ตำรวจน้ำ แถลงยุทธการฟ้าสางที่อันดามัน จับกุมเรือนำเที่ยวเอี่ยวยาเสพติด

30 พ.ค.2567 - พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. พ.ต.อ.ราม รสหอม รอง ผบก.รน. พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รองผบก.รน. พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น ผกก 8 บก.รน. พ.ต.อ.กมลศักดิ์ วันประดุง ผกก.9บก. รน.นายประยุธ รัตนวรรณ ประมงจังหวัดภูเก็ต นายพชร เผ่าพาณิชย์ เจ้าพนักงานตรวจท่าชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต แถลงข่าว ยุทธการ"ฟ้าสางที่อันดามัน" โดยมี เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ หน่วยงานภาครัฐ และสื่อมวลชน เข้าร่วมฯ ณ ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันพื้นที่อ่าวอันดามันซึ่งเป็นพื้นที่การประมงที่มีความสำคัญและเป็นพื้นที่เศรษฐกิจอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ยังคงมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบทำประมงผิดกฎหมาย การแพร่ระบาดของยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นปัญหาการลักลอบทำประมงโดยใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย การลักลอบทำประมงใกล้เขตชายฝั่ง การใช้ยาเสพติดของกลุ่มแรงงานในเรือประมงและกลุ่มคนประจำเรือโดยสารท่องเที่ยว การหลบหนีเข้าเมือง อาวุธปืนผิดกฎหมาย หรือการกระทำความผิดอาญาต่างๆ

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จึงมอบหมายให้ กองบังคับการตำรวจน้ำ เปิดยุทธการ"ฟ้าสางที่อันดามัน" เพื่อป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ กองกำกับการ 8 และ กองกำกับการ 9 กองบังคับการตำรวจน้ำ รับผิดชอบพื้นที่ตั้งแต่ จังหวัดระนอง, จังหวัดพังงา,จังหวัดภูเก็ต, จังหวัดกระบี่, จังหวัดตรัง และจังหวัดสตูล มีพื้นที่รับผิดชอบรวม 691 ตารางไมล์ทะเล ได้สืบสวนหาข่าวและกำหนดเป้าหมายในการป้องกันปราบปรามจับกุม ได้ออกปฏิบัติการจับกุมตามยุทธการ"ฟ้าสางที่อันดามัน" ตั้งแต่วันที่ 20-30 พ.ค.67 ผลการจับกุมดังนี้
1. ยาเสพติด (บนเรือสปีดโบ๊ทท่องเที่ยวและเรือประมง) จำนวน 56 ราย 39คน ของกลาง ยาบ้า 19,996 เม็ด
2. อาวุธปืน จำนวน 13 ราย 9 คน ของกลาง อาวุธปืน 23 กระบอก , กระสุนปืน 314 นัด
3. หมายจับ จำนวน 25 ราย 25 คน
4. การเดินเรือในน่านน้ำไทย จำนวน 32 ราย 32 คน
5. ความผิดอื่นๆ จำนวน 13 ราย 7 คน
รวม จำนวน 139 ราย 112 คน

พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. กล่าวต่อไปว่า "ยุทธการฟ้าสางที่อันดามัน ดำเนินการในฝั่งอันดามันของ กองบังคับการตำรวจน้ำเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2567ถึงปัจจุบันมีผลการดำเนินการจับกุมคดีสำคัญหลายคดี

ส่วนหนึ่งในวันนี้ (30 พ.ค.) เป็นการนำเรือประมงสวมทะเบียนเรือมาใช้ คือ ทะเบียนเดียวแต่มี Copy เรือ 2 ลำ เป็นเรือประมงโชคอามีรน พร้อมด้วยของกลางอวนล้อมจับปลากะตัก ความยาว 260 เมตรจำนวน 1 ผืน จับกุมบริเวณในทะเลใกล้ชายฝั่งเกาะภูเก็ต ข้อหา ใช้เครื่องมือประมงพาณิชย์ทำการประมงโดยไม่ได้รับอนุญาตและทำการประมงในเขตชายฝั่งโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพ.ร.ก.การประมงพ.ศ 2558 และ 2560 (ฉบับแก้ไข ) ซึ่ง เรือที่สวมทะเบียนถูกจับกุมและจอดอยู่ที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เพื่อป้องกันการกระทำความผิดซ้ำได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสภ.เมืองภูเก็ต ในข้อหา "พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 และ 2560(ฉบับแก้ไข) ใช้เรือไร้สัญชาติทำการประมง ปลอมแปลงปิดบังหรือเปลี่ยนแปลงทะเบียนเรือประมงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ (สั่งกักเรือประมง) ประมวลกฎหมายอาญาปลอมแปลงเอกสารราชการ พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ 2456 ใบอนุญาตใช้เรือจะใช้สับเปลี่ยนกันไม่ได้นำใบอนุญาตใช้เรือของผู้อื่นมาแสดงว่าเป็นใบอนุญาตใช้เรือของตน" หลังจากนี้จะนำส่งพนักงานสอบสวน ถ้ามีความผิดของเรือจะต้องถูกพักใช้ใบอนุญาตหรือถูกยึดไว้

