แจงดราม่า! งานตักบาตรพระ 1 พันรูป ปล่อยนั่งตากแดด โยนออแกไนซ์รับผิด

23 ต.ค.2567 - ยังคงเป็นกระแสวิจารณ์อย่างหนักในพื้นที่จังหวัดนครพนม กรณีมีผู้ใช้ชื่อ “Kittichai Kaenjan” โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “มนต์พระมานั่งดากแดด จนหลวงพ่อเปียกเมิด บาดเจ้าของนั่งในฮ่ม (พระกะคนใด๋ ฮ้อนเป็นคือกัน) บางอำเภอมาตั้งแต่ตี 3 นั่งถ้าจนหกโมง ครูบาอาจารย์สายกัมมัฏฐานจนได้อดข้าว สิ่งของขนมใส่บาตร จั๊กเหี่ยไปใสเมิด สิเฮ็ดทานมันต้องเฮ็ดให้ปราณีต มันจั่งสิเป็นบุญ บ่แม่นสักแต่ว่าสิเฮ็ด#จั่งแหม่นบ่ได้หนังสือคักซะ ปีหน้าเพิ่นสิมาให้บ่— ที่ ลานพญาศรีสัตตนาคราช นครพนม”

ปรากฏว่ามีคนเข้ามาอ่านโพสต์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก พร้อมแสดงความคิดเห็นและแชร์ออกไปมากกว่า 1 พันครั้ง จนกลายเป็นไวรัล(virol) และเป็นเรื่องราวที่มีคนพูดถึงในโลกโซเชียลอย่างแพร่หลาย โดยส่วนใหญ่มองว่าไม่เป็นการเหมาะสม ที่นิมนต์พระมานั่งตากแดด เพื่อรอรับบิณฑบาตจากญาติโยม

ล่าสุด จังหวัดนครพนม ได้รายงานข้อเท็จจริง กรณีงาน "มหาบุญแห่งศรัทธานครพนม" โดยตามที่ปรากฏข่าวบนสื่อสังคมออนไลน์ ประเด็น "ทัวร์ลงยับ นิมนต์พระ 1 พันรูป ปล่อยนั่งตากแดด" เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมานั้น จังหวัดนครพนม รายงานข้อเท็จจริง ดังนี้ จังหวัดนครพนมได้จัดพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุ - สามเณร จำนวน 1,000 รูป ในงาน "มหาบุญแห่งศรัทธานครพนม” ณ ลานพญาศรีสัตตนาคราช ถนนนิตโย อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ว่าจ้างบริษัทออร์กาไนเซอร์เป็นผู้จัดงาน 'มหาบุญแห่งศรัทธานครพนม" ตามโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวสายมูของจังหวัดนครพนม เมืองแห่งศรัทธาพญานาค โดยมีกิจกรรมตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 1,000 รูป เพื่อเป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่องจากงานประเพณีไหลเรือไฟ

ซึ่งจังหวัดนครพนมได้ประชุมร่วมกับคณะสงฆ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เจ้าคณะจังหวัดนครพนม ทั้งฝ่ายธรรมยุต และมหานิกาย และเจ้าคณะอำเภอ (2 นิกาย) ทั้ง 12 อำเภอ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนม วัฒนธรรมจังหวัดนครพนม ตำรวจ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และบริษัทออร์กาไนเซอร์ผู้จัดงานหารือร่วมกัน

ทั้งนี้ จังหวัดนครพนมดำเนินการนิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 1,000 รูป (สังกัดธรรมยุต จำนวน 300 รูปและมหานิกาย จำนวน 700 รูป) จัดเจ้าหน้าที่รับบาตร จำนวน 300 คน เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม รวมทั้งดูแลความสะอาดของสถานที่ ซึ่งจังหวัดนครพนมเน้นย้ำให้บริษัทออร์กาไนเซอร์ผู้จัดงาน ดูแลอำนวยความสะดวกแก่พระสงฆ์ที่มาร่วมงาน ให้ได้รับความสะดวกสบายที่สุด และให้จัดหาเต๊นท์ ร่มใหญ่ และพัดลม สำหรับพระสงฆ์ และให้บริษัทผู้จัดงานจัดเตรียมปัจจัยถวายพระ 1,000 รูป พร้อมทั้งปัจจัยค่าน้ำมันรถ และให้ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เทศบาลเมืองนครพนม อำนวยความสะดวกการจอดรถแก่พระสงฆ์ที่มาร่วมงาน ทั้งนี้ งานพิธีได้ดำเนินการตามกำหนดเวลา และบริษัทผู้จัดงานได้ถวาย Box Set (อาหารว่าง) แก่พระสงฆ์ทุกรูป อย่างไรก็ตามหากมีข้อผิดพลาดประการใดจังหวัดนครพนมขอน้อมรับ และจะนำข้อผิดพลาดไปปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

ผู้สื่อข่าวได้รายงานเพิ่มเติม ว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นวันทอดกฐินสามัคคีวัดสว่างสุวรรณาราม เขตเทศบาลเมืองนครพนม พระราชสิริวัฒน์ หรือเจ้าคุณเพชร เจ้าคณะจังหวัดนครพนม (มหานิกาย) และเจ้าอาวาสวัดสว่างสุวรรณาราม ได้กล่าวแก่ญาติโยมถึงงานมหาบุญแห่งศรัทธานครพนม ว่า มีคนมานิมนต์ให้ไปร่วมรับบิณฑบาต แต่ท่านได้ตอบปฏิเสธไป โดยคนจัดงานบอกว่านิมนต์พระมาทั้งจังหวัดจำนวน 1 พันรูป พร้อมได้จัดสถานที่ให้พระสงฆ์อยู่อย่างเหมาะสม และก่อนรับบิณฑบาตก็มีข้าวต้มถวาย เอาเข้าจริงๆข้าวต้มก็ไม่มี ถวายแต่ขนมกับนมกล่องเหมือนจัดเบรกประชุม สถานที่ที่อ้างจัดรองรับไว้ก็ไม่มี ปล่อยให้พระนั่งกลางแจ้งนานหลายชั่วโมง ก่อนที่เจ้าคุณเพชรจะกล่าวทิ้งท้ายว่า “อย่าหาเฮ็ดจั๊กเทื่อเด้อบาดนี่”

ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดมหาธาตุ ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม เพื่อนมัสการถามพระปลัดกิตติชัย สุขวัฑฒโน (แก่นจันทร์) อายุ 27 ปี เป็นผู้ช่วยฯและเลขานุการพระครูกิตติสุตานุยุต รองเจ้าคณะจังหวัดนครพนม (มหานิกาย) และ เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ ได้รับการเปิดเผยว่าในวันนั้นท่านติดภารกิจ เนื่องจากที่วัดสอบพระปริยัติธรรม จึงไม่ได้ไปร่วมรับบาตรด้วย แต่เห็นท่านเจ้าอาวาสกลับมาหน้าแดงและเหงื่อชุ่มจีวร จึงสอบถามพระที่ไปด้วยจึงทราบว่าท่านนั่งตากแดดนาน อีกทั้งการนิมนต์ครั้งนี้มี 2 นิกาย คือธรรมยุต และ มหานิกาย โดยเฉพาะพระสายธรรมยุตจะฉันเพียงมื้อเดียว เวลาประมาณ 9 โมงเช้าของทุกวัน ซึ่งวันนั้นทางผู้จัดบอกมีอาหารเช้าเป็นข้าวต้มถวาย ปรากฏว่ามีขนมปัง 1 ชิ้นกับนมกล่องหนึ่ง กว่าจะรับบาตรจากญาติโยมเสร็จก็ประมาณ 8 โมงกว่าๆ เดินทางกลับถึงวัดก็ 11 โมง มันเลยเวลาฉันแล้ว สรุปวันนั้นพระบางรูปท่านไม่ได้ฉันอาหารทั้งวัน บางรูปกลับถึงวัดเป็นไข้เพราะตากแดดนาน

พระปลัดกิตติชัย สุขวัฑฒโน (แก่นจันทร์) กล่าวต่อว่าเหตุที่โพสต์เพราะห่วงใยครูบาอาจารย์ บางรูปอายุ 80 ปี ต้องมานั่งตากแดด แถมรองเท้าก็ไม่ได้ใส่ เป็นพระต้องมีวินัยและสำรวม แม้จะร้อนก็ต้องทนจนกว่าจะเสร็จพิธีกรรม ไม่เหมือนฆราวาสร้อนก็ยังลุกไปหลบแดดได้ จึงอยากให้ผู้ที่จะจัดงานพิธีลักษณะนี้ควรตระหนักให้มากๆ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แก๊งยาเสพติดข้ามชาติ ยัดผงขาว-ไอซ์ มูลค่ากว่า 100 ล้าน ในองค์พระพุทธรูป

ที่หน้ากองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 (ร้อย ตชด.237 กก.ตชด.23) พล.ต.ฉัฐชัย มีชั้นช่วง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) และ  รองผู้บัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด

'นครพนม' ขานรับ 'ธวัชบุรีโมเดล' นำร่อง อ.ศรีสงคราม เส้นทางโจรลำเลียงยาบ้าเข้าตอนใน

พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 (ผอ.กอ.รมน.2) ผู้บัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 24 (ผบ.นบ.ยส.24)

ตม.นครพนม คุมเข้มสกัด 'แก๊งสแกมเมอร์ทิพย์' ปมเจ๊อ้อยโอนเงิน 39 ล้าน

กรณี ตำรวจกองปราบปราม กองบังคับการ 3 ร่วมกับชุดสืบสวนของกองกำกับการ 5 ตำรวจทางหลวง นำกำลังเข้าสกัดจับกุม ทนายตั้ม-นายษิทรา เบี้ยบังเกิด อายุ 43 ปี ในคดีหลอกลวงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย ตามหมายจับศาลอาญา

พี่สาวร่ำไห้ตามหา 'ครูวี' เจอมรสุมชีวิตทับถม ชิงลาออกไปเป็นกรรมกรก่อสร้าง

กรณีมีข่าวลือหนาหูว่ามีครูชำนาญการพิเศษ ลาออกไปเป็นกรรมกรก่อสร้างในกรุงเทพฯ หลังประสบมรสุมชีวิตอย่างเดียวดาย และล้มป่วยสารพัดโรค ก่อนจะตัดสินใจลาออก เพื่อรับเงินบำเหน็จ นำไปใช้หนี้เงินกู้

สิ้นท่า 'ท้าวตู้' ตัวตึงค้ายาฝั่งโขง ยอมแฉหมดเปลือกแลกอิสรภาพ

นครพนม-จู่โจมจับกลางลำน้ำ “ท้าวตู้ตัวตึงฝั่งโขง” พร้อมชาวประมงคนไทยรวม 2 ราย ทำทีหาปลาแฝงขนยาบ้า ลูกเล่นอ้างจะแฉชื่อเอเยนต์ เพื่อแลกกับอิสรภาพ

ทัวร์ลงยับ! นิมนต์พระ 1 พันรูป ตักบาตรริมโขง ปล่อยพระนั่งตากแดดจนเหงื่อชุ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีผู้ใช้ชื่อ “Kittichai Kaenjan” โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีข้อความว่า “มนต์พระมานั่งตากแดด จนหลวงพ่อเปียกเมิด บาดเจ้าของนั่งในฮ่ม (พระกะคนใด๋ ฮ้อนเป็นคือกัน) บางอำเภอมาตั้งแต่ตี 3 นั่งถ้าจนหกโมง