ป.ป.ช.ตรัง บุกตรวจอาหารกลางวันเด็ก พบไม่ตรงปก ชื่อนักเรียนทิพย์โผล่อื้อ

ป.ป.ช.ตรัง สุ่มตรวจโรงเรียนเอกชนที่ได้รับเงินอุดหนุนจากหน่วยงานของรัฐ เจอเมนูอาหารกลางวันเด็กไม่ตรงปก จ่ายเงินเดือนครูด้วยเงินสด ชื่อนักเรียนทิพย์ไร้ตัวตนโผล่อื้อ บางส่วนแยกไปเรียนโรงเรียนศาสนาไม่มีหลักสูตรแน่ชัด

12 ก.ย.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต พร้อมด้วยเจ้าพนักงานฝ่ายป้องกัน ป.ป.ช.ตรัง ชมรมตรังต้านโกง และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง ลงพื้นที่สุ่มตรวจโรงเรียนเเสงธรรมวิทยาตรังมูลนิธิ 32/1 หมู่1 ตำบล ควนปริง อำเภอเมืองตรัง หนึ่งในจำนวนโรงเรียนเอกชนที่ได้รับเงินอุดหนุนจากหน่วยงานของรัฐ โดยโรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนชั้นประถม 101 คน เด็กอนุบาล 31 คน เงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวัน 132 คน รายหัว 22 บาท มีครูบรรจุ 24 คน

จากนั้นได้ลงตรวจสอบโครงการอาหารกลางวันเด็ก ทางโรงเรียนได้จัดตารางเมนูอาหารในแต่ละวันไว้ แต่ปรากฏว่าวันนี้ เมนูอาหารเด็กอนุบาลไม่ตรงกับเมนูที่ระบุไว้ คือไข่พะโล้ องุ่นเขียว ปูอัดทอด มีเพียงถั่วงอกผัดเพียง 1 อย่าง กับขนมขบเคี้ยว แต่เมื่อไปดูเมนูของเด็กประถม เมนูที่ระบุไว้ ไข่พะโล้ ผัดเผ็ดลูกชิ้น แกงกะทิไก่ใส่มะเขือ เมื่อสอบถามว่ามีไข่พะโล้แล้วทำไมไม่ให้เด็กอนุบาลกิน ทางโรงเรียนอ้างว่า ตื่นเต้นที่ ป.ป.ช.มาตรวจ เลยเกิดความผิดพลาดลืมเอาไข่พะโล้มาให้เด็ก พอจะเอามาให้เด็กก็กินอิ่มกันหมดแล้ว และเห็นว่าอาหารส่วนใหญ่ไม่ตรงกับโถชนาการของเด็กด้วยทั้งปริมาณน้อย

หลังจากนั้นได้สุ่มตรวจห้องทำการเรียนการสอน โดยการขานชื่อนักเรียน จำนวน 3 ห้อง พบว่า ชั้นมัธยม 1/2 รายชื่อนักเรียนมี 31 คน มีตัวตน 14 คน ชั้นมัธยม 2/2 มีรายชื่อ 31 คน มีตัวตน 13 คน ชั้นมัธยม 2/3 มีรายชื่อ 30 คน มีตัวตน 12 คน ไม่มีตัวตน 15 คน ซึ่งจากการลองขานชื่อพบว่าเด็กในชั้นเรียนบอกว่าไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จัก โดยทางสถานศึกษาอ้างว่า เด็กจำนวนดังกล่าว ไปเรียนฮาฟิสที่ มัดรอซะฮ์ อารอบียะฮ์ ซัมซุลอุลูม สถาบันสอนศาสนาอิสลามและท่องจำมหาคำภีร์อัลกุรอาน ปะเหลียนโรงเรียนส่งไปมีจำนวน 150 คน เด็กเหล่านี้มาเรียนเพียงวิชาสามัญเท่านั้น เนื่องจากเป็นเจตนารมณ์ของผู้ปกครองที่อยากให้ลูกเน้นเรียนเกี่ยวกับศาสนาโดยตรง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ตรัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานศึกษาธิการตรัง เดินทางไปยังโรงเรียนสอนศาสนา มัดรอซะฮ์ อารอบียะฮ์ ซัมซุลอุลูม ที่ ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน สถาบันสอนศาสนาอิสลามและท่องจำมหาคำภีร์อัลกุรอานสถานที่แห่งนี้เป็นอาคารห้องแถวชั้นเดียวหลายหลัง ซึ่งเป็นทั้งที่พักของนักเรียน และห้องเรียน

