สถานการณ์น้ำใน จ.พิษณุโลก ส่งสัญญาณเริ่มดีขึ้น ทุ่งบางระกำ รับน้ำ 247 ล้าน ลบ.ม หรือ 62% หลายหน่วยงานนำถุงยังชีพมอบให้กับผู้ประอุทกภัยน้ำในท่วมในพื้นที่ อ.บางระกำ เพื่อช่วยเหลือเป็นการเบื้องต้น
13 ก.ย.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งรับน้ำมาจากภาคเหนือ ทำให้น้ำในพื้นที่น้ำยมสายเก่า ที่รับน้ำจาก จ.สุโขทัย ผ่าน อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ อ.เมืองพิษณุโลก ไหลเข้าสู่ทุ่งบางระกำโมเดล ที่สามารถกักน้ำได้กว่า 400 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีปริมาณน้ำที่รับเข้าพื้นที่ 143,415 ไร่ หรือ 54% ขณะที่ปริมาณน้ำ 247 ล้าน ลบ.ม หรือ 62% แล้ว และส่งผลให้ชาวบ้านที่อยู่ริมตลิ่งแม่น้ำยม ยังคงได้รับผลกระทบ
ล่าสุดเช้าวันนี้ พล.ต.กฤษณะ ภู่ทอง ผบ.มทบ.39 และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพิษณุโลก และภาคีเครือข่าย ได้นำถุงยังชีพไปมอบให้กับชาวบ้าน ในพื้นที่ หมู่ 2 บ้านปากคลองชุมแสง ต.ชุมแสงสงคราม และ ที่คุ้มแม่ย่า บ้านคลองปากลาย ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก รวมจำนวนทั้งสิ้น 450 ชุด เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับให้กำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัย
ด้านนายชำนาญ ชูเที่ยง ชลประทานจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า สถานการณ์น้ำแม่น้ำยมสายหลัก ที่ไหลผ่าน อ.บางระกำ มีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และระดับสูงกว่าวิกฤตในเขตชุมชนในส่วนแม่น้ำยมสายเก่าที่ไหลผ่าน อ.พรหมพิราม อ.เมือง ลงมา อ.บางระกำ ระดับน้ำยมสายหลัก เริ่มทรงตัว ที่สถานีวัดน้ำ Y.64 ระดับน้ำสูง 7.96 ม. ปริมาณน้ำไหลผ่าน 575.60 ลบ.ม/วินาที ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง + 1.56 เมตร/ สูงกว่าระดับวิกฤติ เขตชุมชน +0.66 เมตร) ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน - ซม. และมีแนวโน้มลดลง
โดยวันที่ 13-18 ก.ย. 67 มีรายงานว่าจะมีฝนตกชุก และฝนตกสะสมปริมาณมาก ในพื้นที่ภาคเหนือ อาจเกิดน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ และน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยในจังหวัดพิษณุโลก มีพื้นที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ อ.นครไทย (แม่น้ำแควน้อย) อ.วังทอง (แม่น้ำวังทอง) อ.เนินมะปราง และ อ.บางกระทุ่ม (แม่น้ำชมพู) อ.บางระกำ, อ.พรหมพิราม (พื้นที่ลุ่มต่ำ แม่น้ำยมสายหลักและ แม่น้ำยมสายเก่า) จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังดังกล่าวโดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง หากมีปริมาณฝนตกชุกในพื้นที่ สะสมเกินกว่า 50 มม. และพื้นที่อยู่อาศัยอยู่ไกล้กับตลิ่งแม่น้ำ ให้เฝ้าระวัง และตรวจสอบจุดที่ตลิ่งต่ำ ควรเสริมคันคลองให้มีความแข็งแรง และเตรียมความพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และระมัดระวังไฟฟ้าที่อยู่ในที่ต่ำน้ำท่วมถึง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทบ. พบ UAV กัมพูชาล้ำชายแดน 250 ลำ ทบทวนปล่อย 18 เชลย
ทบ. ระบุตรวจพบอากาศยานไร้คนขับจากกัมพูชาล้ำอธิปไตยไทยกว่า 250 ลำ เข้าข่ายละเมิดมาตราการลดระดับตามข้อตกลง GBC ทบทวนปล่อย 18 เชลยศึก
ด่วน! ทหารเหยียบกับระเบิดขาที่ 11 ขณะเข้าเคลียร์พื้นที่ 'สัตตะโสม'
ทหารเหยียบกับระเบิดขาที่ 11 ทบ.เผยเกิดเหตุในพื้นที่ "สัตตะโสม"ขณะที่เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดน เพจกองทัพบกเดือด จี้กัมพูชาต้องชัดเจนเรื่องเก็บกู้ทุ่นระเบิด
กองทัพยังไม่พบเหตุละเมิดหยุดยิง ยันห้ามเขมรกลับเข้า 'บ้านหนองจาน'
กองทัพยันยังไม่พบเหตุการณ์ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง 72 ชม. ไทยยึดเคร่งครัด แจงชาวกัมพูชากลับเข้า 'บ้านหนองจาน' ในเขตฝ่ายไทยไม่ได้
อุตุฯ เตือนอากาศเย็น อุณหภูมิลด 1-3 องศา ใต้ฝนเพิ่มตกหนักถึงหนักมาก
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ทบ.โต้กัมพูชาบิดเบือน ยันกระสุนคลัสเตอร์มีเป้าหมายทหาร ไม่ใช่ทุ่นระเบิดสังหารพลเรือน
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีกระทรวงสารสนเทศกัมพูชา ได้เผยแพร่ภาพวัตถุระเบิด และถ้อยแถลงของ นายลี ทุจ รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา CMAA โดยกล่าวอ้างว่า ไทยมีการใช้กระสุนปืนใหญ่แบบกระสุนคลัสเตอร์ M-46 ในหลายประเด็นดังนี้
กองทัพภาค 2 แจงเฮลิคอปเตอร์ลงจอดฉุกเฉินที่สุรินทร์ ทหารบาดเจ็บ 4 นาย
อากาศยานเฮลิคอปเตอร์แบบ ฮ.ท.212 ของกองทัพบก ได้ประสบเหตุจำเป็นต้องลงฉุกเฉิน ขณะปฏิบัติการร่อนลง ณ สนามบินสุรินทร์ภักดี จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลประจำอากาศยาน

