ตราดอ่วม! พายุพัดถล่ม ต้นไม้โค่นล้มกว่า 30 จุด ไฟฟ้าดับนานกว่า 24 ชั่วโมง

26 ก.ค.2567 - ผู้สื่อข่าวจังหวัดตราด รายงานความเสียหายที่เกิดจากลมพายุพัดผ่านจังหวัดตราดที่รุนแรงมาก ทำให้บ้านเรือน ต้นไม้ขนาดใหญ่ล้ม และทับบ้าน ทับสายไฟฟ้า เสาไฟฟ้าได้รับความเสียหายในวงกว้าง พร้อมทำให้ระบบการจ่ายไฟฟ้าของจังหวัดตราดไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ ส่งผลให้จังหวัดตราดไม่มีไฟฟ้าใช้นานกว่า 12 ชม. และในอีกเกือบ 10 ตำบลยังต้องรอการซ่อมแซมจนกว่าจะใช้ได้ที่อาจจะใช้ได้ภายในเช้าวันที่ 27 กรกฎาคมนี้

โดยการไฟฟ้าจังหวัดตราดได้ระดมกำลังคน เครื่องมือ เครื่องยนต์เกือบทั้งจังหวัดเข้าแก้ไขปัญหาต้นไม้ล้มทับสายไฟฟ้า และเสาไฟฟ้าที่หักทำให้การจ่ายไฟฟ้าทำไม่ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 ตำบล คือ ต.หนองคันทรง ต.ห้วงน้ำขาว และตำบลอ่าวใหญ่ ไฟฟ้าไม่สามารถจ่ายไฟได้เพราะสายขาด เสาไฟฟ้าล้ม และต้องเร่งดำเนินการซ่อมตลอดเส้นทาง สำนักงานราชการ องค์กรปกครองท้องถิ่น โรงเรียน ร้านค้าของประชาชนได้รับผลกระทบ และขาดรายได้ รวมทั้งสินค้าที่ต้องใช้ไฟฟ้าไม่สามารถผลิตได้ ทั้งน้ำดื่ม ไอศคกรีม หรือธุรกิจท่องเที่ยวจองเดินทางมาเที่ยวเกาะกูด เกาะหมากไม่ได้

เจ้าหน้าที่ไฟฟ้าตราดที่ระดมคน และกำลังเครื่องจักรมาช่วยตัดต้นไม้ที่ล้มทับ และทำให้เสาหัก ต้องใช้เวลานานในการแก้ไข เนื่องจากเกิดขึ้นกว่า 20 -30 จุดพร้อมกัน ตลอดแนวเส้นทาง

นายนิพล ยนจอหอ ผู้จัดการการไฟฟ้าภูมิภาคตราด กล่าวว่า เกิดพายุรุนแรงพัดผ่านจังหวัดตราดเมื่อเย็นวานนี้ ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ และขนาดเล็กล้มทับสายไฟ และกระชากเสาไฟหักในหลายจุด และเกิดขึ้นในทุกอำเภอ ซึ่งหลังเกิดเหตุทางการไฟฟ้าเข้าไปแก้ไข และช่วยเหลือประชาชนได้ทันในระยะแรก แต่จุดที่มีความเสียหายมากกว่านั้นก็คือ เหตุการณ์เสาไฟฟ้าล้มที่ตำบลห้วงน้ำขาว

และสายไฟฟ้าขาดที่ต.อ่าวใหญ่ ล้วนเป็นสิ่งที่ไฟฟ้าตราดเร่งแก้ไขที่ผ่านมาเมื่อตี 3 ของวันที่ 26 ก.ค. ก็สามารถปล่อยไฟไปที่อำเภอคลองใหญ่ และอำเภอเกาะกูดได้เมื่อเวลา 03.00 น.ของวันนี้ แต่อีก 2-3 ตำบลในอำเภอเมืองตราด คือ ต.หนองคันทรง ต.ห้วงน้ำขาว และต.อ่าวใหญ่ไฟฟ้ายังต้องเร่งแก้ไขเพื่อให้สามารถจ่ายไฟให้ได้ภายในคืนนี้เป็นอย่างช้า

ด้านนายไพโรจน์ ไกรญาติ รองนายกอบต.อ่าวใหญ่ กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นในตำบลอ่าวใหญ่มีสูงมาก บ้านเรือนนับ 100 หลังคาเรือนถูกลมพัดแรงทำลาย แต่ส่วนใหญ่เป็นกระเบี้ยง และบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลังมีไม่มากนัก แต่หลังคาที่จอดรถยนต์ของนักท่องเที่ยว ซึ่งอยู่เกาะกูด มีรถยนต์ที่จอดไว้ที่ฝั่งถูกลมพายุ พัดจนหลังคาที่จอดรถยนต์พักและทับรถยนต์ที่จอดได้รับความเสียหายจำนวนหลายสิบคัน ส่วนไฟฟ้าที่ไม่มีใช้ทำให้พนักงานอบต.อ่าวใหญ่ต้องทำงานทั้งที่ดับๆ แต่ย้ายออกมาอยู่ภายนอกอาการ เนื่องจากอากาศภายในอบอ้าว

นายไพโรจน์ กล่าวอีกว่า จากพายุฝนรุนแรงครั้งนี้ ทำให้นายกอบต.อ่าวใหญ่ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ไปชนเชือกที่ห้อยพาดอยู่เกี่ยว นายกอบต.อ่าวใหญ่ตกจากรถจักรยานยนต์หัวฟาดต้องรีบนำส่งรพ.กรงเทพ-ตราดโดยด่วน และเย็บไป 18 เข็ม ซึ่งระหว่างนั้นนายกอบต.อ่าวใหญ่จะออกไปตรวจสถานการณ์น้ำท่วมและบ้านเรือนพังในพื้นที่ แต่ต้องมาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว

ชาวบ้านระบุว่า ไม่มีไฟฟ้ามาเกือบ 24 ชม.ยังไม่สามารถใช้ได้ และได้รับผลกระทบจากการที่ทำธุรกิจไม่ได้ และไม่สะดวก หลายธุรกิจได้รับความเสียหายเพราะต้องใช้ความเย็น หรือต้องใช้ในการสูบลมซ่อมจักรยานยนต์ หรือร้านปล่อยสินเชื่อต้องติดตามลูกค้า และการทำเอกสารทางออนไลน์ รวมทั้งธุรกิจท่องเที่ยวทั้งเรือบุญศิริ และเสือดำโก ไม่สามารถติดต่อกับผู้ใช้บริการได้สะดวก ทั้งในเรื่องการจองที่นั่งไปไปท่องเที่ยวในช่วงหยุด 3 วันด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อุตุฯ เตือนฝนฟ้าคะนอง 26 จังหวัด พายุ 'แคมี' อ่อนกำลังลง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า บริเวณภาคตะวันออก และด้านตะวันตกของภาคเหนือมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและด้านตะวันตกของภาคกลาง

กรมอุตุฯ เตือน 30 จังหวัดเจอฝนตกหนัก 60% ใน 24 ชม.ข้างหน้า

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 5 อัปเดตเส้นทางพายุโซนร้อน 'พระพิรุณ'

นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “พระพิรุณ” ฉบับที่ 5 (145/2567) โดยมีใจความว่า

อุตุฯ เตือนฝนฟ้าคะนอง 36 จังหวัด รับมือท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับพายุโซนร้อน

กรมอุตุฯ ประกาศฉ.4 พายุพระพิรุณขึ้นฝั่งจีนตอนใต้ 21-23 ก.ค. ไม่ส่งผลกระทบไทย

พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