จับล็อตใหญ่ริมน้ำโขง! ยาบ้าสูตรฟรุ้งฟริ้ง-ไอซ์ มูลค่ารวม 700 ล้านบาท

13 ธ.ค. 2567 – ที่สโมสรสัญญาบัตร กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) จ.นครพนม เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผบ.นรข. พ.อ.ปราโมทย์ เนียมสำเภา รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (รอง ผบ.กกล.ฯ) นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม น.อ.แมนรัตน์ บุญสวัสดิ์ ผู้บังคับการ นรข.เขตนครพนม (ผบ.นรข.เขตฯ) นายนันทวิทย์ นาคแสง ปลัดจังหวัดนครพนม (ปจ.ฯ) พ.ต.อ.วิชิต ดียา รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.(หญิง) จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผู้กำกับกองพิสูจน์หลักฐานฯ และ นายวรพันธ์ ชำนิยันต์ ปลัดจังหวัดบึงกาฬ พร้อมหน่วยงานความมั่นคง ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้า 1,680,000 เม็ด ยาไอซ์ 135 กิโลกรัม และรถยนต์กระบะ 4 ประตู 1 คัน บริเวณริมแม่น้ำโขง ระหว่างบ้านท่าไร่ หมู่ 2 กับบ้านฝอยลม หมู่ 7 ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ

น.ท.จักรกฤษ วังกรานต์ หัวหน้าสถานเรือบ้านแพง จ.นครพนม รายงานผลการตรวจยึดครั้งนี้ว่า ในห้วง 1 สัปดาห์มานี้ มีการตรวจยึดยาเสพติดในพื้นที่ จ.บึงกาฬ, นครพนม และมุกดาหาร เป็นจำนวนมาก คาดว่าขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ คิกออฟลักลอบลำเลียงเข้าฝั่งไทย ในวันและเวลาไล่เลี่ยกัน จึงวางแผนร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ลาดตระเวนในพื้นที่ล่อแหลม ในเขตรับผิดชอบของ สน.เรือบ้านแพง

กระทั่งชุดลาดตระเวน พบรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู รุ่นดีแม็กซ์ สีขาว แล่นจากปากทางเข้าบ้านฝอยลม หมู่ 7 ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ มีพิรุธต้องสงสัย เพราะไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนทั้งหน้าและหลัง จึงแจ้งชุดปฏิบัติการอีกทีมเฝ้าติดตาม ปรากฏว่ารถยนต์ดังกล่าวหายไประหว่างกึ่งกลางบ้านฝอยลมกับบ้านท่าไร่ ทำให้มีความเชื่อมั่นว่าต้องจอดซุ่มอยู่ที่ใดสักแห่งบริเวณใกล้แม่น้ำ พร้อมตีเส้นวางกำลังโดยรอบ และเชื่อหลังพระอาทิตย์ตกดิน ต้องมีการลำเลียงสิ่งผิดกฎหมายเข้ามา จนถึงเวลาประมาณสองทุ่ม วันที่ 11 ธ.ค. กล้องกลางคืนส่องเห็นเรือกีบติดเครื่องยนต์ ล่องมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่ติดเครื่อง ใช้วิธีพายเข้ามาโดยมีชาย 3 คนนั่งอยู่ในเรือ เมื่อเทียบฝั่งก็ช่วยกันแบกวัตถุต้องสงสัยวางไว้ ในขณะที่อีกคนหนึ่งได้แบกขึ้นไปบนถนนคอนกรีตเลียบแม่น้ำโขง เดินข้ามไปถนนอีกฝั่งปรากฏว่ารถกระบะที่หายไปจอดซุ่มอยู่ในป่าแถวนั้น ก่อนจะเปิดประตูด้านหลังยัดกระสอบสีดำเข้าไป เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเข้าจับกุม คนร้ายทั้งสามรีบวิ่งไปขึ้นเรือสตาร์ตเครื่องออกไปกลางแม่น้ำทันที

จากนั้นได้ตรวจสอบริมแม่น้ำโขงบริเวณเรือจอดเทียบท่า พบถุงพลาสติกสี่เหลี่ยมสีดำ 6 กระสอบ และในรถกระบะอีกหนึ่ง รวมเป็น 7 กระสอบ จึงนำของกลางทั้งหมดไปตรวจสอบอบ่างละเอียดอีกครั้งที่ สภ.เรือบ้านแพง ต.นาเข อ.บ้านแพง จ.นครพนม ทราบว่า 4 กระสอบเป็นยาบ้าห่อด้วยกระดาษไขสีเหลือง ประทับตรา 999 และมีรูปดาว 5 ดวงสีน้ำเงินอยู่ด้านบน จำนวน 42 มัดๆ ละ 40,000 เม็ด รวมเป็น 1,680,000 เม็ด ส่วนอีก 3 กระสอบเป็นยาไอซ์น้ำหนักห่อละ 1 กิโลกรัม บรรจุในห่อชาจีน จำนวนกระสอบละ 45 ห่อ รวมเป็น 135 ห่อ/กิโลกรัม จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะส่งมอบของกลางทั้งหมดให้ สภ.เหล่าหลวง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ รับไปดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้ยาบ้าที่พบเป็นตราสัญลักษณ์หมายเลข 999 มีรูปดาว 5 ดวง เป็นของชนกลุ่มน้อยว้าใต้ มีโรงงานและแหล่งผลิตอยู่ที่เมืองยอน ประเทศเมียนม่าร์ มีตราสัญลักษณ์เป็นรูป ถือเป็นตราที่มีสูตรความเข้มข้นของส่วนผสมมากกว่ายาบ้าชนิดอื่น จัดเป็นยาเสพติดเกรดเอและมีราคาแพง ในการตรวจยึดพบว่าเป็นยาบ้าชนิดใหม่ มีสีสวยสดใส เพราะตัวยาเมื่ออยู่ในความมืด จะเรืองแสงระยิบระยับเป็นประกาย กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ค้าและผู้เสพ เนื่องจากออกฤทธิ์รุนแรงกว่าปกติ และมีชื่อเรียกเฉพาะว่ายาบ้าฟรุ้งฟริ้ง และการเรืองแสงในที่มืดได้นั้น มีสัดส่วนประกอบด้วยอะไรบ้าง ซึ่งยังอยู่ในกระบวนการพิสูจน์ นอกจากนี้ยังตกแต่งกลิ่นวานิลลา กล้วยหอม และสตรอเบอร์รีอีกด้วย ราคาอยู่ที่เม็ดละ 150-250 บาท คิดราคากลางเม็ดละ 200 บาท จำนวน 1,680,000 เม็ด เป็นเงิน 336,000,000 บาท

ส่วนยาไอซ์จำนวน 135 ห่อๆ ละ 1 กิโลกรัม จะแพร่อยู่ในสถานบันเทิงกลุ่มไฮโซ ราคาห่อละประมาณ 300,000 บาท เป็นเงิน 40,500,000 บาท คิดมูลค่ารวม 376,500,000 บาท (สามร้อยเจ็ดสิบหกล้านห้าแสนบาทถ้วน) สันนิษฐานว่าชนกลุ่มน้อยทั้งว้าเหนือและว้าใต้ ต้องการเงินไปซื้ออาวุธไว้สู้กับทหารเมียนมา จึงคิกออฟยาเสพติดพร้อมกันทั้งเฮโรอีน ยาไอซ์ และยาบ้า ตลอดแนวแม่น้ำโขงชายแดนอีสานเป็นรายวัน แค่สัปดาห์เดียวหน่วยงานความมั่นคง 3 จังหวัด (บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร) สามารถตรวจยึดยาบ้าได้แล้วประมาณ 20 ล้านเม็ด

ส่วนรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะ มีทะเบียนถอดไว้ในเบาะหลัง เลขทะเบียน งย 4248 ชลบุรี เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง โดยมีชื่อ น.ส.ประภา (สงวนนามสกุล) เป็นคน อ.นาแก จ.นครพนม เป็นผู้ครอบครอง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ผู้การติ๊บ' ลุยคุมเข้มสกัดภัยคุกคามทุกรูปแบบ รักษาอธิปไตยไทย

พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ หรือ “ผู้การติ๊บ” ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ซึ่งดูแลพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา 5 อำเภอชายแดน จังหวัดตาก (แม่สอด-ท่าสองยาง-พบพระ-อุ้มผาง-แม่ระมาด)

บี้รัฐบาล-ผบ.ตร. เร่งกวาดล้างแก๊งค้ามนุษย์ สแกนเข้มชายแดน ฟันทหารตำรวจนอกรีต

'ธนกร' ขอ 'รัฐบาล-ผบ.ตร.' เร่งกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์หลอกลวงคนหางาน ฝากสแกนเข้มตะเข็บชายแดน หวั่นใช้ไทยเป็นฐานนายหน้าส่งต่อเหยื่อ แนะจัดการเด็ดขาดทหาร-ตร.นอกรีด

ซีพี-ซีพีเอฟ สนับสนุนโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่อสวัสดิการกำลังพลกองทัพเรือและครอบครัว

พลเรือเอกจิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ รับมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่อสวัสดิการกำลังพลกองทัพเรือและครอบครัว ของกรมสวัสดิการทหารเรือ อ.บางพระ จ.ชลบุรี จากมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ และ บริษัท

ภูมิธรรม ขีดเส้น 6 เดือนจัดการยาเสพติดจบ

“ภูมิธรรม”  ลั่น 6 เดือน แก้ยาเสพติดต้องจบ เผย 20 ม.ค.68 ประชุม ตร. 76 สถานี-นายอำเภอ 51 แห่งแนวชายแดน ฮึ่ม ไม่ดีขึ้น ผกก.ต้องรับผิดชอบ แจง นโยบายสมัย “ทักษิณ” ผู้ค้าตัดตอนกันเอง รัฐไม่ใช่คนทำ

ฝาก 'บิ๊กต่าย' ขันน็อตตำรวจ คุมเข้มชายแดนสกัดยาเสพติด ช่วงเทศกาล

'ธนกร' ฝาก 'ผบ.ตร.' ขันน็อตตำรวจ สั่งปฏิบัติการพิเศษ ร่วมฝ่ายความมั่นคง คุมเข้มชายแดนสกัดยาเสพติด หวั่นแก๊งค้ายาฉวยโอกาสขนถ่ายช่วงเทศกาลปีใหม่

ร้องผู้ตรวจการฯ สอบ สทนช. ละเว้นปฏิบัติหน้าที่-ข้อมูลไม่ครบ แต่เดินหน้าจัดเวทีสร้างเขื่อนสานะคาม

ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินสอบ สทนช. ละเว้นปฎิบัติหน้าที่-ข้อมูลไม่ครบแต่เดินหน้าจัดเวทีโครงการสร้างเขื่อนสานะคาม