จากการสอบถามครูผู้สอนที่นั่น ทราบว่า ครูใหญ่ได้ไปแสวงบุญต่างประเทศ ส่วนนักเรียนที่มาเรียนที่นี่ส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัด ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากโรงเรียนแสงธรรมฯส่งมา เมื่อสอบถามว่าการมาเรียนที่นี่ต้องทำอย่างไร หลักเกณฑ์การเข้าเรียน หลักสูตรการเรียนการสอนเป็นแบบใหนก็ไม่ได้รับคำตอบ รายชื่อนักเรียนมีเพียงเลขประจำตัว ครูไม่รู้ชื่อไทยของนักเรียนเรียกแต่ชื่ออิสลามเท่านั้น ส่วนเด็กที่มาเรียนที่นี่ต้องเรียนและอยู่ที่นี่สัปดาห์ละ 5 วัน โดยให้เหตุผลว่าหากเรียนแบบรายชั่วโมงนักเรียนไม่ได้ความรู้อะไร ส่วนวันเสาร์วันอาทิตย์ก็ไห้กลับไปเรียนวิชาสามัญที่โรงเรียน จากการลองขานชื่อนักเรียนที่โรงเรียนแสงธรรมฯส่งมาเรียน พบว่ามีบ้างประปราย บางส่วนก็กลับบ้าน บางส่วนก็ไม่มีตัวตน

นางส้าหลี้เฝาะ โต๊ะหลี ตำแหน่งผู้รับใบอนุญาตและผู้อำนวยการโรงเรียนแสงธรรมวิทยาตรังมูลนิธิ กล่าวว่า จากกรณีที่ ป,ป.ช.ประจำจังหวัดตรังลงมาตรวจสอบ ประเด็นที่ 1 กรณีที่ว่าเด็กนักเรียนที่ปรากฏอยู่ในห้องเรียนรายชื่อไม่ตรงกันนั้น ตามปกตินักเรียนอยู่กันครบ และนักเรียนไปเรียนวิชาศาสนาไปเข้าคอสเหมือนกับเราไปเรียนสารพัดช่างหรือการอาชีพ ไปอาทิตย์ละ 2 วัน 1 เทอม 2 เดือน แต่ทางโรงเรียนให้เรียนชดเชย เสาร์ - อาทิตย์ เวลาได้ครบและได้สอบได้เป็นนักเรียนปกติ แต่นักเรียนอยู่ปกติที่นี่ ซึ่งเด็กนักเรียนมาอยู่ที่นี่ประจำ แต่ไม่ได้เรียนรวมกับเพื่อนร่วมชั้น คนที่ไปจะมาเรียนอีกห้องเฉพาะพวกที่ไปไม่ได้เกี่ยวข้องกับเพื่อนร่วมชั้น และครูที่สอนนักเรียนเหล่านี้เป็นครูต่างหากครูมีอยู่ตอนนี้

ส่วนรายชื่อนักเรียนที่มีไม่ใช่นักเรียนทิพย์มีตัวตนจริงๆ วันใหนที่เด็กไม่ไปเรียนจะอยู่ครบ ส่วนเด็กที่มีรายชื่อเรียนจริง ๆ ที่โรงเรียนตอนแรกเขาก็มาสมัครเรียนที่โรงเรียนอยู่ปกติ แต่มีช่วงหนึ่งที่ผู้ปกครองเขาต้องการให้ลูกได้ศาสนาเยอะ เลยส่งไปเรียนคอสพิเศษที่ทางไปน้ำตกโตนเต๊ะ อยากให้ท่านสบายใจว่า โรงเรียนจะโปร่งใสทุกอย่าง หากบกพร่องส่วนไหนพร้อมยินดีแก้ไขเพื่อให้เด็กไทยของเราอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง อย่าให้เขาหลอกลวงประชาชน หลอกลวงตัวเองเพราะฉะนั้นสร้างโรงเรียนของตนจุดประสงค์ไม่ได้อยากให้รวย ไม่ได้อยากทำธุรกิจแต่อยากทำเพื่อพัฒนาเยาวชนที่พลาดโอกาสทางการศึกษา

