15 ม.ค.2565 - ร.ต.อ.สุกฤษ บึงจันทร์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.แหลมงอบ ได้รับแจ้งจาก พระอธิการภิญโญ เจ้าอาวาสวัดแหลมงอบ ว่ามีพระลูกวัดเกิดทะเลาะวิวาทกันภายในวัด และมีการใช้ของแหลมคมแทงกันจนได้รับบาดเจ็บ หลังรับแจ้งจึงเดินทางมาตรวจสอบ พร้อมนายปฐมพงษ์ เส็งดอนไพร ปลัดอำเภอแหลมงอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แหลมงอบ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราด ได้เดินทางมายังวัดแหลมงอบ
เมื่อมาถึงก็พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังศาลาของวัด ซึ่งเป็นแปลผัก ตรวจสอบทราบว่าได้มีชาวบ้านช่วยกันนำพระลูกวัดที่ถูกแทงด้วยของแหลมคม จนได้รับบาดเจ็บบริเวณแผ่นหลังด้านซ้าย ส่งโรงพยาบาลแหลมงอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทราบชื่อคือ พระโกศล แซ่ตั๋น อายุ 59 ปี สำหรับคู่กรณีที่ก่อเหตุเป็นพระลูกวัดด้วยกันและยังคงอยู่ที่วัด อยู่ในสภาพหัวปูดโน ทราบชื่อ พระพาด บุญลอย อายุ 75 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลแหลมงอบเช่นกัน
สอบถาม พระอธิการภิญโญ เจ้าอาวาสวัดแหลมงอบ ที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เห็นพระทั้ง 2 องค์ ยืนเถียงกันเรื่องต้นไม้(มะเขือ)ที่ปลูกไว้มันเหี่ยวใกล้จะยืนต้นตาย โดยพระพาด กล่าวหาว่า พระโกศล ชอบนำอะไรไม่รู้มาใส่ต้นไม้พวกพืชผักสวนครัว ทำให้ต้นไม้เหี่ยวตายไปหลายต้น ทางพระโกศล ก็ปฏิเสธก่อนที่จะมีการโต้เถียงกัน จากนั้นพระโกศล ก็ได้หันหลังเดินหนีไป แต่ถูกพระพาด ด่าให้ของลับจึงหันกลับมาและเดินมาทุบที่ต้นคอของพระพาด ก่อนจะผลักพระพาดจนล้มลงไปในร่องระบายน้ำหัวกระแทกกับขอบปูนร่องระบายน้ำ จ
จากนั้นพระพาด ก็ลุกขึ้นมาและมีการชกต่อยชุลมุนกัน ก่อนที่ตนจะห้ามและบอกให้แยกย้าย และพบว่าพระโกศล มีรอยถูกแทงด้วยของแหลมคมที่บริเวณแผ่นหลังและมีเลือดไหล แต่ก็ไม่รู้ว่าถูกแทงด้วยอาวุธอะไร ก่อนที่ชาวบ้านใกล้ๆวัดจะทราบเรื่องจึงมานำตัวพระโกศลที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปสอบปากคำ พระพาด ที่โรงพยาบาลแหลมงอบถึงสาเหตุของการเกิดเหตุในครั้งนี้ โดย พระพาด ให้การว่า พระโกศล เคยทำต้นไม้ที่ตนปลูกไว้ตายไปแล้วหลายต้นด้วยการเอาอะไรๆมาใส่จนทำให้ต้นไม้เหี่ยวตาย และวันนี้ตนมาเจอต้นมะเขือเหี่ยวกำลังจะตายอีก จึงด่าว่าลูกใคร หลานใคร มาทำต้นไม้เหี่ยวตายหมด จากนั้นก็มีการพูดจาโตเถียงกันไปมากับพระโกศล และก็ถูกผลักจนล้มหัวฟาดพื้นปูน ตนเองลุกขึ้นมาก็เลยคว้าไม้ไผ่แหลมๆ ที่อยู่ใกล้ๆ ไว้ในมือก่อนจะเข้าไปชกต่อยชุลมุนและไปแทงไปที่บริเวณหลังจนพระโกศลได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การของพระพาด