ม่วนซื่น บุญบั้งไฟเดือนหก กรรมการตัดสินโกยค่าแรงวันละหมื่นบาท

ม่วนซื่นบุญเดือนหก แข่ง “บั้งไฟจิ๋ว” ขอฝนจากพญาแถน กองเชียร์ลุ้นเหงื่อหยด กรรมการตัดสินโกยค่าแรงวันละหมื่น

11 พ.ค.2567 - ที่จังหวัดนครพนม ช่วงนี้มีงานบุญเดือนหก เป็นประเพณีที่สำคัญของชาวอีสาน เพราะเป็นประเพณีเกี่ยวกับการขอฟ้าฝน อันมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิต ทั้งนี้ส่วนใหญ่ชาวอีสานมีอาชีพด้านกสิกรรมเป็นหลัก การนำเอาดินประสิว(ขี้เจีย) มาโขกหรือบดผสมกับถ่านให้แหลกละเอียด เรียกว่าหมื่อ แล้วบรรจุลงในกระบอกไม้ไผ่ ปัจจุบันนิยมใช้ท่อพีวีซีโดยอัดให้แน่น แล้วเจาะรูที่หางเรียกว่าบั้งไฟ ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นการขอฟ้าฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล หลังประสบปัญหาภัยแล้ง เป็นการสืบทอดประเพณีความเชื่อ อันดีงามของท้องถิ่นมายาวนาน รวมถึงเป็นการสร้างสีสัน ความสามัคคี ม่วนซื่นในชุมชน

เฉกเช่นชาวบ้านหนองดู่ หมู่ 8 ต.นาใน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ได้ร่วมกันจัดงานสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นการบูชาพญาแถน ขอฟ้าขอฝนตามความเชื่อ สืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษ แต่ที่นี่มีความน่าสนใจ ผิดแผกไปจากที่อื่น คือเป็นบั้งไฟจิ๋ว ผลิตจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ใช้ท่อพีวีซีขนาด 2 นิ้ว ยาวประมาณ 1 เมตรอัดด้วยดินปืน ติดหางไม้ไผ่ยาว 4-5 เมตร ตามภูมิปัญญาเซียนบั้งไฟของแต่ละคุ้ม ก่อนที่จะนำมาจุดเพื่อสื่อสารไปหาพญาแถน โดยปีนี้จัดแข่งขันบั้งไฟจิ๋วกว่า 50 ลำ มีการแข่งขันระดับความสูง เพื่อเป็นการสร้างสีสันความสนุกสนาน ตื่นตาตื่นใจแก่ผู้เที่ยวชมงาน

นอกจากนี้ ดร.เดือน-มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และ ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายอนุชิต หงษาดี นายก อบต. โพนสวรรค์ แกนนำครอบครัวเพื่อไทย รวมถึงผู้บริหารท้องถิ่น ร่วมมอบเงินสนับสนุนการจัดงานสืบสานประเพณีบุญบั้งไฟอีกด้วย

ส่วนไฮไลท์ของงานบุญเดือนหก ประเพณีบั้งไฟจิ๋ว นอกจากความม่วนซื่น ของกองเชียร์ ที่ลุ้นการพุ่งสูงของบั้งไฟ คนที่ทำงานหนักสุดน่าจะเป็นกรรมการบั้งไฟ เพราะต้องมีความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบและจับเวลา ตั้งแต่บั้งไฟทะยานขึ้นฟ้า จนตกลงสู่พื้นดิน เพื่อเป็นการตัดสินว่าบั้งไฟของชุมชนไหน ใช้เวลาอยู่บนอากาศมากที่สุดถือเป็นผู้ชนะ

สอบถามหัวหน้าทีมกรรมการตัดสินการแข่งขัน คือ เซียนยาวเจ้าของทีมงานเรดาร์ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เดินสายเป็นกรรมการตัดสินบั้งไฟ เปิดเผยว่า มีทีมงานประมาณสามถึงสี่คน ทำหน้าที่ตรวจสอบระยะเวลาและความสูงของบั้งไฟแต่ละสนาม มีอุปกรณ์สำคัญคือกล้องส่องทางไกล นาฬิกาจับเวลา ทำหน้าที่เป็นเรดาร์ส่องบั้งไฟ ที่ทะยานขึ้นฟ้าจนถึงตกพื้นดิน พร้อมมีการพากย์ บรรยายเต็มไปด้วยเพื่อความสนุกสนาน

สำหรับกติกาจะวัดกันที่เวลาขึ้นของบั้งไฟจนถึงตกพื้น ใครมีเวลามากสุดถือว่าชนะเป็นอันดับหนึ่ง โดยบั้งไฟขนาด 2 นิ้วมีสถิติเวลาสูงสุดประมาณ 300-400 วินาที ใครใช้เวลาลอยอยู่ท้องฟ้านานสุด จะเป็นผู้ได้รับชัยชนะ เมื่อถามถึงค่าตัวกรรมการ ได้ยินแล้วอย่าตกใจ ค่าแรงประมาณวันละ 10,000 บาท บางคนคิดว่าแพง แต่สำหรับตนถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะต้องตัดสินด้วยความชำนาญเฉพาะด้าน เฝ้าตัดสินทั้งวันตั้งแต่ลำแรกถึงลำสุดท้าย และช่วงนี้ถือว่าเป็นเทศกาลบุญบั้งไฟ มีงานรับคิวยาวไม่เว้นวัน เพราะกรรมการตัดสินหายาก และ เป็นความสามารถเฉพาะด้าน กว่าจะได้ค่าจ้างระดับนี้ ต้องสะสมประสบการณ์มาไม่น้อยกว่า 10 ปี

