ระทึก! ดินสไลด์ลงคลอง หนีตายวุ่น บ้านพังกว่า 20 หลัง

21 ม.ค. 2565 – ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา พ.ต.ท.สิทธิ์พงศ์ ปานไทยสงค์ สารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีเหตุแผ่นดินสไลด์และเกิดการทรุดตัวมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลายสิบหลัง ภายในซอยศรีสัมพันธ์ หมู่ 15 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและมูลนิธิร่วมกตัญญูนำเครื่องไฟส่องสว่างเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเรือนประชาชนหลายสิบหลังคาเรือนที่ปลูกสร้างอยู่ติดลำคลองบางเหีย แผ่นดินได้เกิดสไลด์ลงไปในคลองลึกกว่า 10 เมตรจนบ้านเรือนประชาชนพังเสียหายไปกว่า 25 หลังคาเรือนลงไปกองรวมกันอยู่ด้านล่างประกอบด้วยบ้านที่เป็นหลัง 2 ชั้นจำนวน 3 หลัง และบ้านชั้นเดียวที่ปลูกสร้างลักษณะเป็นห้องแถวอีกกว่า 20 ห้องที่สไลด์หายไปกับแผ่นดินที่สไลด์ลงไปอยู่ในคลอง ชาวบ้านต่างพากันขนข้าวของวิ่งหนีตายออกมากองอยู่ด้านนอก ที่เกิดเหตุไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

โดยเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงอาสาสมัครหลายหน่วยงานต่างระดมกำลังเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนพร้อมทำการปิดปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุเนื่องจากเป็นพื้นที่อันตราย ซึ่งยังมีการลั่นของพื้นคอนกรีตและพื้นดินด้านล่างยังมีการทรุดตัวและสไลด์ลงอย่างต่อเนื่อง

จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า ก่อนเกิดเหตุแนวคันดินที่กั้นระหว่างคลองและคันกั้นน้ำของบ่อดินขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 400 ไร่ที่มีการขุดดินไปขาย และอยู่ฝั่งตรงข้ามได้มีการทรุดตัวและเริ่มสไลด์มาตั้งแต่ช่วงเย็นของวันจันทร์ ที่ผ่านมาและมวลน้ำที่อยู่ในคลองไหลออกจากคลองเข้าไปในบ่อดินขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ติดกัน ทางผู้รับเหมาได้นำรถแม็คโครมาตักดินเพื่อซ่อมแซมแนวดินกั้นคลอง แต่ที่บริเวณตลิ่งเป็นดินนิ่ม จึงทำให้ดินสไลด์มาเรื่อย ๆ และรุนแรงมากขึ้นในช่วงหัวค่ำวันนี้ ส่วนสาเหตุเนื่องจากคันดินของฝั่งบ่อดินแตก จึงทำให้น้ำในคลองไหลเข้าไปในบ่อดินที่มีความลึกกว่า 100 เมตรอย่างรวดเร็วจนน้ำในคลองแห้ง ดินจึงได้สไลด์ลงไปในคลองที่มีความลึกประมาณ 10 เมตรและดึงเอาห้องแถวและบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมคลองพังเสียหายลงไปกองรวมกันอยู่ในคลอง

ขณะที่นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี ที่เดินทางมาดูยังที่เกิดเหตุได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว และได้จัดเตรียมสถานที่อพยพประชาชนผู้ประสบภัย และผู้ที่เสี่ยงภัยกว่า 20 ครัวเรือน ออกนอกพื้นที่ ให้ไปพักพิงที่ศาลาวัดตำหรุ

สำหรับสาเหตุเบื้องต้น ด้าน พ.ต.อ. วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี ได้ระดมทีมพนักงานสอบสวน มาให้บริการกับผู้ที่ได้รับความเสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ในที่เกิดเหตุเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าดูแลทรัพย์สินของประชาชนที่ประสบภัยในครั้งนี้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ อบต.บางปลา เตรียมตั้งกองอำนวยการศูนย์ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ใกล้จุดที่เกิดเหตุ

นายชนินทร์ รุ่งเรือง อดีตนายก อบต.บางปลา ได้ออกมาระบุว่า บ่อดินแห่งนี้คาดว่าจะมีเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 400 ไร่ ซึ่งประกอบกิจการขุดหน้าดินขาย โดยมีการขออนุญาตจากองค์การบริหารส่วนตำบลบางปลา เมื่อหลายสิบปี ซึ่งมีนายทุนที่ทราบชื่อเล่นว่าเสี่ยโย่ง จากนั้นมีการขยายกิจการกว้านซื้อที่ดินที่อยู่ติดกันเพิ่ม เพื่อตักดินขาย ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านระบุว่ามีการขุดลึกลงไปจากพื้นดินปกติไม่ต่ำกว่า 100 เมตร ซึ่งปกติแล้วตามข้อกำหนดในใบอนุญาต กำหนดไว้ว่า จะขุดดินลึกลงไปเท่าใด ต้องเว้นคันดินเอาไว้ทำนั้น คือถ้าขุดลงไป 100 เมตรก็ต้องเว้นคันดินไว้ 100 เมตร แต่เท่าที่สอบถามชาวบ้านพบว่าบ่อดินดังกล่าวทำผิดข้อกำหนดโดยเว้นคันดินไว้ไม่ถึง 50 เมตร จึงทำให้คันดินเกิดการสไลด์ลงไปในบ่อดินที่ขุดลึกลงไปจนน้ำในคลองไหลเข้าบ่อดินจนในคลองแห้งทำให้ดินภายนอกเกิดการสไลด์ลงไปในคลองทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (22 ม.ค.) จะได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ปลาหมอคางดำ' บุกอ่าวไทย ผ่าท้องพบลูกกุ้ง สมุทรปราการระบาดขั้นวิกฤติ

ชาวประมงพื้นบ้านจับปลาหมอคางดำได้นอกเขต 3 ไมล์ทะเล จับผ่าพบมีเคยอยู่ในท้องจำนวนมาก แจ้งนายกสมาคมประมง จ.สมุทรปราการ นำเรื่องเข้าที่ประชุมหารือแนวทางแก้ไขด่วน

'ปลาหมอคางดำ' บุกคลองด่านแล้ว สัตว์น้ำพื้นถิ่นหายเกลี้ยง

ปลาหมอคางดำ ถึงคลองด่านแล้ว เริ่มสร้างปัญหากัดกินทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนเครื่องจักรสังหารมีชีวิต ชาวบ้านหวั่น หากปล่อยไว้อาจทำลายระบบนิเวศ สัตว์น้ำพื้นถิ่นสูญพันธุ์ วอนหน่วยงานตื่นตัวเร่งแก้ไข

ฝนถล่มสมุทรปราการ น้ำท่วมถนนหลายเส้น รถติดตั้งแต่เช้ายันเย็น

มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ โดยเฉพาะถนนปู่เจ้าสมิงพราย ซึ่งเป็นถนนสายหลัก ของการขนส่ง เนื่องจากบริเวณนี้ เป็นที่ตั้งของแหล่งโรงงานอุตสาหกรรม และท่าเทียบเรือจำนวนมาก เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมงแล้ว ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดอย่างหนักตามมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ ได้จัดกำลังลงพื้นที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าว