เมื่อถามถึงจากการลงไปตรวจสอบโครงการอาหารกลางวันเด็กพบว่าเมนูอาหารกลางวันไม่ตรงกับเมนูที่แจ้งเอาไว้ อาหารที่เด็กปฐมวัยได้รับมีเพียงแค่เมนูเดียวนั้น ตรงนี้ปรกติ ไม่ได้แก้ตัววันอื่นที่ไปดูมันมีพร้อมตามนั้น ทั้งนี้ตนเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ชี้แจงตามหัวหน้าที่รับผิดชอบ แต่วันนี้ยอมรับว่าเมนูของอาหารไม่ตรงจริง ๆ ทั้งนี้จะปรับปรุงแก้ไขและจะลงไปดูเอง พร้อมที่จะปรับปรุงตรงนี้

ขณะที่ นายอดิศร แก้วเซ่ง รองศึกษาธิการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ในฐานะของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรัง ซึ่งรับผิดชอบดูแลโรงเรียนเอกชนในจังหวัดอยู่วันนี้ได้ลงมาดูโรงเรียนแสงธรรมวิทยาตรัง มูลนิธิ พร้อมกับ ปปช.ตรัง ซึ่งผลที่เราพบประสบ ก็คิดว่านักเรียนของโรงเรียนแสงธรรมวิทยาฯ ก็มีบางส่วนที่มาเรียนกับศูนย์การเรียนข้างนอก ก็คิดว่าโรงเรียนในระบบจริง ๆ แล้ว ก็สามารถที่จะเปิดการเรียนการสอนได้ 3 ระบบ ด้วยกัน 1.ในระบบโรงเรียน 2. นอกระบบโรงเรียน 3.ตามอัธยาศัย คิดว่านักเรียนบางส่วนที่มาเรียนอยู่ที่ศูนย์การศึกษาที่อำเภอปะเหลียนก็น่าจะเป็นการเรียนนอกระบบ โดยเฉพาะในเรื่องของศาสนา

แต่ทีนี้ตามที่สอบถามคุณครูอยู่ที่ศูนย์การเรียนที่ปะเหลียนก็พบว่าเด็กมาเรียนศาสนาตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์จะกลับไปเรียนสายสามัญที่โรงเรียนแสงธรรมวิทยาฯ ซึ่งเดี๋ยวการที่โรงเรียนเขามีการเรียนการสอนแบบนี้ ทางสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดตรังก็จะไปศึกษารายละเอียดอีกรอบว่าจะทำแบบนี้ได้หรือไม่ ว่ามาเรียนที่ศูนย์ข้างนอกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ไปเรียนในระบบวันเสาร์ วันอาทิตย์จะได้หรือไม่ จะไปดูรายละเอียดของข้อกฎหมายอีกรอบหนึ่ง

เมื่อถามว่าสัดส่วนการเรียน 5:2 จะเหมาะสมหรือไม่ วันทำการมาอยู่ที่นี่ทั้งหมด ตนมองว่าจริง ๆ ถ้าโรงเรียนขอระบบทำการสอนในระบบโรงเรียนอย่างเดียวได้หรือไม่ ตอบว่าไม่ได้ จริง ๆ แล้วเด็กต้องอยู่ในโรงเรียนเท่านั้น เผอิญว่าโรงเรียนแสงธรรมวิทยาฯ เขาสอนแบบควบคู่สอนศาสนาอิสลามคู่กับสายสามัญก็มีบางส่วนที่เขาจะเรียนข้างนอกได้ เขาเรียนแบบตามอัธยาศัย ซึ่งข้อกฎหมายดังกล่าวจะไปดูรานละเอียดอีกรอบว่าจะได้หรือไม่ การที่อ้างว่าเป็นความประสงค์ของผู้ปกครองจริงๆ แล้วไม่สามารถอ้างได้

การอ้างได้ต้องอ้างด้วยข้อกฎหมายเท่านั้นเองว่าจะเปิดการเรียนการสอนตามอัธยาศัยได้หรือไม่ ในส่วนหลักเกณฑ์หลักการเรื่องจำนวนเด็กที่หายไป มันมีบางส่วนเหมือนกันที่เรามาตรวจสอบดูแล้วว่าไม่มีชื่อของเด็กที่อยู่ในระบบ เดี๋ยวอย่างไรก็แล้วแต่เราจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนต่อไปว่านักเรียนที่หายไปอยู่อย่างไร

นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต ป.ป.ช.ตรัง กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงเรียนเอกชนที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ ก็ปรากฏในเรื่องของอาหารกลางวัน ว่าในเรื่องปริมาณและคุณภาพเพราะว่าเด็กอนุบาลได้รับการจัดสรรหัวละ 22 บาท ซึ่งดูเบื้องต้นน่าจะไม่คุ้มค่าตามหลักโภชนาการ ก็ต้องให้ทางศึกษาธิการจังหวัดที่เป็นผู้จ่ายเงินอุดหนุนต้องตรวจสอบต่อไป ส่วนเรื่องของจำนวนนักเรียนจากการตรวจสอบเบื้องต้น ก็ไม่ปรากฏชื่อนักเรียนที่อยู่ในห้องของโรงเรียนแสงธรรมวิทยาตรัง มูลนิธิ ซึ่งทางโรงเรียนได้ให้ข้อมูลว่าได้ส่งเด็กนักเรียนมาเรียนโรงเรียนศาสนา แต่ตามระเบียบแล้วเด็กที่ได้รับเงินอุดหนุนก็ต้องเรียนทุกวันที่โรงเรียนเอกชน ที่รับเงินอุดหนุน ไม่สามารถที่จะส่งไปเรียนที่อื่นได้

ซึ่งพอมาสุ่มตรวจที่โรงเรียนสอนศาสนาก็พบว่ามีบางรายที่ไม่ปรากฏชื่ออยู่ในโรงเรียนที่โรงเรียนแสงธรรมส่งมา ซึ่งเขาเข้าใจว่าส่งเด็กมาเรียนต่อที่โรงเรียนศาสนา ซึ่งตามระเบียบแล้วต้องเรียนที่โรงเรียนแสงธรรมฯเอง ไม่สามารถที่จะไปส่งต่อเรียนที่อื่นได้ และในเรื่องของการสอนหลักสูตรสามัญต่าง ๆ ที่จะต้องมีการเรียนการสอนการสอบการประเมินเดี่ยวทางศึกษาธิการต้องไปตรวจสอบต่อไปอีกครั้ง เงินอุดหนุนเป็นเงินของรัฐ ทางศึกษาธิการก็ต้องตรวจสอบว่าอุดหนุนต่างๆ ไปเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่อย่างไร

รวมทั้งรายบุคคลที่รับเงินอุดหนุนเงินเดือนของครูที่เขาชี้แจงมาว่ามีการจ่ายเงินเดือนครูเป็นเงินสด ซึ่งตามระเบียบต้องจ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกซ์ของธนาคารไม่สามารถที่จะจ่ายเป็นเงินสดได้ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของศึกษาธิการจังหวัดจะต้องไปดำเนินการตามระเบียบหลักเกณฑ์ต่อไป หากไม่ดำเนินการ ปรากฏว่ามีการเบิกเท็จมีหัวไม่ตรงกับรายชื่อจำนวนต่าง ๆ ก็ต้องมีการเรียกเงินคืนต่อไปหรือดำเนินการทางอาญาต่อไป ก็ว่ากันไป

ด้าน นายพรชัย นาคพล คณะกรรมการชมรมตรังต้านโกง กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่ามีหลายเรื่องที่ค่อนข้างจะไม่โปร่งใสและจะต้องปรับปรุง แต่ในฐานะที่เราเองเป็นภาคประชาชนมาร่วมตรงนี้เพียงไปเห็นและก็บอกเท่านั้น นอกเหนือจากนี้ให้กับทาง ปปช.เขาดูแล และส่วนที่ต่อยอดจากโรงเรียนแสงธรรมฯส่งนักเรียนที่มีรายชื่อที่โน่นแล้วมาเรียนศาสนาที่นี่ แต่มาตรวจสอบที่นี่ให้เห็นว่ารายชื่อมีค่อนข้างประปราย คือมีไม่พร้อมกับจำนวนที่เด็กมีอยู่จริงๆ

แต่ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าจะต้องมีการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งหรือไม่ ซึ่งก็ต้องเป็นหน้าที่ของทาง ป.ป.ช. แต่ในฐานะของภาคประชาชนแค่เพียงมองเห็นว่า ระเบียบของที่นี่ก็ต่างไปจากที่อื่น ไม่เหมือนโรงเรียนปกติ คล้าย ๆ เป็นโรงเรียนตามอัธยาศัยไป หลักฐานต่าง ๆ ไม่มีอะไรให้ดูให้ตรวจสอบเป็นชิ้นเป็นอันได้เลยว่าที่นี่มีระเบียบอะไรบ้าง ซึ่งเมื่อถามทางผู้ช่วยศึกษาธิการน่าจะมีการตั้งคณะขึ้นมาตรวจสอบ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เกาะลิบงอ่วมหนักรอบ 30 ปี! คลื่นซัดเรือประมงล่ม 7 ลำ รีสอร์ทพัง ชาวบ้านเผยปีนี้ฝนมาเร็ว

ในพื้นที่เกาะลิบง หมู่ 5 บ้านหลังเขา ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง เกิดเหตุมีเรือประมงพื้นบ้านล่มจำนวน 7 ลำ หลังเกิดฝนตกและลมพายุในทะเลฝั่งอันดามัน โดยนายอ่าสาน ค

ผู้ตรวจ ป.ป.ช. สอบสนามบินตรัง หลังคารั่ว ฝ้าพัง เหตุผู้รับเหมาทิ้งงาน

นายพิเศษ นาคะพันธุ์ ผู้ตรวจราชการสำนักงาน ป.ป.ช. พร้อมด้วย นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต และ นางจิราภา ทินมาลา ผอ.ท่าอากาศยานตรัง เข้าประชุมชี้แจงและให้ข้อมูลปัญหาการก่อสร้างสนามบินนานาชาติตรังล่าช้า

ฝนถล่มตรัง! น้ำท่วมเกาะลิบง น้ำทะเลหนุน บ้านเรือน-โรงแรมเสียหาย

นายอ่าสาน คนขยัน หรือผู้ใหญ่สาน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 บ้านหลังเขา ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง แจ้งว่าภายหลังจากเกิดฝนตกตลอดทั้งคืนในทะเลฝั่งอันดามัน เช้าวันนี้มีฝนตกหนักประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูง

ปลูกข้าวโพดหวาน สร้างรายได้เดือนละกว่าครึ่งแสน

เกษตรกรสองสามีภรรยาชาวอำเภอนาโยง จ.ตรัง ใช้พื้นที่นาข้าวหลังเก็บเกี่ยว หันมาปลูกข้าวโพดหวานฝักใหญ่ เมล็ดเหลืองเรียวยาว เป็นที่ต้องการของตลาด ขายกิโลกรัมละ 25 บาท สร้างรายได้ 1,000-2,000 บาทต่อวัน เคล็ดลับคือทำปุ๋ยหมักจากต้นข้าวโพดนานข้ามปีจึงจะนำมาใช้

โวย 'ป.ป.ช.ตรัง' โยน ป.ป.ช.ปัตตานี ทำคดีแทน ปมนักการเมืองยึดที่สาธารณะ

'ป.ป.ช.ตรัง' อ้างคดีเยอะ ส่งเรื่องชาวบ้านร้องเรียนให้ 'ป.ป.ช.ปัตตานี' ตรวจสอบแทน คดีนักการเมืองท้องถิ่นยึดที่ดินสาธารณะทุ่งเลี้ยงสัตว์เป็นของตนเอง

บุกจับเจ้าแม่เงินกู้รายใหญ่ จ.ตรัง รับสารภาพเก็บดอกเบี้ยโหด เงินหมุนเวียน 3 ล้าน

ตำรวจไซเบอร์เอาจริง! ลุยหนักปราบแก๊งเงินกู้นอกระบบ นำกำลังบุกจับ “เจ๊ขวัญ หาดเลา” เจ้าแม่เงินกู้รายใหญ่ พบหลักฐานคาบ้าน เจ้าตัวรับสารภาพหมดเปลือก ปล่อยเงินกู้เกินกฎหมายกำหนด ร้อยละ 20 บาทต่อเดือน ขยายผลพบมีเงินหมุนเวียนอีกกว่า 3 ล้านบาท