ว่าใช้อาวุธเป็น ไม้ไผ่ แทงพระโกศล เนื่องจากยังค้นหาหลักฐานในที่เกิดเหตุแล้วยังไม่พบตามที่พระพาดกล่าวอ้าง ซึ่งเบื้องต้นได้ให้แพทย์ทำการรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ราย ก่อนจะมีการสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ส่วนพระโกศล ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกแทง แพทย์ให้การรักษาจนปลอดภัยแล้ว ในส่วนของการดำเนินการในทางพระของผู้ก่อเหตุทั้งสองนั้น พระอธิการภิญโญ เจ้าอาวาสวัดแหลมงอบ จะดำเนินการนำเรื่องดังกล่าวรายงานให้พระผู้ใหญ่ในจังหวัดตราด พิจารณาเพื่อดำเนินการตามสมควรต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตราดระทม! จมบาดาล 1 เมตร เดือดร้อน 3 พันคน
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนรักษ์คลองบางพระ ชุมชนวัดโบสถ์ ชุมชนกิจสวัสดิ์ ถนนเทศบาล 3, 5 ถนนพัฒนาการปลายคลอง ถนนกิตติพัฒนา ซอยสืบแสวงทรัพย์ ซอยร่มไทร ซอยสุเหล่าแขกปลายคลอง ซอยสมจริง ซอยศาลเจ้าแม่ตาเหล ยังคงทรงตัว
สุดเซ็ง! ฟาร์มเลี้ยงนกกระทา อ.เมืองตราด น้ำท่วมสูง 60-80 ซม. นกตายไปกว่า 30 ตัว
ฟาร์มเลี้ยงนกกระทา หมู่ 2 ต.วังกระแจะ. อ.เมือง จ.ตราด ของนายเจษฎา บัวหาญ หรือกาย ซึ่งเป็นฟาร์มนกกระทาที่มีเลี้ยงเพื่อขายไข่ส่งขายในตลาดจังหวัดตราด
'ตราด' อ่วมฝนถล่มหนัก อำเภอเมืองจมบาดาล ด้านชลประทานเร่งระบายน้ำ
ฝนถล่มตราดรอบ 2 น้ำท่วมเมือง ถนนสุขุมวิท ตราด - เขาสมิง ท่วม 8 จุดเเสนตุ้งอ่วม,รถสัญจรยากลำบาก แต่ถนนยังไม่ตัดขาด นายกเทศบาลตราดเร่งแก้ไขเร่งด่วน ด้านชลประทานตราดเตือนชาวตราด รับน้ำเพิ่ม หลังน้ำเพิ่มใกล้จุดวิกฤต
ฝนถล่ม จ.ตราด น้ำไหลหลากระบายไม่ทัน ท่วมถนนเขาสมิง-บ่อไร่
ตลอดทั้งวันของวันนี้ จังหวัดตราด มีฝนตกลงหนักอย่างต่อทั่วจังหวัดตราด ตามการพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ประกาศเตือนว่า จังหวัดตราดและจังหวัดจันทบุรี เป็นพื้นที่สีแดง เสียงภัยฝนตกหนักถึงหนักมาก มีปริมาณสะสม 90 มม. ขึ้นไป ตั้งแต่ 06.00 น. วันที่ 19 กรกฎาคม - ถึง 06.00 น. วันที่ 20 กรกฎาคม 2567
เฮ! ได้กลับบ้าน ศาลกัมพูชา ปล่อยลูกเรือประมงไทย 18 คน
ลูกเรือประมงไทย 18 คน และคนไทยอีก 1 คน ถูกส่งตัวกลับไทยข้ามชายแดนหาดเล็ก จ.ตราด กลับถึงไทยพร้อมส่งตัวกลับภูมิลำเนาแล้ว
“บ้านน้ำเชี่ยว 2 ศาสนา3 วัฒนธรรม” สานพหุวัฒนธรรม นำสู่การจัดการจัดการตนเอง (2)
พวกเราได้รู้จักบ้านน้ำเชี่ยวจังหวัดตราดไปแล้ว ต้องบอกว่าเป็นชุมชนที่มีความหลากหลายทั้งในด้านวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม