอกหมู

ประกอบกับสมัยก่อนเคยมีรถโดยสารจาก จ.แพร่ วิ่งรับ-ส่งมาถึงที่ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย โครงตัวถังเป็นไม้สักทรงสี่เหลี่ยมคล้ายคอกหมู มีที่ขึ้นด้านข้าง ชาวบ้านเรียกกันว่ารถคอกหมู ต่อมาจึงถูกใช้เรียกกับรถโดยสารของสุโขทัยด้วย เพราะมีทรงคล้ายคอกหมูเหมือนกัน เป็นที่มาของคำว่า “รถคอกหมู” จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของสุโขทัยไปในที่สุด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลทุ่ม 150 ล้านจัดสงกรานต์ ดันไทยเป็น ‘อาร์ทฮับ’ เปิดพื้นที่เยาวชนโชว์สตรีทอาร์ท

รัฐบาลเร่งเครื่องซอฟต์พาวเวอร์ อัดงบ 150 ล้านจัดสงกรานต์ยิ่งใหญ่ทั่วประเทศ หนุนใส่กางเกงประจำจังหวัด เสริมเอกลักษณ์ไทย พร้อมผลัก

'แพทองธาร' ชูวิสัยทัศน์เวทีกรุงเบอร์ลิน ยกระดับไทยเป็นจุดหมายท่องเที่ยวระดับโลก

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานและกล่าวปาฐกถาในงาน Amazing Thailand Networking Event with the Prime Minister of Thailand ซึ่งจัดขึ้นภายใต้งาน Internationale Tourismus-Börse Berlin 2025 (ITB Berlin 2025)

นายกฯอิ๊งค์ ประกาศไทยพร้อมเป็นผู้นำซอฟต์พาวเวอร์ในเวทีโลก

นายก​ฯ​ ปาฐกถา​พิเศษ​ Global Soft Power Talk​ : The New Rules of Soft Power​ พลิกโฉมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ด้วยไอเดียระดับโลก​ บอกไทยไม่ใช่แค่เป็นดินแดนแห่งรอยยิ้ม-ปลายทางท่องเที่ยว

'อิ๊งค์' พบ 'นาโอมิ' นางแบบระดับโลก ต่อยอดอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์

น.ส.นาโอมิ เอเลน แคมป์เบลล์ นางแบบชื่อดังระดับโลก เข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเรื่องแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่น ในโอกาสเยือนประเทศไทย โดยมี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

รบ.มั่นใจปีนี้ยอดนักท่องเที่ยวแตะ 40 ล้านคนแน่!

'ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ-กิจกรรม' ของไทยคึกคัก รัฐบาลดันไทยสู่ฮับดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพ กระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาว มั่นใจปีนี้ยอดเที่ยวไทยทะลุเกือบ 40 ล้านคนแน่หลังปี 67 แตะเกือบ 36 ล้าน