ศิลปากร รุดตรวจสอบโครงกระดูกมนุษย์โบราณพันปี พร้อมภาชนะดินเผา ขุดพบกลางเมืองโคราช

30 พ.ค.2567 - ที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 นครราชสีมา (หลังเก่า) ถ.พลล้าน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายทศพร ศรีสมาน ผอ.สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา พร้อมด้วยนายธนัญชัย วรรณสุข ผอ.สิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) และนายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ และซากภาชะดินเผา ที่ถูกขุดค้นพบขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ กำลังดำเนินการการขุดค้นหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์บริเวณพื้นที่ปรับภูมิทัศน์ ภายในสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 นครราชสีมา (หลังเก่า) ซึ่งตั้งอยู่ติดกับคูเมือง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นไปตามแผนการดำเนินงานการปรับปรุงภูมิทัศน์เป็นสวนสาธารณะของทางเทศบาลนครนคราชสีมา ร่วมกับกรมศิลปกร ที่จะต้องมีการดำเนินการทางโบราณคดีก่อนมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ เนื่องจากบริเวณดังกล่าว ทางกายภาพพื้นที่มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์

นาย นายทศพร ศรีสมาน ผอ.สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ในกรณีชุมชนหรือเมืองที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ จำเป็นต้องมีการดำเนินการขุดสำรวจเพื่อศึกษาก่อนดำเนินการก่อสร้างอาคารเพื่อที่จะได้มีการศึกษาเรียนรู้พื้นที่ดังกล่าวว่ามีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ ได้รู้ถึงต้นกำเนิดของเมืองนครราชสีมา สำหรับการขุดค้นพบครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ขุดตามแนวกำแพงเมืองเก่า ระดับความลึก 180 ซม. พบโครงกระดูกมนุษย์ 2 โครง ไม่ทราบเพศ เนื่องจากการตรวจสอบเพศนั้นจะตรวจสอบจากกระดูกเชิงกราน แต่ ทั้ง 2 โครงกระดูกที่พบ กระดูกเชิงกรานไม่สมบูรณ์ จึงยังไม่สามารถระบุเพศได้

โดยโครงกระดูกแรกที่พบอยู่ในลักษณะนอนหงายเหยียดยาวหันศีรษะไปทางทิศตะวันตก โครงกระดูกที่2 ลักษณะกะโหลกศีรษะถูกตัดวางอยู่บริเวณลำตัว คาดว่าจะเป็นโครงกระดูกเด็ก มีเศษเครื่องปั้นดินเผาลายเชือกทาบ เศษกระเบื้อง กระดูกสัตว์ รวมทั้งภาชนะแบบพิมายดำ วางอยู่รอบโครงกระดูก ซึ่งกระดูกทั้ง 2 ชิ้น น่าจะถูกฝังจากกิจกรรมการฝังศพของคนสมัยโบราณ และมีอายุ ประมาณ 1,500 -2,500 ปี ซึ่งน่าจะเป็นมนุษย์ที่อาศัยอยู่ก่อนการก่อตั้งเมืองนครราชสีมา

อย่างไรก็ตามคงต้องมีการขุดเพิ่มเติมและนำดินในบริเวณดังกล่าวไปตรวจสอบในห้องแล็ปเพื่อหาค่าทางวิทยาศาสตร์ และเพื่อตรวจสอบว่าดินในพื้นที่นั้นได้สัมผัสแสงอาทิตย์ครั้งล่าสุดเมื่อใด และเราจะสามารถย้อนเวลาได้ว่าโครงกระดูทั้ง2 ถูกฝังตั้งแต่ช่วงเวลาใด อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าในอดีตพื้นที่ดังกล่าวน่าจะเป็นพื้นที่ฝังศพขนาดใหญ่ และเมืองนครราชสีมา ในช่วง 1,500-2,500 ปี น่าจะเป็นบึงขนาดใหญ่ และมีชุมชนตั้งอาศัยอยู่รอบบึงเป็นจำนวนมาก ก่อนจะมีการก่อตั้งเมืองนครราชสีมา นายทศพร กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บูรณะวัดไชยวัฒนารามนำชีวิตชีวาสู่มรดกโลก

วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา งดงามทรงคุณค่า เป็นหนึ่งในหลักฐานที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่และรุ่มรวยทางวัฒนธรรมของกรุงศรีอยุธยาอดีตเมืองหลวงอันยิ่งใหญ่ วัดเก่าแก่แห่งนี้เป็นโบราณสถานสำคัญของอยุธยา และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาที่โดย

สลด! นักเรียนหญิง ม.3 พลัดตกอาคารชั้น 7 เสียชีวิตแล้ว

เกิดเหตุเด็กนักเรียนหญิงของโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พลัดตกลงมาจากอาคารเรียนเฉลิมพระเกียรติ

'4วัด1วัง'เที่ยวมรดกโลกอยุธยายามราตรี

กระแสตอบรับดีสำหรับโครงการท่องเที่ยวโบราณสถานยามค่ำคืนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปีนี้กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ยกระดับท่องเที่ยวโบราณสถานยามราตรีเปิดโบราณสถานให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเพิ่มขึ้นเป็น 5 แห่ง ประกอบด้วย 

ย้อนเวลา 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ

ชวนแต่งชุดไทยเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่ช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา  ดื่มด่ำกับบรรยากาศโบราณสถานยามค่ำคืนที่งดงามในงาน “ 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” ภายใต้แนวคิด “ย้อนเวลา ส่องวิถี ปลุกแสงสี พระนครศรีอยุธยา” โดยจะจัดกิจกรรมตามวัดและโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์

โคราชจัดยิ่งใหญ่ เทศกาลเที่ยวพิมาย ปี 2567 เช็กกิจกรรมไฮไลท์ในงานถึง 10 พ.ย.

ที่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลเที่ยวพิมาย ประจำปี 2567

ไอเดียเจ๋ง! แต่งผีชวนคนบริจาคเลือดฉลองฮาโลวีน

นางสาวศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยนางสาวปพิชญา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าฯ ร่วมจัดกิจกรรมแต่งผีชวนคนมาให้เลือด เนื่องในวันฮาโลวีน