เร่งระดมสรรพกำลังแก้ไขเหตุ 'อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ' แตก ปชช.สูญหาย 1 ราย

17ก.ค.2567- จากเหตุการณ์ อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ แตก เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา เพจ ประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคามPRSarakham โพสต์ข้อความระบุว่า

จ.มหาสารคาม เร่งระดมสรรพกำลังแก้ไขเหตุอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำแตกที่อำเภอบรบือ

วันที่ 16 กรกฎาคม 2567 เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุอาคารระบายน้ำล้นอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ ต.โนนราษี อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ถูกกัดเซาะ ทำให้ทำนบดินระบายน้ำลงช่องอาคารระบายน้ำล้นขาดเป็นทางยาวประมาณ 50 เมตร ส่งผลให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและที่อยู่อาศัยของประชาชนเป็นบริเวณกว้าง และไหลลงสู่พื้นที่ 5 ตำบล คือ ต.โนนราษี ต.กำพี้ ต.ดอนงัว ต.บัวมาศ และ ต.หนองม่วง อ.บรบือ จ.มหาสารคาม

นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและอำเภอบรบือ ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุฯ พร้อมระดมสรรพกำลัง เร่งนำเครื่องจักรเข้าซ่อมอุด รอยขาด เพื่อป้องกันมวลน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พร้อมแจ้งเตือนประชาชนผ่านทุกช่องทางต่างๆ อพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวที่จัดเตรียมไว้ และรายงานให้จังหวัดทราบทุกระยะ จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ

พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น ดังนี้

อาคารระบายน้ำล้นของอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ ถูกกัดเซาะเป็นเหตุให้ทำนบดินของอ่างฯขาด ความยาวประมาณ 50 เมตร
พื้นที่ได้รับผลกระทบด้านท้าย ประมาณ 3,000 ไร่
โครงการชลประธานมหาสารคามได้ดำเนินการใช้เครื่องจักรเครื่องมือระดมวัสดุหินใหญ่ปิดกั้นน้ำทั้งสองฝั่งของทำนบดินไม่ให้พังเสียขยายเพิ่ม สถานการณ์ปัจจุบัน ระดับน้ำอยู่ต่ำกว่าระดับกัดเซาะ ซึ่งเป็นระดับที่สามารถเข้าดำเนินการปิดทำนบดินที่ขาดได้ โดยโครงการชลประทานมหาสารคาม ร่วมกับสำนักงานชลประทานที่ 6 ได้วางแผนปิดกั้นทำนบดิน โดยจะดำเนินการตอกผนังกันน้ำลงกล่องบรรจุหิน เพื่อให้เกิดความแข็งแรง ปิดทางน้ำและเปิดระบายทางน้ำแห่งใหม่เพื่อรองรับปริมาณฝนที่อาจตกลงมาเพิ่ม โดยจะเริ่มดำเนินการในวันนี้ (17 กรกฎาคม 2567) คาดว่าพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมจะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ ภายใน 5 วัน ซึ่งโครงการชลประทานมหาสารคาม จะควบคุมและเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และรายงานความคืบหน้าให้ทราบทุกระยะ ในส่วนของ อำเภอบรบือ ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ณ ที่ทำการปกครองอำเภอบรบือ และ ณ จุดเกิดเหตุ เพื่ออำนวยการและบูรณาการในการจัดการสาธารณภัยให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ จัดทำประกาศแจ้งเตือน และสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนผ่านทุกช่องทาง พร้อมทั้งขนย้ายสิ่งของขึ้นไว้ที่สูง

พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายรวม 5 ตำบล 61 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลโนนราษี ตำบลกำพี้ ตำบลดอนงัว ตำบลบัวมาศ และตำบลหนองม่วง

มีคนสูญหาย ณ ลำห้วยผักหนาม หมู่ที่ 7 ตำบลโนนราษี จำนวน 1 ราย ทราบชื่อ นายสุรชาติ แสงสวย อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ที่ 7 ตำบลโนนราษี (บ้านหัวขัว) น้ำท่วมถนนไม่สามารถสัญจรไปมาได้หลายจุดขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจ บ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบประมาณ 9 หลังคาเรือน (อยู่ระหว่างสำรวจเพิ่มเติม ทั้งนี้ ได้อพยพราษฎรผู้ประสบภัย จำนวน 30 ราย ไปยัง ศูนย์ศิลปชีพกำพี้ ตำบลกำพี้ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง ราษฎรผู้ประสบภัยได้แยกย้ายกลับบ้านแล้ว ส่วนสัตว์เลี้ยงได้อพยพไปไว้ที่ปลอดภัย

ถนนทางหลวงชนบท หมายเลข 4007 บ้านกำพี้-เหล่ายาว คอสะพานขาด ประมาณ 30 เมตร ซึ่งขณะที่คอสะพานขาดได้มีประชาชนกำลังขับรถยนต์ส่วนบุคคลเดินทางกลับบ้าน รวม 3 คัน 5 คน ได้ถูกกระแสน้ำพัดลงข้างทาง หน่วยกู้ภัยสามารถช่วยเหลือได้ทั้งหมดด้วยความปลอดภัย ทั้งนี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้จัดชุดเฝ้าระวัง นำแผงเหล็กกั้นเส้นทางห้ามรถผ่าน และให้การไฟฟ้าได้ทำการตัดไฟฟ้าป้องกันไฟรั่วเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน/สำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัด จะได้นำสะพานแบร์ลีย์มาติดตั้งชั่วคราว เพื่อให้ประชาชนได้สัญจรไปมาต่อไป

ซึ่งการให้ความช่วยเหลือ ในครั้งนี้ อำเภอ ร่วมโครงการชลประทาน แขวงทางหลวงชนบท ปภ.จังหวัด ตำรวจ อปท. จิตอาสา อปพร. อาสาสมัคร มูลนิธิ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว

และในวันนี้เวลา 11:00 น รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและผอ.สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค 3 (ผอ.ชัยรัตน์ ศรีโนนทอง) และคณะจะลงไปดูสภาพการแก้ไขปัญหาอ่างเก็บน้ำห้วยเขียนคำ ต.โนนราษี อ.บรบือ

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สมศักดิ์' โดดขึ้นหลังรถวัดระดับน้ำสุโขทัย ห่วงท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ

'สมศักดิ์' กระโดดขึ้นหลังรถกระบะ วัดระดับน้ำหน้าจวนผู้ว่าฯ สุโขทัย พบปริ่มแล้ว สั่งเฝ้าสถานการณ์ใกล้ชิด หวั่นทะลักท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ ชงนายกฯ สร้างที่ระบายน้ำฝั่งขวาแม่น้ำยม