การที่มีการสวมทะเบียนเรือ คือ หลังจากที่มีการกำหนดการออกตราพระราชกำหนดการประมง ทำให้เรือหลายลำที่ไม่สามารถเข้าอยู่ในโควต้าได้จึงต้องมีการสวมทะเบียนเรือ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ถ้าเกิดมีลักษณะเช่นนี้เพิ่มเติมจะดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง

ส่วนเรือประมง ลำจริงจอดอยู่ที่ท่าเรือในจังหวัดสตูล เจ้าหน้าที่ฯแจ้งข้อหา พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 และ 2560(ฉบับแก้ไข) ปลอมแปลงปิดบังหรือเปลี่ยนแปลงทะเบียนเรือประมงและพ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทยพ.ศ 2456 ใบอนุญาตใช้เรือจะใช้สับเปลี่ยนกันไม่ได้

การจับกุมเรือเจ็ทสกีผิดกฎหมายเมื่อ 20 พฤษภาคม 2567 สถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ(ตำรวจน้ำภูเก็ต) ได้บูรณาการร่วมกับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตและศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดภูเก็ต จับกุมเรือ เจ็ทสกีไม่มีทะเบียนเรือ จำนวน 27 ลำบริเวณในทะเลพื้นที่อ่าวปอและพื้นที่ใกล้เคียง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ข้อหา"ใช้เรือก่อนได้รับใบอนุญาตใช้เรือ" ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

การดำเนินการตามยุทธการฟ้าสางที่อันดามัน เป็นการป้องกันปราบปราม การกระทำความผิดด้านยาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ขับขี่เรือในพื้นที่ และมีผลการจับกุมหรือการตรวจสอบจำนวนหลายราย พบว่าผู้ที่ขับขี่เรือนำเที่ยวในพื้นที่ภูเก็ตและพื้นที่อื่นๆ มีหลายส่วนที่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด การใช้สารเสพติด ซึ่งเป็นอันตรายมากอาจทำให้เกิดความเสียหายได้

ดังนั้น กองบังคับการตำรวจน้ำ เร่งรัดป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดลักษณะเช่นนี้ จึงอยากจะสื่อสารให้พี่น้องประชาชนรับทราบว่า การดำเนินการใช้สารเสพติด เสพยาเสพติดแล้วไปขับขี่เรือ มีโทษตามกฎหมาย ทั้ง พรบ. ยาเสพติด พรก.เจ้าท่า พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทยมีโทษสูง และเป็นไปได้ที่จะถูกพักใช้ใบอนุญาตนายท้ายเรือ จึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลนักท่องเที่ยว ขับขี่เรือสปีดโบ๊ท เรือนำเที่ยวต่างๆ ขอให้งดเว้นการใช้ยาเสพติด ซึ่งถ้ามีปัญหาบ่อยครั้ง อาจถูกเพิกถอนใบอนุญาต โดยจะบังคับใช้กฎหมายป้องกันปราบปรามยาเสพติดอย่างเคร่งครัด"

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ฟิล์ม-เจ๊พัช' ระทึก! 'ผบ.ตร.' ชี้ผิดจริง หมดสิทธิ์ลอยกระทง

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการออกหมายเรียก หรือหมายจับ ฟิล์ม-นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์

'ผบช.ก.' แถลงจับหมอดูชื่อดัง 'ตี่ลี่ฮวงจุ้ย' แจ้ง 2 ข้อหาหนัก

'บิ๊กก้อง' แถลงจับ 'หมอดูตี่ลี่ฮวงจุ้ย' ตุ๋นเหยื่อซื้อวัตถุมงคลแก้เคล็ดกว่า 108 ล้าน เอาไปเล่นพนัน แจ้ง 2 ข้อหา 'ฉ้อโกง-ฟอกเงิน' พร้อมยึดรถหรู 2 คัน

'รองผบช.ก.' แย้มพยานหลักฐานเพียบ คดีโกง 71 ล้าน จ่อหมายเรียก 'ทนายตั้ม'

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสอบปากคำ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย

มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ จับมือ TSB และ EA ส่งมอบสีให้ตำรวจน้ำ ช่วยโรงเรียนน้ำท่วมเชียงราย

นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ลงพื้นที่ดำเนินโครง “สังคมร่วมใจ คืนความสดใสให้วัดและโรงเรียน จ.เชียงราย” เข้าช่วยเหลือและฟื้นฟูอาคารวัดและอาคารเรียน 20 แห่ง