อำเภอเดียว เจอ 2 ศพในเวลาไล่เลี่ยกัน รายแรกดับปริศนา อีกรายใช้ปืนยิงตัวตาย

สลด! อำเภอท่าม่วง กาญจน์ อำเภอเดียว เจอศพตอนเช้า 2 ศพ เวลาใกล้เคียง ศพแรกเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ศพที่ 2 ผู้เฒ่าวัย 72 ใช้ปืนจ่อยิงขมองตัวเองกะโหลกแตกมันสมองกระจาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.14 น.ของวันที่ 17 ส.ค.67 พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ บัวโพธิ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรีได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดเหตุมีคนพบศพผู้เสียชีวิต
เหตุเกิดบริเวณฟุตบาตรหน้าตึกแถวให้เช่าใกล้เคียงหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาท่าม่วงฯ หลังรับแจ้ง จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง

จากนั้น จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ร่วมกับเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพของมูลนิธิขุนรัตนาวุธ ประจำจุดรอรับเหตุ ต.บ้านใหม่ และจุดรอรับเหตุ อ.ท่าม่วงฯ ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ

พบว่าร่างผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นผู้ชาย สภาพศพนอนหงายแขนขาเยียดยาวอยู่กับพื้น ใกล้ตัวผู้ตายพบขวดน้ำดื่มวางอยู่ 1ขวด ตรวจค้นตัวผู้ตายไม่พบหลักฐานว่า เป็นใครมาจากไหน ผลการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ไม่พบว่า ตามร่างกายของผู้ตายมีบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้าย จุดที่พบศพไม่มีร่องรอยการต่อสู้ แพทย์ไม่สามารถลงความเห็นาเหตุการเสียชีวิตได้ จึงมอบศพให้มูลนิธิฯ นำศพไปเก็บรักษาไว้ที่ รพ.ฯ เพื่อรอญาติ
เนื่องจากทราบจากชาวบ้านว่า ผู้ตายมีญาติก่อนจะนำศพส่งแผนกนิติเวช รพ.ศูนย์ราชบุรี เพื่อให้แพทย์ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุของมูลนิธิขุนรัตนาวุธกำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่นั้น ก็ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.หนองขาว แจ้งให้ ร.ต.ท.(หญิง)วราภรณ์ กาฬภักดี รองสารวัตรสอบสวน สภ.หนองขาวทราบว่า เกิดเหตุมีคนใช้อาวุธปืนจ่อยิงตัวเองจนเสียชีวิต

เหตุเกิดที่บริเวณใต้ต้นไม้หน้าบ้านเลขที่ 110 หมู 4 ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง

จากนั้น จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ให้เดินทางมาร่วมชันสูตรพลิกศพและตรวจเก็บหาหลักฐานในจุดเกิดเหตุ

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เชือกกั้นสถานที่เกิดเหตุไว้ และห้ามไม่ให้ผู้ไม่ส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในที่เกิดเหตุ นอกจากจะได้รับอนุญาตเสียก่อน

จุดเกิดเหตุพบอาสาสมัครกู้ชีพของมูลนิธิขุนรัตนาวุธยืนรอเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจในการชันสูตรพิกศพ จึงสั่งการให้เข้าพื้นที่ได้ ตรวจสอบจุดเกิดเหตุใต้ต้นไม้พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชายสูงอายุ สภาพศพนอนคว่ำหน้า ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีดำเพียงตัวเดียว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง เบอร์ 12 เข้าที่ปาก 1 นัด คมกระสุนทะลุทะลวงแฉลบออกด้านบนของกะโหลกศีรษะ ส่งผลทำให้กะโหลกศีรษะแตกออกเป็น 2 ซีก เศษมันสมองกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น เป็นภาพที่น่าอุดจาดตาต่อผู้พบเห็นยิ่งนัก ตรวจสอบพบว่า ลำตัวของผู้ตายนอนทับอาวุธปืนลูกซองยาว เบอร์ 12 ตกอยู่ 1 กระบอก ตรวจสอบรังเพลิงพบปลอกกระสุนปืน 1 ปลอก และบนพื้นดินมีลูกตะกั่วซึ่งบรรจุอยู่ภายในกระสุนปืนลูกซอง ตกอยู่หลายจุด จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงทำพาราฟีนเทสต์ที่มือของผู้ตาย เพื่อส่งไปตรวจหาคราบเขม่าดินปืน ตรวจสอบหลักฐานบัตรประชาชนของผู้ตายทราบชื่อผู้ตายชื่อนายสน(ขอสงวนผนามสกุล)อายุ 72 ปี ผู้ตายเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว

จากการสอบสวนปากคำบรรดาลูกๆ และญาติทราบว่า ผู้ตายป่วยเป็นโรคหลายโรค ก่อนหน้าที่นายสน ผู้ตายจะยิงตัวตายครั้งนี้ ผู้ตายมักจะบ่นว่า ทุกข์ทรมานกับโรคที่เป็นอยู่ ซึ่งลูกๆ และบรรดาญาติและตำรวจเชื่อว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ตายคิดสั้นยิงตัวตายดังกล่าว สอบถามไม่มีใครติดใจสงสัยสาเหตุการตาย จึงมอบศพให้ลูกๆ และญาตินำศพไปจัดการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไรเดอร์ชายวัย 58 ผูกคอดับคาห้อง เครียดถูกแก๊งเงินกู้นอกระบบโทรขู่อุ้มฆ่า

ระบาดหนัก แอปแก๊งเงินกู้นอกระบบ โทรขู่อุ้มฆ่า ไรเดอร์ชายสูงอายุ เครียดผูกคอดับคาห้อง สังเวยเงินกู้แค่ 2,000 บาท

'ตร.เกษียณ' บุกกระหน่ำยิงอดีตเมียดับ ก่อนฆ่าตัวตาย

ร.ต.อ.สุวิทย์ สุวรรณราช รอง สว. (สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุมีอดีตสามียิงภรรยาเสียชีวิต ตัวผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านเลขที่ 250 หมู่ 7 บ้านทับจาก ต.ทุ่งกระบือ

'อดีตผช.ผญบ.' ยิงกำนันสาวเจ็บสาหัส ก่อนฆ่าตัวตายหนีความผิด

'อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน' ใช้อาวุดปืน .38 จ่อยิงกำนันสาว ต.แก่งโสภา จนบาดเจ็บสาหัส กลางงานเลี้ยง ก่อนยิงตัวเองเสียชีวิตหนีความผิด

ร้องเรียน 4 ปียังไม่แก้ไข! ผู้ประกอบการดูดทรายแม่น้ำหลังบ้าน ดินทรุดเสี่ยงบ้านถล่ม

ชาวบ้านตำบลกลอนโด เดือดร้อนหนัก ผู้ประกอบการท่าทราย นำเรือดูดทรายเข้ามาดูดทรายจากแม่น้ำด้านหลังบ้านจนเกิดดินทรุดเป็นหลุมเป็นบ่อเต็มพื้นที่ ล่าสุด ลามถึงเสาหลังบ้าน เสี่ยงบ้านถล่ม ร้องไปหลายหน่วยงานนานกว่า 4 ปี แต่ยังไร้การแก้ไข