ทั้งนี้ บุญเดือนหกหรือบุญบั้งไฟ เกิดจากความเชื่อเล่าขานเป็นตำนานว่า พญาคันคาก(คางคก) ได้ทำสัญญาสงบศึกกับพญาแถน หลังต่อสู้กันแล้วพญาแถนแพ้ โดยสัญญาว่าจะส่งน้ำฝนลงมาให้ตามฤดูกาล ดังนั้นพอถึงเดือนหก คนในเมืองมนุษย์ก็จะจุดบั้งไฟขึ้นไปเตือนพญาแถนเป็นประจำทุกปี

บางท้องถิ่นถือว่าการจุดบั้งไฟ เป็นการเสี่ยงทายว่าฝนฟ้าปีนี้จะเป็นอย่างไร โดยการสังเกตจากบั้งไฟที่จุด หากบั้งไฟขึ้นดีไม่มีเหตุขัดข้อง ถือว่าฟ้าฝนปีนั้นดี ตรงกันข้ามถ้าบั้งไฟไม่ขึ้นหรือมีอุปสรรค ถือว่าฟ้าฝนปีนั้นไม่ค่อยดี จึงมักจะหามช่างทำบั้งไฟไปโยนลงบ่อโคลน เกี่ยวกับประเพณีความเชื่อนี้ ชาวอีสานยึดถือปฏิบัติเป็นประเพณีมาจนถึงปัจจุบัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

น้ำลด ถนนอันซีนโผล่ จุดเช็กอินริมโขงนครพนมกลับสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจมน้ำนานสัปดาห์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม ระดับน้ำโขงเริ่มลดลงวันละ 20-30 เซนติเมตร ล่าสุดช่วงเวลา 17.00 น. อยู่ที่ 11.50 เมตร ห่างจากจุดเตือนภัยเฝ้าระวัง 50 เซนติเมตร คือที่ 12 เมตร

ระดับแม่น้ำโขงที่นครพนม วัดได้ 11.79 เมตร ปลอดภัยใกล้สู่ภาวะปกติแล้ว

ที่ จ.นครพนม ระดับน้ำโขงเริ่มลดปริมาณลง ตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ ล่าสุดอยู่ที่ 11.79 เมตร ห่างจากจุดเฝ้าระวังเตือนภัย 21 เซนติเมตรคือที่ 12 เมตร ถือว่าปลอดภัยใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังมีกระแสไหลเชี่ยว

ชาวนาระทม น้ำโขงหนุนสูง นาข้าวจมเกือบ 7 หมื่นไร่ 4 อำเภอ จ.นครพนม ตั้งศูนย์รับมือ

ระดับน้ำโขงสูงที่ จ.นครพนม หวนกลับมาอีกครั้ง หลังรับอิทธิพลจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ผนวกกับจีนปล่อยน้ำออกจากเขื่อนไฟฟ้า จึงเกิดผลกระทบต่อเนื่อง

น้ำโขงดีดสูงสุดรอบปี นาข้าวจมบาดาลกว่า 2 หมื่นไร่ จ่อประกาศพื้นที่ประสบภัย

คืบหน้าเกี่ยวกับผลกระทบจากแม่น้ำโขง มีระดับสูงต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 10.35 เมตร ถือว่าสูงสุดในรอบปี ห่างจากจุดวิกฤตประมาณ 1 เมตรเศษ คือที่ 12 เมตร หากถึงจุดดังกล่าวจะส่งผลให้ลำน้ำสาขาสายหลัก ไม่สามารถไหลระบายลงน้ำโขงได้ ในทางตรงกันข้ามน้ำโขงจะหนุนเข้าลำ

อพยพร้านค้าริมโขง ระดับน้ำขยับเพิ่มใกล้จุดวิกฤติ จ่อทะลักเข้าตัวเมืองนครพนม

ระดับน้ำโขงที่ จ.นครพนม โดยสถานีวัดระดับน้ำอัตโนมัติฯ กรมทรัพยากรน้ำ ยังคงเพิ่มระดับต่อเนื่อง ล่าสุดเช้าวันที่ 26 สิงหาคม 67 อยู่ที่ระดับ 10.20 เมตร ห่างจากจุดวิกฤตแค่ 1.80 เมตรคือที่ 12 เมตร เป็นการแตะระดับเลข 2 ตัวครั้งแรกในรอบปี

ย่องมอบตัวแล้ว สาวใหญ่ซิ่งรถฝ่าไฟแดง ชนสยองสาวตายทั้งกลม

Mrs.Bouneng Keosouphom อายุ 50 ปี สัญชาติลาว ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์ SUV ฝ่าไฟแดงบริเวณสี่แยกบ้านดอนโมง ต.หนองญาติ อ. เมืองนครพนม พุ่งชนรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว มีนายณรงค์ฤทธิ์ โคตรสุวรรณ อายุ 27 เป็นคนขับ จึงเป็นเหตุให้นางสาววิสุดา เทพคำราม หรือน้องบี อายุ 23 ปี ผู้ช่วยพยาบาล ประจำห้อง ICU รพ.นครพนม ชาวบ้านนาราชควายใหญ่ ต.นาราชควาย อ. เมืองนครพนม ตั้งครรภ์ท้องแก่ 8 เดือน ต้องตายทั้งกลมพร้อมลูกสาวที่อยู่ในท้อง