สะเทือนทั้งเกาะยาว ออกหมายจับหนุ่มใช้อาวุธสงครามยิงขู่พนักงานโรงแรม

ตำรวจเตรียมออกหมายจับหนุ่มใช้อาวุธสงครามยิงขู่พนักงานโรงแรม ด้านชาวเกาะยาวยันไม่มีผู้มีอิทธิพลบนเกาะ

5 ส.ค.2567 – จากกรณีที่มีหนุ่มพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่เกาะยาวใหญ่ ได้เดินทางไปกรุงเทพฯ แล้วเข้าร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ว่าถูกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ใช้ปืน M16 ยิงข่มขู่ ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตนซ้อนรถจักรยานยนต์ไปกับเพื่อน

ทั้งนี้ได้แจ้งตำรวจ สภ.เกาะยาว ตั้งแต่เกิดเหตุชกต่อยกันแล้ว ซึ่งตำรวจได้เข้ามาระงับเหตุ แต่ทำได้เพียงยุติความขัดแย้งเบื้องต้น และพอมาเจอกับพ่อของเด็กคู่กรณี สิ่งแรกที่ตำรวจทำคือยกมือไหว้ขอให้ยุติเรื่อง ทั้งที่เห็นว่าพ่อของคู่กรณีถือปืน M16 อยู่ในมือ แต่กลับไม่ดำเนินการตามกฎหมายแต่อย่างใด

พร้อมกับแนะนำตนเองให้หลบไปอยู่ในที่ปลอดภัย ตำรวจยังแนะนำอีกว่าให้มาขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอดที่กรุงเทพฯ เนื่องจากตำรวจในพื้นที่คงช่วยอะไรไม่ได้ ตนเองจึงรู้สึกกลัวจึงรีบเดินทางขึ้นกรุงเทพฯเพื่อมาร้องเรียนดังกล่าว ขณะนี้รู้สึกเป็นห่วงครอบครัวที่เกาะยาวเพราะไม่ได้พาขึ้นมาด้วย เกรงว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับคนในครอบครัว

ด้าน พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา เปิดเผยว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์ ทาง พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี ผบก.ภ.จว.พังงา ได้สั่งการให้ตนเองพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สืบสวน ภ.จว.พังงา นำกำลังลงพื้นที่เก็บหลักฐานและสอบถามพยานเพิ่มเติม และเข้าค้นในจุดที่สงสัยหลายจุด

“ ขณะนี้ได้พยานหลักฐานที่จะออกหมายจับได้ ซึ่งผู้ก่อเหตุมีประวัติในคดีอาชญากรรมมาก่อน เบื้องต้นนั้นคาดว่าผู้ก่อเหตุไปหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว ส่วนในเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำให้ผู้เสียหายไปร้องเพจสายไหมต้องรอด เพราะตำรวจในพื้นที่ทำอะไรไม่ได้นั้น ทางตำรวจภูธรจังหวัดพังงาจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาความจริงในเรื่องนี้ต่อไป” พ.ต.อ.สุจินต์ ระบุ

นายวิทูล บุญสพ กำนั้นตำบลพรุใน และนายภูริภัทร สงวนไถ ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.พรุใน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจากการลงพื้นที่พบว่าเป็นเรื่องของความขัดแย้งกันจากเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่เด็กถูกตะโกนด่า และไปบอกผู้ใหญ่ให้มาเคลียร์กัน ซึ่งเคลียร์กันบานปลายจนเป็นเรื่องใหญ่เกิดขึ้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่ใช่คนในพื้นที่แต่มาอาศัยทำมาหากินอยู่ในเกาะยาว ซึ่งในฐานะผู้นำท้องที่ก็ยืนยันว่าพื้นที่เกาะยาวไม่มีผู้มีอิทธิพล เราอยู่กันอย่างพี่อย่างน้อง ช่วยเหลือกันและกันและเป็นพี่น้องมุสลิมร้อยละ90 ขณะคนที่ก่อเหตุใช้อาวุธ M 16 ตนเองก็ไม่เคยเจอมาก่อน ส่วนนายแจ็คเป็นเจ้าของร้านอาหารในพื้นที่

ด้านนายอนุพงษ์ อาษาราษฎร์ รองนายกเทศมนตรีตำบลเกาะยาวใหญ่ ก็ได้บอกว่า ข่าวที่ออกไปนั้นได้ส่งกระทบต่อชาวเกาะยาว ทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่าบนเกาะยาวมีผู้มีอิทธิพล ใช้ความรุนแรง อยากให้สื่อลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเรื่องของคนจากที่อื่นมาทะเลาะขัดแย้งกันในพื้นที่ ขอยืนยันว่าในพื้นที่เกาะยาวนั้นไม่มีผู้มีอิทธิพล ในส่วนเรื่องของคดีนั้นก็ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะติดตามจับกุมคนก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตื่นกันทั้งจังหวัด! ล่าโจรควงเอ็ม 16 ปล้นเงินล้านเถ้าแก่ซื้อยางพารา

ผู้ว่าฯ เลย – ตำรวจ ลงตรวจพื้นที่ โจรสุดอุกอาจ ควงปืนสงคราม เอ็ม 16 ปล้นเงินล้านเถ้าแก่รับซื้อยางพารากวาดเกลี้ยง 1.8 ล้าน

อาละวาดหนัก! คนร้ายลักตัดผลปาล์มน้ำมันเกลี้ยงสวน ช่วงราคาดี วอนลานเทอย่ารับซื้อของโจร

นายสมร สิงห์แก้ว ประธานสภา อบต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา นำผู้สื่อข่าวไปพบกับ คุณตาประเภท ประทีป ณ ถลาง อายุ 81 ปี อาชีพเกษตรกร อยู่บ้านเลขที่ 58/1 ม.5 ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา