ภูเก็ตทำหนังสือด่วนที่สุด ถึง นายอำเภอ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกแห่ง ทุกส่วนราชการ เตรียมความพร้อมน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก 13-17ก.ค.นี้
11 ก.ค.2567 - นายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ลงนามหนังสือโทรสารในราชการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ด่วนที่สุด ที่ ภก (กปภจ)0021/ว 0122 ถึง นายอำเภอ/ผู้อำนวยการอำเภอ ทุกอำเภอ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น/ผู้อำนวยการท้องถิ่น ทุกแห่ง และหัวหน้าส่วนราชการ ทุกส่วนราชการ
โดยระบุว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยงประกอบกับประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตก ฉบับที่ 1 (15/2567) ลงวันที่11 กรกฎาคม 2567เวลา 11.00 น. แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 13 - 17 กรกฎาคม 2567 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากได้ในบางพื้นที่บริเวณจังหวัดภูเก็ต สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง ดินโคลนถล่ม และคลื่นลมแรงในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต จึงให้อำเภอ ทุกอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกแห่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการ ดังนี้
1. ติดตามข้อมูลข่าวสารสภาวะอากาศและปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ รวมถึงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก หรือบริเวณฝนตกสะสมและบริเวณพื้นที่สูงดินอุ้มน้ำสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มได้ ติดตามสถานการณ์บริหารจัดการอ่างเก็บน้ำที่มีความเสี่ยงน้ำล้นตลิ่ง และส่งผลกระทบกับบริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำ และประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ แจ้งเตือนให้กับประชาชนในพื้นที่รับทราบข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว
2. สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หากมีฝนตกหนักมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบประกาศแจ้งเตือน และปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด กรณีเกิด
สถานการณ์อุทกภัยในทางลอดหรืออุโมงค์ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบปิดกั้นพื้นที่จราจรและสูบน้ำออกโดยเร็ว เพื่อบรรเทาการจราจรที่ติดสะสมและความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่สี่ยงภัยดังกล่าว ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับพื้นที่ที่มีสถานการณ์น้ำท่วมขัง ขอให้ระมัดระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่ว ในกรณีที่มีความเสี่ยงจะเกิดอันตรายให้ตัดกระแสไฟฟ้าทันที
3. กรณีคลื่นลมแรง ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบออกประกาศหรือติดตั้งสัญญาณการแจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเล และแจ้งนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำทะเลในช่วงที่มีคลื่นลมแรงโดยเด็ดขาด แจ้งเตือนการเดินเรือ โดยให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวังให้มากขึ้น และหากสถานการณ์ในพื้นที่มีแนวโน้มรุนแรง ให้พิจารณาห้ามการเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด
4. หากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม ให้เร่งการระบายน้ำ จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำลันตลิ่ง น้ำท่วมขัง โดยเฉพาะในบริเวณที่ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้แล้ว ให้ดำเนินการเดินเครื่องสูบน้ำทันทีก่อนปริมาณน้ำถึงระดับวิกฤติ และในบริเวณที่คาดว่าจะมีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง ให้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ
ในพื้นที่
5.ในพื้นที่เสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก และ ดินโคลนถล่ม ให้จัดเจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัคร เฝ้าระวังสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง ปริมาณน้ำ ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ สังเกตการเปลี่ยนแปลงสี และความขุ่นของน้ำ รวมทั้งติดตั้งสัญญานการแจ้งเตือน และใช้ข้อมูลจากอุปกรณ์แจ้งเตือนที่มีอยู่ในพื้นที่ หากคาดการณ์ว่าจะเกิดน้ำป่าไหลหลาก หรือดินโคลนถล่ม ให้แจ้งเตือนประชาชนอพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย กรณีประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำมีความเสี่ยงจากน้ำป่ไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง แจ้งเตือนประชาชนให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงและอพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
6. ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ทราบ หากพบเห็นหรือได้รับผลกระทบ และต้องการความช่วยเหลือเมื่อเกิดสถานการณ์ภัย ให้แจ้งไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอำเภอในพื้นที่ รวมทั้งสามารถแจ้งผ่านทางโทรศัพท์สายด่วนนิรภัย 1784 ทางโทรศัพท์หมายเลข 076 5100980 หรือแจ้งผ่านไลน์ "ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784" โดยดำเนินการเพิ่มเพื่อน Line ID : @1784DDPM และกำชับให้เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุประจำอยู่ในสำนักงานและอยู่ในพื้นที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
7. หากเกิดเหตุสาธารณภัย และส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินในพื้นที่ใด ให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามกฎและระเบียบที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้ง ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอที่ได้รับผลกระทบ ดำเนินการสรุปสถานการณ์และรายงานให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ทราบต่อเนื่องทุกวัน ทางโทรสารหมายเลข076 510098 หรือ
ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ [email protected] ตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศปช. เตือนชุมชนริมน้ำ 7 จังหวัดระวังน้ำท่วม หลังน้ำทะเลหนุนต่อเนื่อง 10 วัน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) และ ศปช. ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ภายหลังนายกรัฐมนตรีเปิดงาน โครงการไทยแลนด์วินเทอร์เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในทุกมิติที่ผ่านมานั้น
ลมหนาวมาแล้ว! เช็กเลยอากาศ 10 วันล่วงหน้า
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. : (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 10 วันล่วงหน้า
วางคิว ‘นายกฯอิ๊งค์’ ลงพื้นที่แม่สายเดือนพ.ย. ก่อนประชุม ครม.สัญจรครั้งแรก จ.เชียงใหม่
ในเดือนหน้า นายกฯมีกำหนดลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.เชียงราย และเป็นประธานประชุม ครม.สัญจร ที่จ.เชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นการประชุม ครม.สัญจรนัดแรกของรัฐบาลชุดนี้
อุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุโซนร้อน 2 ลูก 'จ่ามี-กองเร็ย'
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตสถานการณ์พายุเวลา 04.00 น. (28/10/67) : พายุโซนร้อน "จ่ามี (TRAMI)" มีศูนย์กลางใกล้ชายฝั่งทางด้านตอนกลางของประเทศเวียดนาม
'เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร' ล่องเรือ นำของทำบุญแบ่งปันผู้ประสบภัยน้ำท่วม
พระราชสิทธิเวที,รศ. ดร. เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง พระอารามหลวง พร้อมด้วยคณะสงฆ์ รวมถึงญาติธรรม ได้ร่วมกันนำสิ่งของซึ่งเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง