'เสี่ยเต็นท์รถ' ผูกคอดับปริศนา ไม่พบหลักฐานถูกทำร้าย ส่งชันสูตรศพหลังญาติคาใจ

เสี่ยเต็นท์รถมือสองผูกคอดับ ไม่พบหลักฐานถูกทำร้าย ส่งศพชันสูตรหลังญาติคาใจ คาดปมปลิดชีพจากปัญหาหนี้สิน เป็นผู้บุกเบิกตลาดรถมือสองระดับตำนาน

10 มิ.ย.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเสี่ยต้อม นายณัฐวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี เจ้าของเต็นท์รถมือสองชื่อดัง เสียชีวิตในสภาพแขวนคอด้วยสายฟ้า บริเวณราวบันไดทางขึ้นชั้นสองของบ้านพัก ที่เปิดเป็นสำนักงานเต็นท์รถอยู่ข้างวัดศิริพุทธาราม ชุมชนบ้านท่าควาย เขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยภรรยายังคงติดใจในการเสียชีวิต เนื่องจากเป็นคนร่าเริงไม่มีสัญญาณอะไรบ่งบอก จึงร้องขอให้ตำรวจส่งศพไปชันสูตร หาสาเหตุเพิ่มเติมที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น ส่วนปมการตายญาติตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะถูกทำร้ายร่างกายก่อน เพราะก่อนเกิดเหตุมีคนเห็นชายต้องสงสัย เดินออกมาจากบ้านพัก แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบ้านพัก ปรากฏว่ากล้องวงจรปิดไม่สามารถใช้งานได้

ทั้งนี้ ตำรวจมุ่งปมปัญหาหนี้สินส่วนตัวรุมเร้า โดยอดีตที่ผ่านมาเสี่ยต้อมเคยมีฐานะร่ำรวยจากธุรกิจเต็นท์รถมือสอง ถือเป็นระดับตำนานธุรกิจรถมือสอง ใหญ่สุดในจังหวัดนครพนม ซึ่งในขณะนั้นประมาณ 20 ปีเฟื่องฟูสุดๆ แต่ประสบปัญหาทางธุรกิจ ประกอบเป็นคนจิตใจกว้างขวาง ภายหลังจึงเป็นภาระหนี้สินหลายสิบล้านบาท คาดว่าน่าจะเป็นต้นเหตุของการคิดสั้น แต่ต้องรอผลชันสูตรโดยละเอียด และผลการสอบสวนปากคำคนใกล้ชิด

ขณะเดียวกันทางผู้สื่อข่าว ได้พยายามติดต่อสอบถามไปยังภรรยา รวมถึงญาติของเสี่ยต้อม ยืนยันว่าไม่ขอให้ข้อมูลใดๆ อยากให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และให้ตำรวจได้ทำงาน รวบรวมพยานหลักฐาน ผลผ่าศพชันสูตร และสรุปสาเหตุที่แน่ชัด เพื่อความสบายใจของครอบครัว

ล่าสุด วันที่ 10 มิถุนายน 2567 พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม สั่งการให้ตำรวจสืบสวนชุดพยัคฆ์ สภ.เมืองนครพนม ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่างๆ เพื่อนำมาประกอบในสำนวนคดี โดยเฉพาะมีพยานระบุว่าก่อนพบศพเสี่ยต้อม มีชายลักษณะสวมหมวกกันน็อก คล้ายแก๊งเงินกู้นอกระบบ เดินออกมาจากบ้านหลังเกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่าเบื้องต้นจากการชันสูตรศพผู้เสียชีวิต ยังไม่พบหลักฐานร่องรอยการถูกทำร้าย คงมุ่งปมปัญหาส่วนตัวเป็นหลัก แต่ในเมื่อญาติติดใจการเสียชีวิต เพื่อความสบายใจ และให้เกิดความชัดเจน ทางตำรวจได้ส่งศพไปชันสูตร หาสาเหตุโดยละเอียดที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น รอการสรุปสาเหตุตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป รวมถึงการตรวจสอบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่เกิดเหตุ และพื้นที่ใกล้เคียงมาประกอบการดำเนินคดี