
1 พ.ย. 2567 – นายอาคม สุวรรณกันทา ประธานสมาพันธ์ SMEs ไทย จังหวัดเชียงใหม่ และรองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า มาหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นกับเชียงใหม่ปีนี้มีผลกระทบในวงกว้างทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาค SMEs ที่ยังกำลังฟื้นตัวจากโควิด-19 มาไม่นาน ยังมีภาระหนี้ สภาพคล่อง ขาดโอกาสทางการตลาดมาเจออุทกภัยเหมือนเป็นการซ้ำเติมอีกระลอก ทั้งนี้ประเมินผลกระทบภาพรวมไม่น้อยกว่า 6 – 7 พันล้านบาท จึงต้องการการให้รัฐบาลออกนโยบายผ่านสถาบันการเงินผ่อนปรนเรื่องดอกเบี้ย ระยะ 6 เดือน ซึ่งทางออมสินและ SME Bank ได้ออกมาตรการแล้ว
แต่ในระยะยาวเสนอให้รัฐบาลตั้งกองทุน SMEs ระดับอำเภอเพื่อให้เกิดระบบการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่และมีภูมิต้านทาน, การกระตุ้นให้เกิดความเชื่อมั่นและการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวในภาคเหนือให้เกิดอย่างต่อเนื่องและกระตุ้นการบริโภคภาคประชาชนให้สูงขึั้น โดยมีข้อเสนอของภาคเอกชนในนาม กกร. เชียงใหม่ ที่เป็นภาพรวมในการเกื้อหนุน SMEs ด้วยเช่นกัน ในโอกาสที่จะมีการประชุม ครม.สัญจร ที่เชียงรายและเชียงใหม่ปลายเดือนนี้ โดยมีแนวทางดังนี้
จากข้อมูลสรุปรายงานผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดเชียงใหม่ ประมาณการมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท ผู้ได้รับผลกระทบ 150,000 ราย เป็นความเสียหายบุคคลไม่ต่ำกว่า 750 ล้านบาท ความเสียหายครัวเรือน(รวมท่วม 2 รอบ) 20,000 ครัวเรือน ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ภาคธุรกิจโรงแรม ท่องเที่ยว ผลกระทบไม่ต่ำกว่า 2,800 ล้านบาท มีโรงแรมในกลุ่ม SMEs 23 แห่ง บริษัท ธุรกิจ กิจการห้างร้าน SMEs ผลกระทบไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท กกร.เชียงใหม่สรุปข้อเสนอเพื่อขอรับการสนับสนุนในการฟื้นฟูกิจการของผู้ประกอบการ โดยขอรับการสนับสนุนด้านมาตรการทางการเงินจากหน่วยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมอย่างน้อย 12 เดือน ระหว่างตุลาคม 2567-กันยายน 2568 ปรับลดค่างวดการชำระหนี้ลง 50% และปรับลดดอกเบี้ยลง 1% ต่อปีนาน 12 เดือน ระหว่างตุลาคม 2567 – กันยายน 2568 ผู้ได้รับผลกระทบสามารถกู้เงินซ่อมแชมบ้านและสถานประกอบการได้ 100% และเสียดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำ
เพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ โดยสถาบันการเงินของรัฐ หรือกองทุนประชารัฐจากกระทรวงอุตสาหกรรม ควรมีเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ให้กับผู้ประกอบการเพื่อหมุนเวียนและฟื้นฟูกิจการ ขอให้สรรพากรมีมาตรการผ่อนผัน ยกเว้นการเก็บภาษีจากผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบสูงอย่างน้อย 1 ปี เช่น ยกเว้นภาษีนิติบุคคล ขยายเวลาการยื่นภาษี การอุดหนุนสินค้าและบริการของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยให้หน่วยงานรัฐและเอกชนต่างๆพิจารณาสนับสนุนซื้อสินค้าและบริการผู้ประกอบการในเชียงใหม่ก่อน เพื่อกอบกู้และฟื้นฟูให้ไห้ได้ไวที่สุด ผู้ประกอบการที่ได้ผลกระทบจะได้มีกำลังไปต่อได้
ควรมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการต้นทาง (เกษตรกร) ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบส่งให้กับโรงงานอุตสาหกรรม (กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร) อาทิ พักชำระหนีเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม อย่างน้อย 12 เดือน (ตุลาคม 2567 -กันยายน 2568) ปรับลดค่างวดการชำระหนี้ลง 50% และปรับลดดอกเบี้ยลง 1% ต่อปี นาน 12 เดือน(ตุลาคม 2567 – กันยายน 2568) โครงการสินเชื่อพิเศษ Soft Loan
และการขอรับความช่วยเหลือเยียวยาในการดำรงชีวิตของประชาชนจากรัฐบาลด้านสาธารณูปโภค ควรมีการยกเว้นการชำระค่าไฟฟ้าสำหรับที่อยู่อาศัยและสถานประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมประจำเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 2567 การยกเว้นการเก็บค่าน้ำประปาและค่าบริการทั่วไป สำหรับที่อยู่อาศัยและสถานประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมประจำเดือน ตุลาคม – พฤศจิกายน 2567 การดูแลราคาวัตถุดิบอาหาร ตั้งศูนย์สินค้าราคาถูก อุปโภค บริโภค.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ แยกเรื่องถกจีบีซี กับทหารขาขาดราย 9 ชี้หน้าที่กองทัพตอบโต้
นายกฯ ชี้ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาขาดรายที่ 9 คนละเรื่องกับประชุมจีบีซี ส่วนการตอบโต้เป็นหน้าที่กองทัพ
'นักประวัติศาตร์' ร่อนจม.เปิดผนึกถึงนายกฯแนะ 6 ขั้นตอน ขอคืน 'ปราสาทพระวิหาร'
นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก เผยแพร่ จดหมายเปิดผนึก เรื่อง ขอคืนปราสาทพระวิหารและใช้ข้อสงวนสิทธิ์ เรียน ฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรี มีใจความว่า
เปิดเบื้องลึก! ทำไม 'ภูมิใจไทย' มีแคนดิเดตนายกฯแค่ 2 คน
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ "ทำไม ภูมิใจไทย มีแคนดิเดตเพียง 2 คน" โดยระบุว่า
อุตุฯ เตือนอากาศเย็น อุณหภูมิลด 1-3 องศา ใต้ฝนเพิ่มตกหนักถึงหนักมาก
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะดึง 4 กระทรวงแก้เผาอ้อยและพืชไร่
นายกฯ นั่งหัวโต๊ะลงนาม 4 กระทรวง ควบคุมการเผาอ้อยและพืชไร่ ป้องกันปัญหาฝุ่น PM 2.5 ด้านกระทรวงอุตสาหกรรม โชว์ผลงานเผาอ้อยเป็น 0% คืนอากาศบริสุทธิ์ให้ประชาชนช่วงปีใหม่

