พายุฤดูร้อนกระหน่ำบึงกาฬ เครนยักษ์ล้มทับ 3 คนงานเสียชีวิต

4 พ.ค.2567 - ผู้สื่อข่าวจังหวัดบึงกาฬรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มมาพร้อมกับลมกระโชกแรงนานกว่า 30 นาที โดยภาพบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าแม็คโคร บนถนนหลาวงสาย 212 บึงกาฬ-หนองคาย เมื่อแสงไฟหน้ารถสาดส่องมาทำให้เห็นถึงแรงลมที่พัดเม็ดฝนมาพร้อมลมอย่างรุนแรง และเมื่อกระทบกับป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ยิ่งทำให้เห็นความรุนแรงของสายลมอย่างชัดเจน ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับทั้งเมือง

หลังพายุสงบลงได้สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เช่น บริเวณสะพานลอย ที่ตั้งอยู่บนถนนหลวงสาย 212 บึงกาฬ-บ้านแพง ระหว่างหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองบึงกาฬ ข้ามไปหาสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวีดบึงกาฬ ที่มีถนนกว่า 12 เลน แรงลมได้พัดเอาหลังคาสะพานลอยหลุดตกลงมาขวางถนนทั้ง 12 เลน จนรถยนต์ไม่สามารถสัญจรไป-มาได้

โดยเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงบึงกาฬ ได้นำรถจักร(jcb)พร้อมรถเครนเข้าดันและยกโครงหลังคาออกจากถนนสายดังกล่าว โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่งโมง 30 นาที จนสามารถเปิดถนนให้ประชาชนสัญจรไปมาได้ตามปกติ และปิดการใช้สะพานชั่วคราวจนกว่าจะสามารถประเมินความมั่นคงแข็งแรงอีกครั้ง โดยมีนายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผวจ.บึงกาฬ และนายธีระพล ขุนพานเพลิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ ลงพื้นที่สั่งการด้วยตัวเอง

ขณะที่บริเวณแคมป์คนงานก่อสร้างสะพานแห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ ริมถนนหลวงสาย 212 บึงกาฬ-หนองคาย ท้องที่บ้านหนองแวง ม.3 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ 3 คนงานหนุ่มเข้าไปหลบพายุลมฝน อยู่บนหลังรถซูซูกิ รุ่นแครี่ สีขาว ทะเบียน 1ฒฎ 5743 กทม. ที่มีหลังคายกสูงด้านหลังรถ จอดอยู่ใต้แกนตี้เครน (Gantry Cranes หรือเครนสนาม,เครนขาสูง) ถูกแรงลมพัดเครนล้มลงมาทับ ทำให้ทั้ง 3 รายเสียชีวิตติดอยู่ใต้หลังคาเหล็กท้ายรถ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนทีธรรม หน่วยกู้ภัยร่วมใจ และหน่วยกู้ภัยสว่างศรีวิไล ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถนำร่างออกมาได้

ทราบชื่อ 1.นายสมพงษ์ เจียมรัมย์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.7 ต.เมืองโพธิ์ อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ 2.นายจิตติชัย เศรษฐนันท์ อายุ 34 ปี อยู่ล้านเลขที่ 85 ม.4 ต.หนองกุง อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ และ 3.นายวรวุฒิ อ้วนแก้ว ชาวจังหวัดนครพนม

นอกจากนี้ยังมีรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแมค สีขาว ทะเบียน 2ฒง 6595 กทม. อีกหนึ่งคันที่ถูกเครนยักษ์ล้มทับ เบื้องต้น ผวจ.สั่งการให้ นายจ้างนำศพไปฝากไว้ที่โรงพยาบาลบึงกาฬก่อน เพื่อรอติดต่อญาติให้ทราบ และขั้นตอนของช่วยเหลือเยียวยาต่อไป

นายจุมพฏ ผวจ.ได้สั่งการด่วนให้นายอำเภอทุกอำเภอ ปภ. รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำรวจความเสียหายที่เกิดจากพายุฤดูร้อนในครั้งนี้ให้เร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าพรุ่งนี้เช้าจะมีความเสียหายเกิดขึ้นมาไม่น้อย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทยมีฝนเพิ่มขึ้น 4-7 ก.ค.นี้ ระวังอันตรายฝนตกหนักน้ำท่วมหลายพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ในช่วงวันที่ 4 - 7 ก.ค. 67 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตก

อุตุฯ พยากรณ์มรสุมกำลังอ่อนลง ทั่วไทยฝนลด ยังตก 35 จังหวัด

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง

กรมอุตุฯ เตือน 43 จว. ยังมีฝนฟ้าคะนอง ‘กทม.’ ชุ่มฉ่ำร้อยละ 60 ของพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

อุตุฯเตือน ภาคอีสาน-ใต้ รับมือฝนตกหนัก

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น