ตร.บุกตรวจกุฏิเจ้าอาวาส หลังโดนแฉส่งคลิปของลับโชว์สีกา-มีอาวุธปืน หลวงพ่อโอดถูกแกล้ง

ชาวบ้านแฉเจ้าอาวาสวัดดัง ส่งคลิปอวัยวะเพศโชว์สีกา มีปืนในครอบครอง  ตร.รุดตรวจสอบกุฏิไม่พบอาวุธปืน ส่วนคลิปโชว์ของลับเป็นอำนาจคณะสงฆ์และสำนักพุทธฯตรวจพิสูจน์ตามขั้นตอน ด้านหลวงพ่อที่ถูกกล่าวหาปฏิเสธไม่เคยมีปืน ยันเสียงแข็งคลิปของลับไม่ใช่ของอาตมา เชื่อถูกกลั่นแกล้งจากกลุ่มคนที่ไม่ชอบส่วนตัว

10 ธ.ค.2567 - จากกรณีชาวบ้านร้องเรียนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ใน ต.จรเข้มาก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมชอบส่งคลิปอวัยวะเพศของตัวเองไปให้สีกาดู ทั้งยังมีปืนไว้ในครอบครอง จึงอยากให้มีการตรวจสอบเพราะไม่อยากให้วงการศาสนาเสื่อมเสีย

จากกรณีดังกล่าว พ.ต.ท.สมบูรณ์ ดีเกษม สารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านบัว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และผู้นำชุมชน ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบตามที่มีการโพสต์ร้องเรียน ซึ่งเป็นวัดแห่งหนึ่งตั้งอยู่ใน ต.จรเข้มาก อ.ประโคนชัย เมื่อไปถึงก็พบพระครู ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัด ที่ถูกร้องเรียนกล่าวหานั่งอยู่ที่กุฏิภายในวัด เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อขออนุญาตเข้าตรวจค้นภายในกุฏิเนื่องจากมีการร้องเรียนว่า เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง แต่จากการตรวจค้นก็ไม่พบอาวุธปืนหรือสิ่งผิดกฎหมายตามที่มีการร้องเรียนแต่อย่างใด จึงไม่สามารถดำเนินการอะไรได้

ส่วนกรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนว่าเจ้าอาวาสส่งคลิปอวัยวะเพศโชว์สีกานั้น ก็พบเพียงกล่องสีน้ำตาลคล้ายกับกล่องที่ปรากฎในคลิปเท่านั้น ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นกล่องเดียวกันกับที่ปรากฏในคลิปหรือไม่

จากการสอบถามเจ้าอาวาสก็ปฏิเสธว่า ไม่มีทั้งอาวุธปืนในครอบครอง และคลิปที่ปรากฎไม่ให้ของเจ้าอาวาส อย่างไรก็ตาม เพื่อความเป็นธรรมทั้งฝ่ายผู้ร้องและเจ้าอาวาสที่ถูกร้อง ก็เป็นหน้าที่ของคณะสงฆ์ หรือสำนักงานพระพุทธศาสนา ที่จะต้องมาตรวจสอบหรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไป

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้นำชุมชน เข้าตรวจสอบกรณีที่มีการร้องเรียนเจ้าอาวาส ก็ได้มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่ไปทำบุญในวัด ก็บอกตรงกันว่า หลวงพ่อเป็นพระนักพัฒนา มั่นใจว่าไม่ได้กระทำตามที่มีการร้องเรียนอย่างแน่นอน และเชื่อว่าหลวงพ่อน่าจะถูกกลั่นแกล้งจากกลุ่มบุคคลที่ไม่พอใจส่วนตัวมากกว่า จึงหาเรื่องร้องเรียนเพื่อกลั่นแกล้ง

ส่วนพระครู เจ้าอาวาสที่ถูกร้องเรียน บอกว่า เรื่องที่ถูกร้องเรียนนั้นไม่เป็นความจริง ทั้งกรณีที่กล่าวหาว่ามีปืนในครอบครอง ยืนยันว่าไม่มีแน่นอนทั้งยังบอกอีกว่าเป็นพระจะมีปืนได้ยังไง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าส่งคลิปของลับไปให้สีกานั้น ก็เชื่อว่าน่าจะถูกกลั่นแกล้งมากกว่า เพราะที่ผ่านมาก็เคยมีคนไปร้องเรียนอาตมาแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นกล่าวหาอาตมาทั้งหมด 3-4 เรื่อง อาทิ เรื่องสีกา เรื่องเงินวัด และเรื่องทำร้ายร่างกายชาวบ้าน ซึ่งอาตมายอมรับแค่เรื่องเดียว คือ เรื่องที่ทำร้ายชาวบ้าน เพราะมีชาวบ้านเข้ามาหาเรื่องอาตมาถึงในวัดในยามวิกาล ทั้งด่าทออาตมาด้วยถ้อยคำหยาบคาย เพราะกล่าวหาว่าอาตมาไปยุ่งกับเมียเขา ซึ่งอาตมาปฏิเสธว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับภรรยาเขาเลย แต่เขาก็ยังด่าอาตมาไม่หยุด จนทนไม่ไหวจึงมีเรื่องชกต่อยกัน แต่ก็เคลียร์กันจบด้วยดีแล้ว ซึ่งครั้งนั้นทั้งสำนักพุทธและคณะสงฆ์ก็มาตรวจสอบแล้ว ก็ไม่พบความผิดตามที่มีการร้องเรียน

แต่จู่ๆ ก็มีเรื่องร้องเรียนกล่าวหาอาตมาอีก หลวงพ่อก็ตัดพ้อว่าเบื่อและเหนื่อยอยากจะสึกแล้ว แต่พอทีมข่าวถามแล้วกล่องสีน้ำตาลที่พบในกุฏิของหลวงพ่อ ซึ่งคล้ายกันกับในคลิปที่เขาโพสต์ร้องเรียน หลวงพ่อก็บอกว่ากล่องนี้อยู่ในกุฏินานแล้ว ไม่รู้ว่าไปเหมือนกล่องในคลิปได้ยังไง ส่วนเฟสบุ๊กที่ชื่อคล้ายกับอาตมาส่งไปให้หาสีกา หลวงพ่อก็บอกว่าอาจจะถูกใครปลอมเฟสเพื่อกลั่นแกล้งหลวงพ่อหรือไม่ ซึ่งก็พร้อมให้ตรวจสอบ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ตามที่มีการร้องเรียน

จากนั้นทีมข่าวได้ไปสอบถามนายเอกณรินทร์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า เรื่องสีกาที่มีการร้องเรียนทางชาวบ้านในหมู่บ้านไม่มีการพูดถึง ได้ยินแต่ชาวบ้านหมู่บ้านอื่นที่เขาพูดกัน ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วก็มีทางคณะสงฆ์มาตรวจสอบที่วัด เพราะมีการร้องเรียนเกี่ยวกับเรืองสีกา เงินวัด และทะเลาะชกต่อยกับชาวบ้าน ส่วนเรื่องที่ท่านมีปืนในครอบครองส่วนตัวไม่เคยเห็นและไม่เคยได้ยินใครพูด แต่หากมีการร้องเรียนอีก ก็เป็นหน้าที่ของคณะสงฆ์ที่ปกครองดูแลเข้ามาตรวจสอบตามที่มีการร้องเรียน ซึ่งหากมีการทำผิดกฎหมาย หรือวินัยสงฆ์ ก็ควรดำเนินการให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย.