'อนุทิน' ควง 'เนวิน' ทำพิธียกยอดฉัตร วงเวียนรัชกาลที่ 1 เสริมมงคลรับปีใหม่

‘เสี่ยหนู’ ควง ‘บิ๊กอุ้ม-บิ๊กเน’ บิ๊ก ขรก.มหาดไทย-ศึกษาธิการ พ่อเมืองบุรีรัมย์ หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชน ประกอบพิธียกยอดฉัตร 9 ชั้น 364 ต้น ตามโครงการปิดทองเบิกฟ้า สักการบูชา มหาราชรัชกาลที่ 1 เพื่อความเป็นสิริมงคลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

1 ม.ค.2568 - นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธียกยอดฉัตรตามโครงการปิดทองเบิกฟ้า สักการบูชา มหาราชรัชกาลที่ 1 ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช(รัชกาลที่ 1) ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยมี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ พร้อมภริยา นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ,นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต รมว.คมนาคม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชัยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการ นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ คณะรองผู้ว่าฯบุรีรัมย์ หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนร่วมในพิธี

โดยในพิธีได้มีการนิมนต์พระสงฆ์สมณศักดิ์ 20 รูป สวดเจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นนายอนุทิน และคณะ ได้ร่วมกันยกยอดฉัตร ประดิษฐานบนยอดฉัตร 9 ชั้น ทั้ง 364 ต้น โดยรอบบริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช(รัชกาลที่ 1) ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2568

ทั้งนี้ จ.บุรีรัมย์ ได้นำยอดฉัตรจากฉัตร 9 ชั้น จำนวน 364 ต้น ลงมาเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ร่วมกันปิดทองยอดฉัตรและที่ต้นฉัตรทั้ง 364 ต้น เพื่อความเป็นสิริมงคลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มาตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค.67 ไปจนถึงวันที่ 1 ม.ค.68 ตามโครงการปิดทองเบิกฟ้า สักการบูชา มหาราช รัชกาลที่ 1 ประจำปี 2568 เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้ทรงรวบรวมผู้คนก่อตั้ง ‘เมืองแปะ’ และได้มีการพัฒนาให้มีความเจริญรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน ที่เปลี่ยนชื่อเป็นจังหวัดบุรีรัมย์

สำหรับ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จ.บุรีรัมย์ ได้ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2539 ที่บริเวณวงเวียนสี่แยก ถนนสายบุรีรัมย์-สตึก ตัดกับถนนสายบุรีรัมย์-ประโคยชัย เพื่อเป็นการเทิดทูนพระเกียรติคุณ และพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น โดยแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2542 และพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 (สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ในขณะนั้น) เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และสถานที่แห่งนี้กลายเป็นอนุสรณ์สถานในการสักการะและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจังหวัดบุรีรัมย์มาจนถึงปัจจุบัน

จากนั้นในปี พ.ศ.2564 จังหวัดบุรีรัมย์ได้มีโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ และบริเวณโดยรอบ เพื่อให้มีความสวยงามเหมาะสม และสมพระเกียรติมากยิ่งขึ้น เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ผู้ทรงก่อตั้งเมืองบุรีรัมย์ แสดงออกถึงความจงรักภักดี และเหมาะสำหรับให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เดินทางมาสักการะขอพร และเป็นสถานที่จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติสถาบันกษัตริย์ และพระบรมราชจักรีวงศ์ ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจ ความรัก ความสามัคคี และกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวบุรีรัมย์และเกิดประโยชน์ด้านการศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดบุรีรัมย์.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รวบ 2 เยาวชน ยิงตัดขั้วหัวใจลูกชาย อบต.ดับกลางถนน

ตำรวจ สภ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ รวบทันควัน 2 เยาวชน 16 และ 14 ปี ยิงตัดขั้วหัวใจลูกชาย อบต.ดับกลางถนน ขณะขี่ จยย.กลับจากเที่ยวรถแห่กับกลุ่มเพื่อน จะไปเคาว์ดาวน์กับครอบครัวเหลือแค่ 3 นาทีจะถึงวันปีใหม่ ยายร้องไห้แทบขาดใจ มือปืนอ้างอีกฝ่ายจะใช้มีดฟันจึงยิงสวนขอโทษครอบครัวพร้อมรับผิด

'เพิ่มพูน' นำชาวบุรีรัมย์ทำบุญตักบาตรรับปี 2568

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำประชาชนชาวบุรีรัมย์ ร่วมทำบุญตักบาตร เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2568

ส่อง 'พรรคปฏิบัติการ' ปี 68 'ภูมิใจไทย' ถูกขวางยิ่งโต

“พรรคภูมิใจไทย” ภายใต้การนำของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถือเป็นองค์กระกอบตัวแปรสำคัญทางการเมือง ที่ทำให้เกิดรัฐบาลไฟต์บังคับนี้ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย