สลด! ผัวเมียลงไปซ่อมบ่อบาดาล ขาดอากาศเสียชีวิตทั้งคู่


14 พ.ย 2567 - นายคำรณ อิ่มเนย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ภายในบ่อบาดาลกลางทุ่งนาที่ ต.นางลือ อ.เมือง จ.ชัยนาท ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์ ปภ.เขต16 ชัยนาท ได้นำอุปกรณ์เข้าไปทำการนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ขึ้นจากบ่อได้แล้ว

สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นในปีนี้ สาเหตุเกิดจากพื้นที่บ่อมีลักษณะแคบและอับอากาศ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดชัยนาท จะมีบ่อน้ำบาดาลลักษณะนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ทำการเกษตร จึงขอฝากเตือนประชาชน ในการที่จะดำเนินการไม่ว่าจะลงไปซ่อมตัวบ่อหรือซ่อมปั๊มน้ำภายในบ่อ ก่อนจะลงไปในบ่อ สิ่งแรกจะต้องตรวจสอบก่อนว่าในบ่อมีอากาศเป็นพิษหรือมีออกซิเจนเพียงพอหรือไม่ โดยเฉพาะบ่อลึกๆให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าใต้บ่อไม่มีออกซิเจนเพียงพอ การที่จะลงไปทำอะไรต้องคำนึกถึงความปลอดภัยเป็นหลัก

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ.เจริญฤทธิ์ โทรสิงห์ ร้อยเวร (สอบสวน) สภ.นางลือ รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตในบ่อบาดาล กลางทุ่งนา ม.5 ต.นางลือ อ.เมืองชัยนาท จึงไปตรวจสอบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาท ที่เกิดเหตุพบบ่อบาดาลกลางทุ่งนา มีขนาดกว้าง 1 เมตร ลึก 10 เมตร ภายในบ่อ พบร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย ชาย 1 ราย หญิง 1 ราย ร่างทับกันอยู่ จากการตรวจสอบผู้เสียชีวิตเป็นสามีภรรยากัน ทราบชื่อ นายเพิ่มพูน พันธุ์ศรี อายุ 53ปี และนางวงเดือน พันธุ์ศรี อายุ 50 ปี ทั้ง 2 คน อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่11 ต.นางลือ อ.เมืองชัยนาท

สอบถาม นายพีรพร พันธุ์ศรี อายุ 30 ปีลูกชาย เปิดเผยว่า ช่วงเย็น ทั้ง 2 คน มาทำหลังคาที่ไว้ใช้กันแดดกันลมให้รถไถ ที่ใช้สูบน้ำบาดาล น่าจะลงไปซ่อมสายพาน เพราะสายพานหลุดต้องลงไปต่อข้างล่างบ่อ พ่อน่าจะลงไปก่อนแล้วไม่ไหว แม่จึงต้องลงไปช่วยจนเกิดเหตุสลดขึ้น ที่ออกมาตามเพราะปกติทั้งคู่จะไม่ค่อยนำรถยนต์ออกมาเพราะทางไม่สะดวกต้องไปดูหลายแปลง และไม่ออกมานานขนาดนี้จึงออกมาตาม ส่วน นายบุญมี ชาลี อายุ 74 ปี พ่อของนางวงเดือน ผู้เสียชีวิต เผยว่า ตอนแรกตนอยู่กับผู้ตาย นั่งกันอยู่ตนไปทำเฝ้านาอีกแปลงหนึ่ง คิดว่า ผู้ตายไม่ลงไปแน่จึงไม่ได้เตือน พอเห็นว่ายังไม่กลับบ้านพอมาดูที่บ่อ ก็ยังเห็นรถกระบะแต่ไม่เห็นคนจึงรีบมาดูที่บ่อ ก็พบว่าเสียชีวิตแล้วทั้งคู่

ทั้งนี้ในช่วงเกิดเหตุเมื่อคืน เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ไม่สามารถลงไปนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นจากบ่อได้ เพราะบ่อมีความลึก และภายในบ่อออกซิเจนไม่เพียงพอ รวมทั้งไม่มีอุปกรณ์ จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ ปภ. ชัยนาท และ ศูนย์ ปภ.เขต 16 ชัยนาท ให้ช่วยนำอุปกรณ์มาช่วยกู้ร่างผู้เสียชีวิต แต่เพราะเป็นเวลากลางคืน ทำให้การนำอุปกรณ์ต่างๆเข้าพื้นที่เป็นไปอย่างลำบาก และเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่เข้ากู้ภัย จึงยังไม่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นจากบ่อในตอนกลางคืน จนกระทั่งในตอนเช้าเจ้าหน้าที่ศูนย์ ปภ.เขต 16 ชัยนาท ได้นำอุปกรณ์ต่างๆ เข้าช่วยนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งสอง ขึ้นมาจากบ่อได้สำเร็จในเวลา 11.00 น. นำส่งให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เขื่อนเจ้าพระยา' ลดระบายน้ำต่อเนื่อง พื้นที่ลุ่มต่ำ 4 จ. ท่วมน้อยลง

แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ และแม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี มีปริมาณลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท

เขื่อนเจ้าพระยา ปรับลดระบายน้ำ ลดผลกระทบพื้นที่น้ำท่วม น้ำทะเลหนุนสูงช่วง 13 ต.ค.นี้

นายวัชระ ไกรสัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2. จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณทรงตัว ประกอบกับ แม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี

ระทึก! รถนักเรียนประถม เกิดเหตุคลัชไหม้ กลิ่นควันคลุ้ง เด็ก 21 คนปลอดภัย

ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท ได้รับแจ้งเหตุ ไฟไหม้รถโรงเรียน บริเวณถนนทางหลวง 311 ฝายน้ำล้น ต.บ้านกล้วย อ.เมืองชัยนาท จึงรีบแจ้งรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือ

'เขื่อนเจ้าพระยา' ระบายน้ำเพิ่มอีก 2 พันลบ.ม. ท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ 3 จังหวัด

หลังจากที่เขื่อนเจ้าพระยาได้ระบายน้ำในอัตรา 1,899 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ติดต่อกัน 6 วัน และได้มีการปรับเพิ่มระบายน้ำแบบขั้นบันได

'น้ำเจ้าพระยา' ขึ้นสูง! ผวาท่วมตลาด-สถานที่เที่ยวชื่อดัง

น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ลอดใต้พนังกั้นน้ำหน้าตลาดสรรพยา เทศบาลต้องเร่งสูบออก ป้องท่วมตลาดและโรงพัก ร.ศ.120 สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง

ตลิ่งแม่น้ำทรุดตัวเพิ่มอีกจุด หลังเขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำ

แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่าน อ เมืองชัยนาท ด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องจากปริมาณ 1,309 เพิ่มขึ้นเป็น 2,164 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจากการเร่งระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จากอัตรา 1,049 เป็น 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที