นักท่องเที่ยวจีน แจ้งความบริษัททัวร์ล่องเรือยอร์ชฝ่าธงแดงล่มกลางอ่าวนาจอมเทียน หวิดตายยกครัว

4 ม.ค.2568 - นายเกิง อายุ 42 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีน พร้อมคนในครอบครัวรวม 9 คน เดินทางร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน หลังรอดตายจากเหตุการณ์เรือยอร์ช ล่มกลางอ่าวนาจอมเทียน จ.ชลบุรี โดยทำให้ทรัพย์สิน เงินสด และมือถือ มูลค่ากว่าสองแสนบาท ที่พกติดตัวไปด้วยนั้น จมสูญหายไปกับน้ำทะเล อีกทั้ง โดนบริษัทขายแพ็กเกจทัวร์ ปัดความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายเกิง หัวหน้าครอบครัวชาวจีน เปิดเผยว่า ตนได้พาคนในครอบครัว รวม 9 ชีวิต มาท่องเที่ยวเมืองพัทยา เพื่อฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 มกราคม โดยมีการซื้อแพ็กเกจทัวร์วันเดย์ทริป ในราคา 23,000 บาท ท่องเที่ยวโดยการล่องเรือยอร์ชไปดำน้ำ ทำกิจกรรม และท่องเที่ยวดูธรรมชาติตามเกาะต่างๆ หลังไปเห็นการโฆษณาผ่านแอพพลิเคชั่นวีแชท และตกลงนัดหมายขึ้นเรือกันวันถัดมา ( 3 ม.ค. ) ที่ท่าเรือโอเซี่ยนมารีน่า

เมื่อถึงวันนัดหมายครอบครัวทุกคนดีใจมาก เพราะเป็นแพ็กเกจเหมาลำเรือยอร์ชเที่ยวส่วนตัว ระหว่างจอดแวะพักตามจุด เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อน้ำทะเลทะลักเข้าเรือ และเห็นตัวเรือกำลังค่อยๆจมลงน้ำ เมื่อลูกเรือควบคุมการณ์ไม่อยู่ จึงแจ้งให้ครอบครัวสวมใส่เสื้อชูชีพ และสั่งให้กระโดดลงจากเรือเพื่อหนีเอาตัวรอด ก่อนตัวเรือจะค่อยจมไปพร้อมกับทรัพย์สิน และสัมภาระ แต่โชคดีระหว่างลอยคอ ได้มีเรือเข้ามาช่วยเหลือพาขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย ซึ่งได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่ทุกคนในครอบครัวยังอยู่ในอาการหวาดผวา เมื่อสอบถามไปยังบริษัทขายแพ็กเกจทัวร์ถึงความรับผิดชอบ กลับโดนทางคนขายแพ็กเกจทัวร์ พูดสวนมาทำนองว่า “ช่วยทุกคนรอดตายมาได้ก็ดีแล้ว ทุกอย่างสิ้นสุดแค่นี้” คำพูดดังกล่าวสร้างความเจ็บช้ำใจเป็นอย่างมาก

ซึ่งจริงแล้วคนในครอบครัวไม่ได้ติดใจอะไร แต่พอได้ยินคำพูดแบบนี้ของบริษัททัวร์ ประกอบกับมารู้ตอนหลังว่า เจ้าหน้าที่ชายฝั่งมีการชักธงแดง นั่นหมายถึงสัญญาณเตือน ห้ามลงเล่นน้ำหรือออกเรือ เนื่องจากสภาพอากาศ ทะเลมีคลื่นลมแรง อันตรายอย่างยิ่ง แต่ทางบริษัททัวร์ก็ยังฝ่าฝืนพาคนในครอบครัวไปเสี่ยงชีวิต

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุได้พากันรวมตัวเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.นาจอมเทียน เพื่อเอาผิดและเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทขายแพ็กเกจทัวร์แล้ว อีกทั้งอยากให้หน่วยงานไปตรวจสอบด้วยว่า บริษัทดังกล่าวนั้นเปิดอย่างถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ โดยถ้าหากวันเกิดเหตุมีคนเสียชีวิต สุดท้ายแล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ และทำให้เสียบรรยากาศความมั่นใจของนักท่องเที่ยวอีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อุกอาจ! คนร้ายยิง ‘ศักดา นพสิทธิ์’ พ่อสส.พรรคปชน. อาการสาหัส

เมื่อเวลา 05.30 น. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ธณพ ธารีไทย รอง สารวัตร (สอบสวน) สภ.เสม็ด ได้รับแจ้งเหตุยิงกันที่ร้านข้ามต้มบางปะกง 3 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรายงาน พ.ต.อ

หนุ่มประมง แจ้งความเอาผิดกลุ่มทหารเรือเกือบ 10 นาย รุมทำร้ายร่างกาย

ที่เกิดเหตุบริเวณชายหาด ตรงข้ามหน้าโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ หมู่ที่ 1 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ผู้เสียหายคือ นายอนันต์ นรินทร อายุ 43 ปี

ฮีโร่ 3 นักเรียนจ่าทหารเรือ ช่วยชีวิตหญิงกระโดดสะพานลอยปลิดชีพ

3 นักเรียนจ่าทหารเรือ เข้าช่วยเหลือหญิงสาวพยายามกระโดดสะพานลอยปลิดชีพตัวเอง จนปลอดภัย เหตุโดนแฟนหนุ่มต่างชาติหลอกถ่ายคลิปสัมพันธ์เผยแพร่ในกลุ่มเพื่อน

โกงสนั่น! ผู้ใหญ่บ้าน-ทนาย-ขรก. ร่วมหลอกขายที่ดินเขากระทิง เสียหายเกือบ 40 ล้าน

ที่ห้องสอบสวน สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี น.ส.ลำไย ซ่อมแก้ว อายุ 45 ปี ภรรยา นักโปรแกรมเมอร์ชาวเยอรมัน ผู้เสียหาย พร้อมด้วย พ.ต.อ.พูนชัย ชูรัตน์ ทนายความ นายธเนศ ทวิภมรกุลวงศ์ ทนายความ และครอบครัว ได้เปิดโต๊ะแถลงข่าวขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน

เปิดกล้องวงจรปิด จับตัวผู้ต้องสงสัยฆ่าตัดนิ้ว ชิงทรัพย์ 'แม่ยายอัยการ'

จากกรณี เกิดเหตุสะเทือนขวัญฆ่าชิงทรัพย์ สืบเนื่อง น.ส.วรรณรัตน์ แสงแก้ว อายุ 35 ปี มีสามีเป็นอัยการสำนักงานอัยการแห่งหนึ่ง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.พัฒนนันท์ สมนวล สารวัตรสอบสวนสภสัตหีบ ว่าผู้เป็นมารดา คือ นางวรรณา คีอเนอร์ อายุ 67 ปี