แรงงาน บุรีรัมย์-โคราช แห่แจ้งจับ 'นายหน้าเถื่อน' ​อาศัยช่วงโควิดคนตกงานหลอกไปทำงานเกาหลี

แรงงานชาว​ บุรีรัมย์​-นครราชสีมา แห่แจ้งจับนายหน้าเถื่อนอาศัยช่วงโควิดคนตกงานหลอกไปทำงานเกาหลีตกเป็นเหยื่อเกือบ 30 คน​ สูญเงินกว่า 2 ล้าน เชื่อทำเป็นขบวนการ ตร.ตามรวบ 'เจ๊น้ำอ้อย'หนึ่งในแก๊งได้แล้ว 1

07 ม.ค.2565 - แรงงานใน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ และ อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา แห่นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.ทะเมนชัย จ.บุรีรัมย์ ให้ดำเนินคดีกับแก๊งนายหน้าเถื่อน​ ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ตำบลเมืองแฝก อ.ลำปลายมาศ และอยู่ต่างจังหวัด หลังจากมีพฤติกรรมหลอกลวงจะพาไปทำงานประเทศเกาหลี ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค. – พ.ย.2563 ที่ผ่านมา

โดยเรียกรับเงินจากแรงงานรายละ 50,000 – 110,000 บาท อ้างว่าจะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่า ค่าตั๋วเครื่องบิน และแลกเงินสกุลเกาหลีหรือเงินวอนไว้สำหรับติดตัว หากใครจ่ายเงินแล้วไม่เกิน 1 เดือน​ จะได้บินไปทำงาน ทั้งหลอกล่อว่าหากใครได้ไปทำงานที่เกาหลีจะได้ค่าแรงสูงถึงเดือนละ 50,000 – 60,000 บาท โดยอาศัยช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิดระบาดแรงงานหลายคนตกงาน จึงมีคนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจ่ายเงินให้กับกลุ่มแก๊งนายหน้าเถื่อนดังกล่าวไปเกือบ 30 คน รวมเป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท

จากนั้นนายหน้าก็พาเดินทางไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร โดยทำทีให้กรอกเอกสารที่เป็นภาษาเกาหลีเพื่อให้ตายใจ และหลอกให้นอนรอที่โรงแรม เมื่อทำเรื่องเสร็จมีกำหนดบินแล้วจะมาบอก ก็พากันรอที่โรงแรมเกือบเดือนแต่ก็ไม่ได้บินไปทำงานเกาหลีตามที่นายหน้ากล่าวอ้างสักที แล้วพอนายหน้าได้เงินจากแรงงานทุกคนแล้ว ก็หอบเงินหนีแล้วหายไปเลยไม่สามารถติดต่อได้อีก ทั้งทางโทรศัพท์ ไลน์ และเฟสบุ๊กถูกบล็อกทุกช่องทาง จึงเชื่อว่าถูกหลอกแน่นอน จึงได้พากันทยอยเข้าแจ้งความ

ล่าสุดทราบว่านางน้ำอ้อย หรือ เจ๊น้ำอ้อย ซึ่งเป็นชาวตำบลเมืองแฝก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแก๊งนายหน้าเถื่อน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทะเมนชัย จับกุมได้แล้ว แรงงานที่ถูกหลอกจึงได้พากันมาชี้ตัว และทยอยเข้าแจ้งความเพิ่ม เบื้องต้น​ นางน้ำอ้อย ถูกแจ้งข้อหา “หลอกลวงคนหางานไปทำงานต่างประเทศ” ซึ่งพนักงานก็ได้ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว

น.ส.ศรีนวล ธรรมธุระ หนึ่งในแรงงานที่ถูกหลอก บอกว่า ก่อนหน้านี้ตนเองและสามีทำอาชีพเพาะเห็ดขายในตลาด ก็มีรายได้เดือนละกว่า 30,000 บาท แต่พอหักต้นทุนแล้วก็เหลือกำไรไม่มาก กระทั่งเมื่อปี 2563 มีนายหน้าซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านมาชักชวนให้ไปทำงานที่ประเทศเกาหลี โดยหลอกล่อว่าได้ค่าแรงสูงไปแรกๆ อาจจะได้เดือนละ 30,000 – 40,000 บาท แต่หากอยู่ไปสักพักค่าแรงก็จะเพิ่มเป็นเดือนละ 40,000 – 50,000 บาท เห็นว่าคนที่มาชักชวนเป็นคนในหมู่บ้านและเคยไปเกาหลีมาก่อนแล้วจึงหลงเชื่อ ตัดสินใจหยุดเพาะเห็ดแล้วหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่า และค่าดำเนินการต่างๆ ตามที่นายหน้ากล่าวอ้าง โดยตนกับสามีจ่ายเงินไปคนละ 55,000 บาท รวม 2 คนจ่ายไป 110,000 บาท แต่สุดท้ายกลับไม่ได้บินไปทำงานเกาหลีและไม่สามารถติดต่อนายหน้าได้อีก ก็เสียใจที่คนรู้จักคุ้นเคยกันมาหลอกลวงกันแบบนี้ ทำให้ตนกับสามีต้องเป็นหนี้และหาเงินไปตัดดอกเดือนละ 5,000 บาท จากเมื่อก่อนไม่เคยมีหนี้ จึงได้พากันมาแจ้งความเพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับนายหน้า และอยากได้เงินคืนเพื่อไปใช้หนี้ ซึ่งเชื่อว่าทำเป็นขบวนการแน่นอน

ด้านนายประสงค์ หยุดกลาง แรงงานอีกราย บอกว่า เดิมตนทำงานในโรงงาน แต่ช่วงปี 2563 เกิดวิกฤติโควิดทางโรงงานลดจำนวนแรงงาน จึงตกงานกลับมาทำงานที่บ้านแล้วจู่ๆ ก็มีคนในหมู่บ้านชื่อยายหลง ซึ่งเคยไปทำงานที่ประเทศเกาหลีมาก่อน มาหลอกว่าใครสนใจจะไปทำงานเกาหลีค่าแรงสูงเดือนละ 4 – 5 หมื่นบาท ซึ่งตอนนั้นตนยังตกงานอยู่จึงหลงเชื่อยอมจ่ายเงินให้กับนายหน้าไป 100,000 บาท เป็นการค่าดำเนินการ และแลกเงินวอน แต่สุดท้ายกลับไม่ได้ไปตามที่กล่าวอ้าง ก็เชื่อว่าถูกหลอกและทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้เงินที่จ่ายไปคืน จึงได้พากันมาแจ้งความให้ดำเนินกับแก๊งนายหน้าดังกล่าวด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เตือนระวังนายหน้าเถื่อน หลอกคนไทยใช้วีซ่าท่องเที่ยว เข้า 'ยูเออี' ทำงานผิดกฎหมาย

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยว่า ได้รับรายงานจากฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเตส์ ว่ามีผู้เสียหายจากกรณีถูกสาย-นายหน้าเถื่อน โฆษณาชักชวนไปทำงานในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์