"ผู้การติ๊บ" ผบ.ฉก.ราชมนู นำรถทหาร 10 คัน รถคุ้มกัน 8 คัน รับตัวเหยื่อชาวต่างชาติ 261 คน ก่อนส่งตัวไปที่ว่าการอำเภอพบพระ เพื่อคัดกรอง มาตรการเข้มกดดันแก๊งคอลเซ็นเตอร์
12 ก.พ.2568 - พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ "ผู้การติ๊บ" ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ซึ่งดูแลพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา 5 อำเภอชายแดน จังหวัดตาก(แม่สอด-ท่าสองยาง-พบพระ-อุ้มผาง-แม่ระมาด) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ได้นำรถมารอรับตัวเหยื่อการค้ามนุษย์ 261 คน ที่ทางกองกำลัง D.K.B.A. ช่วยเหลือและส่งตัวมาในช่วงบ่ายวันนี้ โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า วันนี้เราเตรียมรถมาเพียงพอกับเหยื่อ โดยเป็นรถบรรทุก 10 คัน และรถคุ้มกันอีก 8 คัน ซึ่งตัวเลขขั้นต้นมี 261 คน แต่ต้องรอการยืนยันอีกครั้ง ซึ่งหลังจากหน่วยเฉพาะกิจราชมนูรับตัวแล้ว จะนำตัวไปส่งยังที่ว่าการอำเภอพบพระ ซึ่งได้ประสานนายอำเภอ และผู้กำกับ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ถือเป็นการตรวจสอบขั้นต้น และหลังจากนั้น จะนำไปคัดกรองที่กองร้อย ตชด. ที่อำเภอแม่สอด และดำเนินการตามขั้นตอน NRM ต่อไป
พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ถือว่ามาตรการที่รัฐบาลได้ดำเนินการ อย่างการตัดไฟ งดส่งน้ำมัน ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต ถือว่าได้ผล เพราะเป็นผลกระทบโดยตรงต่อกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ แต่เข้าใจว่าบางส่วนอาจจะกระทบกับพี่น้องประชาชนทั้งสองฝ่าย แต่ต้องขอให้เข้าใจรัฐบาล และเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าอยู่ในช่วงที่ทุกคนต้องเสียสละ เพื่อให้การแก้ไขปัญหานี้มันสำเร็จ
“ถ้าครั้งนี้เราทำไม่สำเร็จ ผมมองว่าไม่มีครั้งไหนที่จะทำสำเร็จแล้ว ครั้งนี้ต้องเดินหน้าเต็มร้อย เพื่อทำให้สำเร็จให้ได้” พ.อ.ณัฐกร กล่าว
ส่วนการปล่อยตัวเหยื่อในครั้งนี้ เป็นเพราะเขาไม่สามารถทำต่อได้ โดยหากเป็นบริษัทเล็ก ๆ จะย้ายฐานการผลิตไปเลย แต่ถ้าเป็นบริษัทใหญ่จะลดระดับเหลือ 50% โดยหากยืดระยะในมาตรการนี้ไปอีก ตนเองคิดว่าพวกเขาจะอยู่ไม่ได้อยู่แล้ว พร้อมยอมรับว่า หลังจากนี้น่าจะมีการปล่อยตัวในล็อตต่อไป
ส่วนการดูแลความปลอดภัยของเหยื่อนั้น เรากับทางกองกำลังฝั่งเมียนมา ไม่ได้เป็นศัตรูกัน ดังนั้นเรายึดเรื่องความปลอดภัยเป็นประเด็นหลัก
พ.อ.ณัฐกร ผบ.ฉก.ราชมนู กล่าวถึงเรื่องการตรวจจับการลักลอบขนส่งสินค้าต้องห้ามไปยังฝั่งเมียนมา ว่า เป็นการส่งในรายย่อย เพราะฝั่งตรงข้ามต้องการน้ำมัน และก็มีมีราคาสูง ซึ่งก็จะมีการลักลอบ ซึ่งเราจับได้ทุกวัน ทั้งน้ำมันที่เป็นถังเล็ก ๆ และโซลาร์เซลล์ต่างๆ
ผบ.ฉก.ราชมนู กล่าวถึงการเข้าตรวจสอบชาวต่างชาติพักเกินเวลา ว่า เมื่อวานนี้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วก็พบ 22 รายที่อยู่เกินเวลา และก็เข้าสู่การดำเนินคดีต่อไป และในสถานการณ์แบบนี้ คาดว่ายังคงมีอยู่อีกหลายคน ส่วนการวางตามแนวชายแดนนั้น ทางผู้บัญชาการทหารบก ให้เพิ่มกำลังทหารแล้ว เพื่อการปฏิบัติการ และแก้ไขปัญหา ส่วนแนวโน้มที่จะมีคนจากฝั่งเมียนมาหลายคนทะลักมายังฝั่งไทยนั้น ก็เป็นผลจากมาตรการที่เราใช้ และได้ผลกับปัญหานี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผู้ว่าฯอุตรดิตถ์ ยันเขื่อนสิริกิติ์ไม่ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว
ผู้ว่า ฯ อุตรดิตถ์ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ กรณีแผ่นดินไหวประเทศเมียนมา ยืนยันเขื่อนสิริกิติ์ไม่ได้รับผลกระทบ ยังคงระบายน้ำตามปกติ ขอประชาชนมั่นใจ
‘ภูมิธรรม’ ส่งกำลังพล -สิ่งของช่วยด้านมนุษยธรรมแผ่นดินไหวเมียนมา
“ภูมิธรรม” ส่งกำลังพล -สิ่ง ของช่วยด้านมนุษยธรรม ค้นหา-ช่วยคนไทย-กู้ภัยแผ่นดินไหวเมียนมา
ยอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวในเมียนมา พุ่งทะลุ 1,644 คน
สำนักข่าวเอเอฟพี ระบุว่า คณะรัฐบาลทหารเมียนมาร์แถลงเมื่อวันเสาร์ว่ายอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเมียนมาร์เพิ่มขึ้นเป็น 1,644 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3,408 ราย
4 ลูกเรือประมง กลับถึงไทยแล้ว
พลเรือเอก พาสุกรี วิลัยรักษ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่ ศาลเมียนมาได้ลดโทษและปล่อยตัว 4 ลูกเรือประมงไทยที่รุกล้ำน่านน้ำเมียนมา ประกอบด้วย นายวิโรจน์ สพานทอง ณ นคร นายถาวร พรหมนิมิตร นายสมปอง วิวัฒน์ และ นายสุนันท์ มงกุฎทอง โดยเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (29 มี.ค.68)
แผ่นดินไหวขนาด 8.2 ที่เมียนมา เสียชีวิต 144 ราย อาฟเตอร์ช็อก 44 ครั้ง
กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานการเกิดอาฟเตอร์ช็อก 44 ครั้ง หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 8.2 ที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา ขณะที่กองทัพเมียนมา เผยมีผู้เสียชีวิต 144 คน และผู้บาดเจ็บกว่า 732 ราย ถือเป็นแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในรอบ 79 ปีของประเทศ
กต. แจ้งเตือนคนไทยในเมียนมา เตรียมอุปกรณ์ยังชีพ หลังแผ่นดินไหว
กระทรวงการต่างประเทศเตือนคนไทยในเมียนมาให้เตรียมตัวรับมือแผ่นดินไหวและแผ่นดินไหวหลังจากเกิดความเสียหายในหลายพื้นที่ พร้อมประกาศฉุกเฉินในหลายภาค