รอง ผอ.โรงเรียนชื่อดังขอนแก่นรับสารภาพรับเงินแป๊ะเจี๊ยะจริง ขณะที่ ป.ป.ช.ขอนแก่นพบหลักฐาน สมุดบันทึกนักเรียนที่ย้ายเข้ามากว่า 70 คน ยอดเงินจ่ายมีตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท
02 พ.ค.2567 - จากกรณีที่เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภาค 4 เข้าทำการจับกุมตัวรองผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองขอนแก่น หลังเรียกรับเงินจากผู้ปกครองรายละ 20,000 บาทเพื่อโยกย้ายบุตรหลานเข้าเรียนในระหว่างปีการศึกษาตามข่าวที่ได้นำเสนอไปอย่างต่อเนื่อง
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ นายธีรัตน์ บางเพ็ชร รักษาการ ผอ. ป.ป.ช.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ภายหลังจากมีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนในระบบติดตามตรวจสอบการทุจริตและการแจ้งเบาะแส ของเว็บไซต์ สำนักงาน ป.ป.ช. โดยรับเรื่องเมื่อวันที่ 24 เม.ย. โดย ป.ป.ช. ได้เชิญเข้ามาพบเพื่อขอรับข้อมูลในวันที่ 25 เม.ย.ก่อนจะวางแผนจับกุมเมื่อวันที่ 29 เม.ย. ซึ่งผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลว่า โรงเรียนดังกล่าวได้เรียกรับเงินมา 2 จำนวน คือ 10,000 บาท และ 20,000 บาท โดยดูจากผลการทดสอบการเรียนของเด็กนักเรียนที่ย้ายมา ถ้าเด็กอ่านออกเขียนได้จะเรียกเก็บ 10,000 บาท แต่ถ้าหากอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้หรือได้เล็กน้อย ก็จะถูกเรียกเก็บแพงขึ้นคือ 20,000 บาท
“ลูกของผู้เสียหายผ่านเกณฑ์อ่านออกเขียนได้จึงได้จ่าย 10,000 บาท แต่เมื่อกลับไปตรวจสอบประกาศของโรงเรียนกลับพบว่าไม่มีเงินค่าย้ายโอนใดๆ และเมื่อไปสอบถามเพื่อนบ้าน ทราบว่าเคยพาหลานไปแต่ไม่ได้เสียค่าย้ายโรงเรียน เมื่อตรวจสอบลงลึกไปอีกก็พบว่าโรงเรียนไม่ได้มีประกาศว่าจะเก็บค่าธรรมเนียมในราคานี้และเมื่อไปดูเรื่องเงินบริจาค โรงเรียนก็ไม่ได้กำหนดว่าต้องบริจาคเท่าใดจึงเชื่อได้แน่ว่าถูกรับเรียกอย่างไม่เป็นธรรมจึงเป็นที่มาของการจับกุมดังกล่าว”
นายธีรัตน์ กล่าวต่ออีกว่า ขณะเข้าทำการจับกุมรอง ผอ.คนดังกล่าว ในห้องทำงาน พบสมุดบันทึกนักเรียนที่ย้ายเข้ามาโดยตรวจพบว่ามีรายชื่อนักเรียน ระดับชั้น ป.2, ป.3, ป.4, ป.5 และ ป.6 ที่ย้ายเข้ามา เป็นรายชื่อที่จ่ายเงินแล้วทั้งหมดกว่า 70 คน ดูจากยอดบันทึกมีตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท และในขณะที่เข้าจับกุมก็ได้พบเงินวางอยู่บนโต๊ะข้างหน้าผู้บริหาร เบื้องต้นรอง ผอ.คนดังกล่าวยอมรับว่ารับเงินจริง จึงรวบรวมเป็นหลักฐานดำเนินคดีที่ สภ.เมืองขอนแก่น
“ขณะนี้อำนาจการสอบสวนอยู่ที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อครบ 30 วัน ก็ต้องส่งให้ป.ป.ช.ดำเนินการต่อ เพราะเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ซึ่งความผิดในลักษณะนี้จะเข้าข่ายมาตรา 149 เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ กับมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปธ.หอการค้าขอนแก่น เผยขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องไม่เกิน 10% ลดผลกระทบค่าครองชีพ
นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลมีแนวคิดที่จะจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น
พ่อไม่ติดใจตำรวจจับตาย มือยิงประธานสภา อบต. รับลูกก่อเหตุเพราะเสพยาบ้า
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 20 หมู่ 7 บ้านต้าย ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย หรือไอ้ยุทธ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ฐานความผิดพยายามฆ่า หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนอาก้าจ่อยิงนายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี ส.อบต.บ้านต้าย 3 สมัย และยังมีตำแหน่งประธานสภา
วิสามัญ คนร้ายยิงประธานสภา อบต. ยิงใส่ตำรวจก่อน เลยถูกตอบโต้ดับคาไร่อ้อย
นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น เข้าตรวจสอบการติดตามจับกุม นายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย อายุ 49 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุนายวินัย มณีรัตน์
ส่องความน่ารักสัตว์นานาชนิด ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าขอนแก่น
ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 4 ขอนแก่น ชวนเที่ยวชมสัตว์น่ารักช่วงสุดสัปดาห์" พร้อมเปิดพื้นที่เรียนรู้สัตว์ป่าที่น่าสนใจ
ปปช.เปิดทรัพย์สิน 'ก่อแก้ว' สุดอู้ฟู่รวย 263 ล้านบาท
เปิดเซฟ 'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 19.3 ล้านบาท 'อภิชาติ' อดีตเลขาธิการพรรค 13.2 ล้านบาท 'ก่อแก้ว' อู้ฟู่ 263 ล้าน
'ทวี' ตื่น แม่สร้างห้องขังดูแลลูกติดยา รุกจับมือทุกฝ่ายดูแลก่อนออกสู่สังคม
“ทวี”เยี่ยม “เอ็ม” หนุ่มบุรีรัมย์ที่ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ รพ.ธัญญารักษ์ขอนแก่น ครบ 1 อาทิตย์หลังแม่ทนไม่ไหวสร้างห้องขังลูกเหตุเพราะติดยา พร้อมประกาศเดินหน้ากวาดล้างยาเสพติดอย่างจริงจัง และสร้างคนให้มีความรู้ความสามารถทัดเทียมนานาประเทศ