นครพนมร้อนจัด กระทบหมู่บ้านตุ๊กแกส่งออกจีน หายากกว่าปกติ ซ้ำร้ายราคาตก แถมติดขัดกระบวนการ สูญญรายได้นับสิบล้านบาท
01 พ.ค.2567 - มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเศรษฐกิจการค้าของชาวบ้านตาล ต.นาหว้า อ.นาหว้า ถือเป็นหมู่บ้านอาชีพแปลกแห่งเดียวในไทย ที่รวมตัวกันทำอาชีพปริศนา ส่งออกไปยังปลายทางประเทศจีน เพราะเชื่อกันว่าเป็นยาชูกำลังขนานเอก โดยชาวบ้านตาล ต.นาหว้าประกอบอาชีพแปลกตามฤดูกาล ได้แก่ แปรรูปปลิงอบแห้งส่งออกในช่วงฤดูฝน แปรรูปไส้เดือนอบแห้งส่งออกในฤดูหนาว และตุ๊กแกแปรรูปส่งออกฤดูร้อน ทำให้มีเงินหมุนเวียนในชุมชนปีๆ หนึ่งเกือบ 100 ล้านบาท
แต่ล่าสุดในปี 2567 นี้มีอากาศร้อนจัด จึงได้ส่งผลกระทบต่ออาชีพนักล่าตุ๊กแก เนื่องจากหายากกว่าปีที่ผ่านมา คาดว่ามาจากปัญหาระบบนิเวศน์เปลี่ยนแปลง ฝนตกน้อย กระทบห่วงโซ่อาหาร และปัญหาเรื่องการขยายพันธุ์ช้า รวมถึงตุ๊กแกไม่ออกมาหาอาหาร จึงทำให้หายาก
เท่านั้นยังไม่พอ ได้ส่งผลกระทบขั้นตอนการส่งออก เนื่องจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง มีการเข้มงวดควบคุมการส่งออก ต้องมีการตรวจสอบ ขั้นตอนการผลิต ต้องมีลายลักษณ์อักษรอนุญาต ที่ปลอดจากโรคระบาดทางสัตว์ ทำให้นายทุนไม่รับซื้อ ทำให้ราคาตุ๊กแกตกต่ำ และยังมีประเทศคู่แข่งผลิตส่งขายไปจีนด้วย ทำให้สั่งออเดอร์จากไทยน้อยลง
สอบถามชาวบ้านในพื้นที่บ้านตาล ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม กลุ่มแปรรูปตุ๊กแกมานานเกือบ 20 ปี ระบุว่าปีนี้หนักสุด เจอปัญหาทั้งสภาพอากาศร้อนจัด หาตุ๊กแกยาก เชื่อว่าเกิดจากการขยายพันธุ์ช้า แต่ยืนยันว่าการจับตุ๊กแกไม่กระทบกับวงจรชีวิต ไม่สูญพันธุ์แน่นอน ส่วนใหญ่เป็นตุ๊กแกตามบ้านเรือน ไม่ใช่ตุ๊กแกป่าที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง
โดยทุกปีช่วงฤดูร้อนประมาณ 3 – 4 เดือน จะเปิดบ้านรับซื้อตุ๊กแกสดจากนักล่าทั่วอีสาน จากนั้นจะพักการจับมาแปรรูป เพื่อให้มีการขยายพันธุ์อีก 8 เดือน ยืนยันว่าไม่สูญพันธุ์ แต่ปีนี้สภาพอากาศ รวมถึงระบบนิเวศน์เปลี่ยนแปลงจึงหายากขึ้น ซ้ำร้ายล่าสุดมีปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการส่งออกจากไปจีน เพราะมีการเข้มงวดมากขึ้น ทำให้นายทุนรับซื้อน้อยลง ราคาจึงตก เพราะไม่มีคนซื้อ อีกทั้งมีคู่แข่งจากประเทศอื่น ทำให้ส่งออกขายยากมากขึ้น ทั้งนี้ชาวบ้านวอนรัฐบาลไทย รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง หันมาดูแลช่วยแก้ไขปัญหา เพราะเป็นอาชีพแปลกที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนมานานหลายสิบปี มีเงินหมุนเวียนสะพัด แต่มานี้เจอปัญหาหนัก บางรายต้องไปทำอาชีพอื่น ออกจากบ้านขายแรงงานต่างจังหวัด
นายจินดา วงษ์เนาว์ อายุ 52 ปี อาชีพแปรรูปตุ๊กแกส่งออก ชาวบ้านตาล ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม เปิดเผยว่าปีนี้ประสบปัญหาหนัก ทั้งอากาศร้อนจัดหาตุ๊กแกยาก เชื่อว่ากระทบการขยายพันธุ์ และฝนตกน้อยมีผลต่อระบบนิเวศน์ ตุ๊กแกไม่มีแมลงกิน ปีนี้ราคาตกต่ำมาก รายได้หายเกินครึ่ง จากปกติตุ๊กแกสดซื้อราคาตัวละประมาณ 50-80 บาท ทั้งนี้ราคาจะขึ้นอยู่กับขนาด แต่ปีนี้รับซื้อแค่ตัวละ 20-30 บาท โดยนำมาชำแหละเอาเครื่องในออก ก่อนขึงใส่ไม้แบบนำไปตากแห้ง ตามแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ปกติส่งขายจีนตัวละ 100 – 150 บาท มาปีนี้ขายได้ตัวละ 50 -60 บาท จากเคยมีรายได้ปีละ 4-5 แสนบาทต่อครอบครัว ปีนี้รายได้หายเกินครึ่ง บางรายต้องเลิกทำ หันไปรับจ้างต่างจังหวัด แต่ไม่อยากไปทำงานต่างถิ่น จึงต้องรับจ้างแปรรูปตุ๊กแกจากนายทุน ได้ค่าจ้างตัวละประมาณ 4 -5 บาทเท่านั้น
