โวย ตร.ทำคดีฝรั่งขับรถชน ไม่เป็นธรรม ร้องสอบเข้าข่าย ม.157 หรือไม่

พ่อของผู้บาดเจ็บ เข้ายื่นหนังสือร้องสอบพฤติกรรมของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เข้าข่าย ม.157 หรือไม่ ขอให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมอย่างเร่งด่วน

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 8 พ.ย. 2567 ที่ ภ.จว.ขอนแก่น นายธนิศร ปรีดาพันธุ์ อายุ 52 ปี บิดาของ น.ส.วรวรรณา ปรีดาพันธุ์ อายุ 20 ปี ได้เข้ายื่นหนังสือ ขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น แต่ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่นติดราชการ จึงมอบหมายให้ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.สมชัย นิลจันทร์ ผกก.สอบสวน ภ.จว.ขอนแก่น รับหนังสือแทน

พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวว่า จะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แม้พนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนให้พนักงานอัยการแล้วก็ตาม จะมอบหมายให้ ผกก.สอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นทำหนังสือประสานไปที่สำนักงานอัยการเพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวเช่นกัน ขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

ด้าน นายธนิศร กล่าวว่า การมายื่นหนังสือร้องเรียนในครั้งนี้ ก็เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงการตรวจสอบพฤติกรรมของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ถึงแม้คดีนี้จะดูเหมือนว่าเป็นคดีอุบัติเหตุธรรมดา แต่ที่น่าแปลกคือพนักงานสอบสวนไม่มีการ เป่าตรวจวัดระดับแอลกอฮอร์ ไม่มีการแจ้งชนแล้วหนี ไม่มีการนำพาหนะมาตรวจพิสูจน์ร่องรอยเฉี่ยวชน ไม่จัดให้มีการไกล่เกลี่ย โดยคนกลางตาม พรบ.ไกล่เกลี่ย และทั้งหมดนี้จะเข้าข่ายมาตรา 157 หรือไม่ และที่สำคัญคู่กรณีเป็นชาวต่างชาติที่สื่อสารภาษาไทยไม่ได้ แต่มีใบอนุญาตขับขี่ของประเทศไทย

"อุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมาโดยบุตรสาว พร้อมเพื่อนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาบนถนนชาตะผดุง ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดนขับขี่มาในช่องทางด้านซ้ายสุด เพื่อที่จะไปหาร้านรับประทานอาหาร จนกระทั่งมาถึงยังบริเวณทางเข้าชาตะผดุงซอย 8 ได้มีรถยนต์เก๋ง หมายเลขทะเบียน กษ-5745 ขอนแก่น ขับขี่โดย Mr.David D Hunt อายุ 82 ปี เป็นชาวสหรัฐอเมริกา อยู่บ้านเลขที่ 44/20 ม.15 ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ขับเฉี่ยวชนเข้าที่บริเวณที่พักเท้าของรถจักรยานยนต์จนล้ม ก่อนที่รถยนต์คู่กรณีจะขับเข้าไปในซอยโดยไม่หยุดรถดู จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 10 นาที ทาง Mr.David ได้เดินออกมายังจุดเกิดเหตุและพูดจาเป็นภาษาต่างประเทศด้วยการด่าทอ ข่มขู่ ซึ่งทางคู่กรณีแปลได้ว่า Mr.Dvid จะให้ทางผู้บาดเจ็บรับผิดชอบ ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ พร้อมทั้งได้ยึดเอาโทรศัพท์ของเพื่อนบุตรสาวไป โดยอ้างว่าจะใช้เป็นหลักประกันไม่ให้ทางผู้บาดเจ็บหลบหนี บุตรสาวจึงลุกขึ้นไปแย่งเอาโทรศัพท์คืนพร้อมโทรเรียกรถกู้ชีพ 1669 ของทาง รพ.ขอนแก่นได้มารับตัวเพื่อนำส่งต่อให้แพทย์ได้รักษาอาการบาดเจ็บด้วยตนเอง ซึ่งในคดีดังกล่าว มี ร.ต.อ.อนัฐพงษ์ ลีเวียง เป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี โดยทำสำนวนส่งฟ้อง Mr.Dvid ต่อทางอัยการขอนแก่น ในข้อหาขับรถโดยประมาท เพียงข้อหาเดียว"

นายธนิศร กล่าวต่ออีกว่า ในฐานะบิดาของผู้บาดเจ็บ มองว่าข้อหาของสำนวนที่ส่งฟ้องฉบับนี้ อาจส่งผลให้รูปคดีและข้อเท็จจริงเปลี่ยนไป ทำให้การบรรยายฟ้องของอัยการไม่ครอบคลุม ทำให้เสียสิทธิในการเข้าไกล่เกลี่ย ตาม พรบ.ไกล่เกลี่ย และพฤติกรรมของพนักงานสอบสวนรายนี้ เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เนื่องจากทางฝั่งของตน ได้มีการสอบถามถึงกรณีได้มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอร์ตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ พนักงานสอบสวนกลับตอบว่า ได้ดมดูแล้วไม่ได้กลิ่นแอลกอฮอร์เลยไม่ได้ให้เป่าทั้งๆที่ในคำสั่งของ สตช.ได้มีการเน้นย้ำให้พนักงานสอบสวนต้องทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอร์ผู้ขับขี่ในคดีอุบัติเหตุทุกคดี เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนส่งให้อัยการ

“เหตุการณ์และพฤติกรรมทั้งหมด ทำให้ตนที่เป็นบิดาของคนเจ็บที่เป็นผู้เสียหายเกิดข้อข้องใจและถือว่าเป็นเรื่องของการละเว้นการปฏิบัติของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีรายนี้ใน 4 ประเด็น คือเหตุใดไม่ดำเนินการตรวจวัดแอลกอฮอร์ ตามระเบียบคำสั่ง สตช.,เหตุใดไม่แจ้งข้อหาไม่หยุดรถยังจุดเกิดเหตุ (ชนแล้วหนี),เหตุใดไม่นำพาหนะไปดำเนินการตรวจสอบร่องรอยเฉี่ยวชน,ทำไมไม่จัดให้มีการไกล่เกลี่ยโดยใช้คนกลาง ตาม พรบ.ไกล่เกลี่ย”

นายธนิศร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนเรื่องใบอนุญาตขับขี่ประเทศไทย ของ Mr.Dvit นั้น ก็ยังเป็นข้อสงสัยว่าได้มาอย่างไร เนื่องจากเจ้าตัวไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ ซึ่งจะได้มีการหาข้อมูลเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงแม้เวลาจะผ่านมาแล้วกว่า 2 เดือน การรักษาก็ยังไม่เสร็จสิ้นโดยจะต้องเข้ารับการผ่าตัดอวัยวะที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงความหวาดระแวงเมื่อต้องมีการโดยสารพาหนะในการใช้ชีวิตประจำวัน อันเป็นผลมาจากอุบัติเหตุ ซึ่งสาเหตุอาจเป็นได้ว่าทางเจ้าตัวไม่รู้กฏหมายจราจรของประเทศไทยหรือไม่ จึงขอให้ ผบช.ภ.4 และ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ได้ตรวจสอบพฤติกรรมของพนักงานสอบสวนสภ.เมืองขอนแก่นด้วย

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งัด 'มาตรา 5 - แบบ สว.2' บี้ กกต. เปิดข้อมูล 200 สว. 99 สำรอง

'ชาญชัย' งัดมาตรา 5 - แบบ สว.2 ผู้สมัครยินยอมเผยแพร่ จี้ กกต. เร่งเปิดข้อมูลผ่านเว็บไซต์ตามกฎหมายกำหนด ชี้ช่องประชาชนร่วมตรวจสอบสภาสูงชุดใหม่

ป.ป.ช. ฟันอาญา-วินัยร้ายแรง 'อัยการศาลทหารเพชรบูรณ์'

ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด 'อัยการศาลทหารบกเพชรบูรณ์' ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ กรณีรายงานคดีผู้ต้องหาไม่ตรงความจริง แก้ไขข้อความในสารบบความอัยการมิชอบ

กองปราบตั้งอัยการ ที่ปรึกษากฎหมายเอาผิด ม.157 ตำรวจ 13 นาย นำ 6 ตร.ขังเรือนจำ

พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. เรียกประชุมตำรวจชุคคลี่คลายการเสียชีวิตของ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ตำรวจทางหลวง ที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในงานเลี้ยงบ้านนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก หลังจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์

ซ้อนแผนรวบ 'ปลัดอำเภอ' เรียกเงิน 1 แสน ค่าขอต่อใบอนุญาตโรงแรม อ้างเอาไปดูแลนาย

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รรท.ผบก.ปปป. นาย กฤษณ์ กระแสเวส รองเลขา ปปท.นายศิริพงษ์ ศรีตุลา ผอ.กองปราบปรามทุจริตในภาครัฐภูมิ 2 ป.ป.ท.ร่วมแถลงจับกุม น.ส.ฐิฌาพร คงเหมือน อายุ 42 ปี

ผบ.ตร. ยันเอาผิด ตม. 116 ราย เอื้อวีซ่าจีนเทา ยึดตามหลักฐาน ปัดตอบตำรวจโดนระนาว

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)มอบหมายให้ พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบก.ศฝร.บช.น.) ร้องทุกข์ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง 116 ราย

ตร. ตั้ง 3 ข้อหา 2 จนท.สรรพสามิตรีดเงิน เตือนหนุ่มจีนหากกลับคำให้การอาจโดนแจ้งเท็จ

จากกรณีที่ MR.WU YIWEN อายุ 31 ปี ชาวจีน เดินทางเข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ภายหลังจากชายฉกรรจ์ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของกรรมสรรพสามิต เข้ามาขอตรวจค้นภายในร้าน จำหน่ายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ก่อนที่จะจับผู้จัดการร้านและลูกน้องชาวมอญ ขึ้นรถไปพร้อมกับเรียกรับเงินกว่า 3 แสนบาท