กกต. เตือนข้อพึงระวังหาเสียงและยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง อบจ.

26 ธ.ค.2567 - สำนักงานคณะกรรมการ​การ​เลือกตั้ง​ (กกต.) ออกเอกสารประชาสัมพันธ์ข้อพึงระวังในการหาเสียง การรายงานค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง   เพื่อให้การเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด  เป็นไปด้วยความเรียบร้อย   โดยความผิดเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง กรณีการสัญญาว่าจะให้ การจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้กับตนหรือผู้สมัครคนอื่น หรือชักชวนให้มีการงดเว้นลงคะแนนให้กับผู้สมัครคนใด มีทั้งโทษจำโทษปรับ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 

ในกรณีจัดทำให้ เสนอให้สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใด  อันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด มีโทษจำคุกตั้งแต่  1 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี 

กรณีให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัดหรือศาสนสถานอื่น  สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใด มีโทษจำคุก ตั้งแต่ 1 - 10 ปี    หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท    หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา  20 ปี

กรณีทำการโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่างๆมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี    หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง  20 ปี

กรณีเลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใดมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี   หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท    หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง  20 ปี

กรณีหลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครใด  มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี   หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท    หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง  20 ปี

กรณีการจัดยานพาหนะนำผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยังที่เลือกตั้งหรือนำกลับจากที่เลือกตั้ง เพื่อการออกเสียงลงคะแนน โดยไม่ต้องเสียค่าโดยสารหรือค่าจ้างมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี   หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง  20 ปี ยกเว้นกรณีที่หน่วยงานรัฐจัดหายานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแต่จะต้องแจ้งให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดรับทราบก่อน ห้ามรบกวนปกครองส่วนท้องถิ่นจะมีการเลือกตั้งอบจ. จัดยานพาหนะอำนวยความสะดวกให้กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 

กรณีห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิได้มีสัญชาติไทยเข้ามีส่วนช่วยเหลือในการเลือกตั้ง หรือกระทำการใด ๆเพื่อประโยชน์แก่การเลือกตั้งที่อาจเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร ทั้งนี้ เว้นแต่การกระทำนั้นเป็นการช่วยราชการตามที่ทางราชการร้องขอ หรือเป็นการประกอบอาชีพตามปกติโดยสุจริตของผู้นั้น  ถือเป็นความผิดมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท

กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่กระทำการใด ๆ อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครเว้นแต่เป็นการกระทำตามหน้าที่และอำนาจ  มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี

และกรณีห้ามมิให้ผู้ใดทำการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการใด ๆ อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร นับตั้งแต่เวลา 18.00 นาฬิกาของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง (ห้ามหาเสียงตั้งแต่เวลา 18.00 นาฬิกาของวันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2568 จนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568)

 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนความผิดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง กรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งใช้จ่ายในการเลือกตั้งเกินจำนวนเงินค่าใช้จ่ายที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกำหนด รวมถึงบรรดาเงินที่บุคคลอื่นได้จ่ายและทรัพย์สินที่บุคคลอื่นได้นำมาให้ใช้หรือยกให้โดยไม่คิดค่าตอบแทน และบรรดาเงินที่บุคคลอื่นได้ใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งให้ผู้สมัครและผู้สมัครได้รับทราบถึงการกระทำดังกล่าว   เป็นความผิดมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 5ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาท หรือปรับ   เป็นจำนวน 3 เท่าของจำนวนเงินที่เกินจำนวนค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดประกาศกำหนด แล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่ากัน หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น มีกำหนด 10 ปี

กรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งภายใน 90 วัน นับแต่วันเลือกตั้งต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด เป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี



และกรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายเป็นเท็จ   มีความผิด โทษจำคุก ตั้งแต่ 1 - 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาท   และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี 

 

/////

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดร.ตี๋ ถือฤกษ์ 26 ธ.ค.นี้ สมัครชิงนายกอบจ.จันทบุรี พร้อมส่งสมัคร สจ. ชนทุกเขต

ภายหลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เปิดรับสมัคร นายกองค์การบริการส่วนจังหวัด(นายกอบจ.) และ สมาชิกสภาจังหวัด(สจ.) ทั่วประเทศ ในวันที่ 23 ธ.ค. 2567  ทำให้สนามการเมืองท้องถิ่น กลับมาคึกคักอีกครั้งนั้น

‘กกต.’ ไม่หวั่นการเมืองหนุนผู้สมัคร อบจ. ชี้ทำบรรยากาศเข้มข้น ไร้สัญญาณรุนแรง

การเลือกตั้งท้องถิ่นถือเป็นรากฐาน ของการพัฒนาการเมืองระดับประเทศ ถ้าท้องถิ่นดีระดับชาติก็จะดีไปด้วย การปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นประชาธิปไตยที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด

'หัวหน้าปชน.' โต้ กกต. ฟัน สส.ชลบุรี ข้อหาเล็กน้อย สั่งทีม กม. สู้คดี

'ณัฐพงษ์' แจง กกต. สั่งดำเนินคดี 'สส.ชลบุรี' ยื่นบัญชีรายจ่ายเลือกตั้งเท็จ ชี้ ปชน. เตรียมทีมกฎหมายไว้แล้ว เชื่อ สังคมมองออก ข้อหาเล็กน้อย กลั่นแกล้งการเมืองหรือไม่

'ชัยศิริ' ยังขลัง! นั่งนายก อบจ.อุตรดิตถ์ สมัยที่ 5 กวาด 9.5 หมื่นคะแนน

องค์การบริหารจังหวัด (อบจ.) อุตรดิตถ์ รายงานผลการเลือกตั้งนายก อบจ.อุตรดิตถ์ อย่างไม่เป็นทางการ (นับคะแนน 100%) ดังนี้ ผู้สมัครหมายเลข 1 นายชัยศิริ ศุภรักษ์จินดา