ส่วนนางนุจรินทร์ โคตรบิน อายุ 53 ปี เปิดเผยว่าจากปกติในช่วงฤดูร้อนจะมีรายได้จากการแปรรูปตุ๊กแกส่งออกไปจีน ปีละหลายแสนบาท ปีนี้ต้องเลิกทำ เพราะนายทุนเคยติดต่อค้าขายกันไม่รับซื้อ อีกทั้งมีราคาตกต่ำเกินครึ่ง จึงไม่คุ้มค่าแรงงาน จึงหันไปทำอาชีพอื่น รอการแปรรูปไส้เดือนช่วงฤดูหนาว อยากให้รัฐบาล หน่วยงานเกี่ยวข้องมาดูแลช่วยเหลือ เกี่ยวกับกระบวนการส่งออกที่ติดขัด มีการควบคุมมากขึ้น ทั้งที่ทำมาเป็นอาชีพสร้างรายได้ชุมชนมานานเกือบ 20 ปีแต่ต้องมีปัญหา อยากให้เห็นใจชาวบ้าน ที่เคยมีรายได้หมุนเวียนสะพัดในหมู่บ้านปีละหลายสิบล้านบาท ต้องสูญรายได้ไป ฝากรัฐบาลช่วยเหลือ เพราะเป็นอาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงควรให้การสนับสนุน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระอุ! เลือกตั้ง นายก อบจ.นครพนม ‘พท.’ ขนทัพหน้าช่วยผู้สมัคร สู้ลูกสาวครูแก้วแชมป์เก่า
ผู้สื่อข่าวจังหวัดนคพนมรายงานความคืบหน้าการเลือกตั้ง นายก อบจ.นครพนมว่า ยังไม่ทันถึงวันจับสลากได้เบอร์ เพื่อใช้ในการหาเสียงนายก อบจ.นครพนม
อลังการ! อุโมงค์ไฟดาวล้านดวง ชมแสงหลากสีระยิบระยับริมโขงรับลมหนาว
ลานกินลมชมวิว ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม นางสงวน มะเสนา รอง ผวจ.นครพนม นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ นายก อบจ.นครพนม นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศบาลเมืองนครพนม นางสางนงนุช สีทาน้อย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม
'โตโน่ ภาคิน' สุดปลื้ม รับมอบเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดชั้น 1 ของสปป.ลาว
ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โตโน่-ภาคิน คำวิลัย ศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดงชื่อดัง เข้าพิธีรับประดับเหรียญชัย ชั้น 1 ซึ่งเป็นเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดของ สปป.ลาว
พ่อไม่ติดใจตำรวจจับตาย มือยิงประธานสภา อบต. รับลูกก่อเหตุเพราะเสพยาบ้า
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 20 หมู่ 7 บ้านต้าย ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย หรือไอ้ยุทธ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ฐานความผิดพยายามฆ่า หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนอาก้าจ่อยิงนายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี ส.อบต.บ้านต้าย 3 สมัย และยังมีตำแหน่งประธานสภา
วิสามัญ คนร้ายยิงประธานสภา อบต. ยิงใส่ตำรวจก่อน เลยถูกตอบโต้ดับคาไร่อ้อย
นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น เข้าตรวจสอบการติดตามจับกุม นายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย อายุ 49 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุนายวินัย มณีรัตน์
จนท.ตรึงกำลัง ล่ามือยิงประธานสภา อบต. คนร้ายมีปืนอาก้า ระเบิดมือ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดจ่อยิง นายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลโพนจาน บ้านต้าย หมู่ 7 (ส.อบต.ฯ ม.7) ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์