ไก่ตายปริศนา คืนเดียว 12 ตัว พบพฤติกรรมคล้ายพังพอน ป้ายังเชื่อฝีมือผีกระสือ

ปศุสัตว์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมปศุสัตว์อำเภอละหานทราย กำนัน และ ผญบ. ลงพื้นที่ตรวจสอบไก่ตายปริศนาคืนวันพระคืนเดียว 12 ตัว พบร่องรอยและพฤติกรรมคล้ายพังพอน ไม่น่าจะเป็นสิ่งลี้ลับ พร้อมเตือนชาวบ้านที่เลี้ยงสัตว์ปีกทำเล้าให้มิดชิด ขณะชาวบ้านยังเชื่อเป็นฝีมือปอบหรือกระสัง เพราะก่อนไก่ตาย 2-3 วันเห็นแสงไฟลอยเหนือต้นไม้

18 พ.ย.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ไก่ของนายจรึม และนางแก้ว ดาทอง สองสามีภรรยา ชาวบ้านปากช่อง ต.หนองแวง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ที่เลี้ยงไว้ในเล้าใกล้กับป่าอ้อย ทางทิศตะวันออกของหมู่บ้าน ตายปริศนา คืนวันพระคืนเดียวถึง 12 ตัว ซึ่งแต่ละตัวมีสภาพถูกกัดบริเวณลำคอคล้ายดูดกินเลือด บางตัวถูกกัดหัวขาด และบางตัวถูกคว้านท้องเครื่องในหายไป ขณะที่อีก 4 ตัวหายไปยังหาไม่เจอตัว จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบร่องรอยสัตว์แต่อย่างใด ทำให้เจ้าของไก่และชาวบ้านในพื้นที่ เชื่อว่าไก่ที่ตายปริศนาน่าจะถูกกระสือหรือปอบกิน เพราะมีชาวบ้านเคยเห็นแสงลอยเหนือต้นไม้บริเวณดังกล่าว และครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไก่ตายปริศนาแบบนี้ ก่อนหน้านี้ตายไป 3 ตัว และจะเกิดในคืนวันพระ

ล่าสุดวันนี้ (18 พ.ย.67) นายสัตวแพทย์ สุริยะ กาวงษ์กลาง หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายสันต์ สล่างคำ ปศุสัตว์อำเภอละหานทราย กำนันตำบลหนองแวง และผู้ใหญ่บ้านบ้านปากช่อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณเล้าไก่ ของนายจรึม และนางแก้ว ที่ไก่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ

จากการลงพื้นที่พบว่า เล้าไก่ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับป่า และจากการตรวจสอบบริเวณเล้า รวมถึงดูจากภาพถ่ายซากของไก่ที่ตาย ทำให้เชื่อได้ว่าน่าจะเป็นพังพอน เพราะเป็นสัตว์กินเนื้อและพฤติกรรมก็ชอบกัดที่หัว และจะเลือกกินเฉพาะเครื่องใน

จึงสันนิษฐานว่า ไก่ที่ตายน่าจะเป็นฝีมือของพังพอน รองลงมาก็อาจจะเป็นอีเห็นก็เป็นสัตว์นักล่าที่มีพฤติกรรมคล้ายคลึงกัน ส่วนที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสิ่งลี้ลับก็เป็นความเชื่อของชาวบ้าน ซึ่งก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่หากอยากจะพิสูจน์ก็ต้องลองใช้กับดัก หรือติดกล้องวงจรปิด

ก็ไม่อยากให้ชาวบ้านตื่นตระหนก แต่หากใครที่เลี้ยงสัตว์ปีกต่างๆ ก็อยากให้เพิ่มความระมัดระวัง หรือทำคอกให้มิดชิดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้พังพอนหรือสัตว์นักล่าต่างๆ เข้าไปกินสัตว์ปีกที่ชาวบ้านเลี้ยงเอาไว้ ที่จะสร้างความเดือดร้อนเสียหายได้

