ตำรวจแถลงจับมือแทงหญิงวัย 46 ผู้มีพระคุณเสียชีวิต

20 เม.ย.2567 - เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 19 เม.ย.2567 ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้แถลงข่าวความคืบหน้าคดีนายช่วยชีพ ชูเขาวัง หรือ “ลุงชีพ” อายุ 65 ปี ได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทง น.ส.ศันสนีย์ หรืออ้อย มูณีจันทร์ อายุ 46 ปี ลูกสาวเจ้าของที่ดินที่ให้นายช่วยชีพและเมีย อาศัยนานกว่า 2 ปี โดยใช้มีดแทงจำนวน 4 แผลทำให้ น.ส.ศันสนีย์หรืออ้อย ร่างพรุน เสียชีวิตคาที่ ริมถนนสายบางใหญ่-ปากเล หน้าบ้านเลขที่ 61/10 ม.5 ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 17 เมษายน 2567 นั้นและมอบตัวเมื่อช่วงบ่าย 19 เม.ย. ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.สมชาย กล่าวว่า คดีนี้ตำรวจใช้เวลาเพียง 2 วันได้หลังศาลออกหมายจับและกดดันให้นายช่วยชีพ ออกมามอบตัวในวันนี้ ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าใช้มีดแทง น.ส.ศันสนีย์หรืออ้อยจนเสียชีวิตจริง โดยสาเหตุมาจากเรื่องโกรธแค้นที่ถูกไล่ให้ออกจากที่ดินที่คนร้ายมาขอพักอาศัยอยู่นานกว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งตำรวจมีพยานหลักฐานมัดตัวแน่นหนาสามารถดำเนินคดีนายช่วยชีพได้ในข้อหาฆ่าผู้อื่นและพกพาอาวุธมีดไปทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งตำรวจจะได้มีนำตัวนายช่วยชีพไปทำการการฝากขังศาลต่อไป

ด้านนายช่วยชีพ กล่าวว่าตนยอมรับผิดและขอโทษกับทางญาติ ๆ ผู้เสียชีวิตด้วย ยอมรับว่าสาเหตุเกิดจากถูกไล่ออกจากที่ดินของแม่ผู้เสียชีวิต และยังมาจากสาเหตุอื่น ๆ อีกด้วยด้วยแต่ตนไม่ขอพูดถึงเพราะคนตายไปแล้วตนจะไม่พูดถึงให้เขาเสียหาย ซึ่งตนสำนึกผิดในความผิดที่ก่อเหตุลงมือฆ่า น.ส.อ้อย ในครั้งนี้เพราะอารมณ์ชั่ววูบซึ่งหลังเกิดเหตุตนไม่ได้หลบหนีไปไหนไกล แต่ซ่อนตัวในป่าชายเลนมาถึง 2 คืน ซึ่งตลอดเวลาที่ซ่อนตัวในป่าชายเลนก็จะจุดธูปขอขมาดวงวิญญาณของ น.ส.อ้อยทุกคืนและขอให้ดวงวิญญาณของคนตายไปสู่สุคติและตนก็พร้อมรับใช้กรรมที่ก่อไว้ในคุกต่อไป ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ได้ไม่นาน

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า น.ส.ปราณีหรือสาว นาคพัฒน์ อายุ 53 ปีเมียของตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ น.ส.อ้อยนั้น ตนยืนยันว่าไม่จริง น.ส.ปราณี เมียของตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อแต่อย่างใดตนทำเพียงคนเดียวเมียไม่เกี่ยว ตนขอรับโทษเพียงคนเดียวขอให้แก้ข่าวให้เมียตนด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวแล้วปรากฏว่าได้มีกลุ่มบรรดาญาติ ๆ ของ น.ส.อ้อยคนตายจำนวนกว่าสิบคนมายืนรอแน่นเต็มหน้าโรงพัก เพื่อจะมาขอดูหน้านายช่วยชีพ คนร้ายรายนี้ แต่กลุ่มญาติ ๆ ไม่ได้เจอหน้าคนร้ายเนื่องจากตำรวจได้คุมตัวเข้าห้องขังแล้ว เป็นจังหวะที่ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราชเดินลงมาพอดีจึงเข้าพูดคุยทำความเข้าใจกับกลุ่มบรรดาญาติ ๆ ของคนตายว่าไม่ต้องเป็นห่วงตำรวจทำคดีอย่างเต็มที่อย่างตรงไปตรงมาไม่มีการช่วยเหลือผู้ต้องหาอย่างเด็ดขาดขอให้มั่นใจการทำงานของตำรวจ ซึ่งทำให้บรรดาญาติ ๆ พอใจพากันเดินทางกลับไปในที่สุด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บุรีรัมย์ จับยาบ้าโลโก้ใหม่กว่าแสนเม็ด ระบาดแนวชายแดน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ พ.ต.อ.ก้องชาติ เลี้ยงสมทรัพย์ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ รับผิดชอบด้านยาเสพติด มอบหมายให้ พ.ต.ท.วิชาญ กระจ่างโพธิ์ รอง ผก

รักมากแค้นมาก! ฆ่าห่อศพอดีตเมีย

จากเหตุการณ์ที่มีผู้พบศพนางกฤตยา อายุ 67 ปี ถูกฆ่าแล้วห่อหุ้มด้วยผ้าห่ม นำมาทิ้งไว้ภายในซอยที่เป็นป่าหญ้าข้างกองขยะ ม.6 ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

กองทัพภาคที่ 4 ชี้แจงปม 3 ทหารใช้ปืนแบลงค์กันยิงข่มขู่นักมวย พร้อมสอบเอาผิดวินัย-อาญา

กองทัพภาคที่ 4 ชี้แจงกรณี 3 ทหารกราดยิง 20 นัดข่มขู่นักมวยขณะวิ่งออกกำลังกายริมถนน-ยึดปืนปืนแบลงค์กันของกลางพร้อมตั้ง กก.สอบเอาผิดทั้งวินัยและอาญา

จับเรือประมงเวียดนาม รุกล้ำน่านน้ำไทย ตั้ง 3 ข้อหาหนัก

พลเรือโท พิจิตต ศรีรุ่งเรือง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ได้สั่งการให้เรือหลวงสัตหีบ ลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ โดยเวลา 11.15 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา เรือหลวงสัตหีบ ตรวจพบเรือประมงสัญชาติเวียดนาม