7 ก.ค. 2567 – ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายนิรันดร์ พรหมครวญ ประมงอาวุโสจังหวัดสมุทรสาครว่า ในช่วงเวลานี้ ปลาหมอสีคางดำระบาดหนักมาก ทำให้ระบบนิเวศทางน้ำเสียไป ทางประมงจังหวัดสมุทรสาครจึงจัดเตรียมลงแขกลงคลอง ดีเดย์ 9 ก.ค.นี้ ก่อนที่จะมีการปล่อยลูกปลากระพงและสัตว์น้ำลงสู่คลองต่อไปเพื่อสร้างระบบนิเวศทางน้ำให้สมดุลกลับสู่สภาพดั่งเดิม
จากสถานการณ์ที่พบปลาหมอคางสีดำ ซึ่งถูกขนานนามว่า เอเลี่ยนสปีชี่ส์ หรือสิ่งมีชีวิต “อันตราย” ในแหล่งน้ำทุกประเภททั้งน้ำจืดและน้ำกร่อย โดยขณะนี้พบการแพร่ระบาดอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครนั้น เพื่อเป็นการร่วมกันตัดวงจรชีวิตและกำจัดปลาหมอสีคางดำในแหล่งน้ำ ทาง นายเผดิม รอดอินทร์ ประมงจังหวัดสมุทรสาคร ได้จับมือร่วมกับพันธมิตร เตรียมจัดกิจกรรม “ลงแขกลงคลอง ครั้งที่ 1 “ ในวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00 น. ณ คลองท่าแร้ง (บริเวณวัดยกกระบัตร) ตำบลยกกระบัตร อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อร่วมกันกำจัดปลาหมอสีคางดำออกจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ในจังหวัดสมุทรสาคร อีกทั้งยังเพื่อสื่อสารและประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับประชาชนในพื้นที่ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำในจังหวัดสมุทรสาคร
ขณะที่นายกมล ไกรวัตนุสสรณ์ ประธานชมรมเรืออวนลาก จังหวัดสมุทรสาคร ได้บอกว่า สถานการณ์ปลาหมอสีคางดำระบาดขณะนี้ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤติหนัก หากไม่รีบกำจัดหรือทำให้ปริมาณลดลงนั้น ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์อย่างแน่นอน โดยเฉพาะพวกกุ้ง หอย ปู ปลา ที่อยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติและบริเวณปากแม่น้ำ ที่จะต้องถูกกินไปจนหมดอีกทั้งปลาประเภทนี้เป็นปลาที่ทนต่อสภาพน้ำทุกประเภทและยังมีการแพร่พันธุ์ได้เร็ว ดังนั้นการเร่งกำจัดพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ให้ได้มากที่สุด ก็จะช่วยลดการเกิดใหม่ของลูกปลาได้ ทำให้การแพร่ระบาดลดน้อยลง ซึ่งในปีที่ผ่านมาทางรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณมาอุดหนุนช่วยซื้อปลาหมอสีคางดำจำนวน 500,000 กิโลกรัม ตอนนี้ยังคงเหลือเงินที่รับซื้อได้อีกราวๆ 30,000 กิโลกรัม โดยสนับสนุนให้แพปลา 3 แห่งในอำเภอเมืองสมุทรสาคร และอีก 2 แห่งในอำเภอบ้านแพ้ว เป็นผู้รับซื้อปลาหมอสีคางดำส่งให้กับโรงงานปลาป่น ซึ่งแพปลาจะรับซื้อไว้ในราคากิโลกรัมละ 5 บาท และทางแพจะได้รับค่าดำเนินการเพิ่มอีก 2 บาท
นอกจากนี้ทางประมงจังหวัดสมุทรสาคร ก็เร่งทำเรื่องถึงอธิบดีกรมประมงเพื่อของบประมาณนำมาซื้อปลาหมอสีคางดำเพิ่มอีก เพื่อให้การกำจัดโดยวิธีการจับมาขายให้กับแพปลาส่งต่อโรงงานปลาป่นนั้น ยังคงเดินหน้าต่อไปได้อีก เพราะจังหวัดสมุทรสาครนับเป็นจังหวัดผู้นำในเรื่องกำจัดปลาหมอสีคางดำที่มากที่สุดในประเทศไทย ดังนั้นหากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจัง เชื่อจะสามารถกำจัดปลาหมอสีคางดำได้อย่างแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อ.เจษฎา' ให้ข้อมูลละเอียดยิบ ทำไมเรียกชื่อ 'ปลาหมอคางดำ ไม่ใช่ 'ปลานิลคางดำ'
ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ทำไมเรียก ปลาหมอ(สี)คางดำ ... ไม่เรียก ปลานิลคางดำ"
'อ.เจษฎา' ไขข้อข้องใจ 'ไข่ปลาหมอคางดำ' ตากแดด 2 เดือน ยังฟักเป็นตัวได้
ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
พบ 'ปลาหมอคางดำ' หลากสี คาดเป็นตัวผู้ช่วงฤดูผสมพันธุ์ เจอแบบนี้ก็ต้องกำจัด
รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "ปลาหมอคางดำ" ที่สีสวยๆ ก็มีนะครับ อย่าคิดแต่ว่าจะต้องดูสีตุ่นๆ คล้ายปลานิลเท่านั้น
เปิดข้อมูลตอกหน้าแก๊งล้มเจ้า กุเรื่องนำเข้า 'ปลาหมอคางดำ' เพื่อพัฒนาพันธุ์ปลานิล
นายนิธิพัฒน์ พันธุ์ธุมจินดา นักธุรกิจ ฟาร์มปลาสวยงาม โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Nitipat Bhandhumachinda ระบุว่า เมื่อเช้าอ่านเจอโพสต์หนึ่งที่กล่าวในทำนองว่า ปลาหมอคางดำเป็นปลาที่นำเข้ามาเพื่อพัฒนาปลานิลจิตรลดา
รมช.เกษตรฯ ตอบกระทู้ 'ปลาหมอคางดำ' รับหลักฐานสาวไม่ถึงต้นตอใครนำเข้า
มีการตั้งกระทู้ถามด้วยวาจาเรื่องปัญหาปลาหมอคางดำ โดยนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล โดยระบุว่า ขณะนี้ปลาหมอคางดำแพร่ระบาด 13 จังหวัด ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรที่กำลังประกาศขายที่นา
หมดทางแถ! BIOTHAI เปิดผลวิเคราะห์ DNA 'ปลาหมอสีคางดำ' มีแหล่งที่มาร่วมกัน
เพจ BIOTHAI มูลนิธิชีววิถี โพสต์ข้อความถึงปัญหาการระบาดของ ปลาหมอสีคางดำ ว่า หมดทางแถ ! การวิเคราะห์DNAพบ #ปลาหมอสีคางดำ ที่ระบาดมี #แหล่งที่มาร่วมกัน #มีความคล้ายคลึงทางพันธุกรรม #ไม่ได้นำเข้ามาหลายครั้ง