ขณะที่ป้าวรรณ อายุ 64 ปี ชาวบ้าน ซึ่งมีนาติดกับนายจรึม ก็ยังเชื่อว่า ไก่ที่ตายเป็นฝีมือของปอบ หรือกระสือ เพราะก่อนที่ไก่จะตาย 2-3 วัน ตนเห็นแสงไฟคล้ายกับไฟตะเกียง ลอยอยู่ระดับหน้าอก ลอยผ่านไปเรื่อยๆ แล้วก็หายไปในป่า แล้วไก่ก็มาตายตรงกับวันพระพอดี จากสิ่งที่เกิดขึ้นและแสงปริศนาที่เห็น ส่วนตัวจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของปอบหรือกระสือ

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'มท.2' ควงอธิบดีที่ดิน ลงพื้นที่เขากระโดง พิสูจน์ปมพิพาทกับ รฟท.

'มท.2' ควงอธิบดีกรมที่ดิน ลงพื้นที่เขากระโดง พิสูจน์ปมพิพาทที่ดิน รฟท. ชาวบ้าน 2 ตำบล โชว์เอกสารสิทธินส.3 หลักฐานยันอาศัยอยู่ตั้งแต่ปู่ย่าตายาย เรียกร้องความยุติธรรม

'บุรีรัมย์'มหานครแห่งกีฬา โชว์2งานระดับโลกต้นปี68 'วิ่งมาราธอน-โมโตจีพี'

รัฐ-เอกชน-ท้องถิ่น ผนึกกำลังความร่วมมืออย่างเต็มระบบ สานต่อโปรเจ็คต์ยิ่งใหญ่ระดับนานาชาติที่จะระเบิดศึกบนผืนแผ่นดินไทย นำโดย การกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา จัดประชุมเตรียมความพร้อม “บุรีรัมย์ มาราธอน 2025” และ “โมโตจีพี สนามประเทศไทย 2025” ที่ไทยรับบทหนักพ่วง 3 อีเว้นต์สำคัญของดอร์น่าสปอร์ต ซึ่งเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนและแฟนความเร็วทั่วโลก

'ภูษิต' หลานชายเนวิน ไขก๊อก 'นายก อบจ.บุรีรัมย์'

นายภูษิต เล็กอุดากร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บุรีรัมย์ หลานชาย นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งนายก อบจ.บุรีรัมย์ ก่อนครบวาระ

นับคะแนนเลือกตั้งท้องถิ่นบุรีรัมย์ ‘เสี่ยชิต’  นำโด่ง นายกฯทน. ‘กลุ่มคนบุรีรัมย์’ ผงาด ส.ท. ทั้ง 4 เขต

นับคะแนนเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลนครบุรีรัมย์ ทั้ง 4 เขต 60 หน่วยเลือกตั้ง คึกคัก ปชช.เฝ้าติดตามด้วยความสนใจ ‘เสี่ยชิต’ คะแนนนำโด่งนายกฯ ทิ้งห่างผู้สมัครคู่แข่ง ขณะ ส.ท. ‘กลุ่มคนบุรีรัมย์’ ก็มีคะแนนนำทั้ง 4 เขต

ตร.บุกตรวจกุฏิเจ้าอาวาส หลังโดนแฉส่งคลิปของลับโชว์สีกา-มีอาวุธปืน หลวงพ่อโอดถูกแกล้ง

ชาวบ้านที่บุรีรัมย์ ร้องเจ้าอาวาสวัดดัง ส่งคลิปอวัยวะเพศโชว์สีกา  และมีปืนในครอบครอง เบื้องต้น ตร.รุดตรวจสอบกุฏิไม่พบอาวุธปืน  ส่วนคลิปโชว์ของลับเป็นอำนาจคณะสงฆ์และสำนักพุทธตรวจพิสูจน์ตามขั้นตอน   ด้านหลวงพ่อที่ถูกกล่าวหาปฏิเสธไม่เคยมีปืน

ส่งศพทารกกระดูกไหปลาร้าหัก ไปชันสูตรที่รพ.ตำรวจ ญาติคาใจสาเหตุเสียชีวิต

ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.อารีย์ยา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ตั้งครรภ์ท้องแรกไปคลอดที่ รพ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 23 พ.ย.67 หลังจากคลอดเด็กมีอาการตัวเหลืองและหัวใจเต้นผิดปกติ