ขอนแก่นสั่งปิดเรียนทั้งจังหวัด 14 วัน! สกัดโควิดลามหนักช่วงปีใหม่

3 ม.ค. 2565 – นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น ได้มีมติในการยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น หลังพบจำนวนผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิดรายใหม่ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวันที่ 1 ม.ค.เพียงวันเดียวที่ผลการตรวจยืนยันจากห้องปฎิบัติการ พบว่ามีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 รวม 232 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อโควิดที่มากเมื่อเทียบกับช่วงกับช่วงเวลาก่อนเทศกาล โดยเฉพาะในสายพันธ์โอไมคอนที่แพร่ระบาดได้ง่าย จากการรวมกลุ่มหรือการจัดกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมและไม่ปฎิบัติตามมาตรการป้องกันโรค

ดังนั้นมาตรการที่เข้มงวดจึงจำเป็นที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น จะต้องทำทันทีด้วยการมีคำสั่งปิดโรงเรียนหรือสถานศึกษาในทุกระดับและทุกสังกัด รวมทั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทุกแห่งและทุกสังกัด ไปจนถึงวันที่ 14 ม.ค. โดยให้จัดกระบวนการการเรียนการสอนตามที่กระทรงศึกษาธิการกำหนดในรูปแบบของออนไลน์แทน ขณะที่ สถานศึกษาที่ดูแลเด็กพิเศษหรือมีลักษณะที่เป็นที่พักประจำยังคงสามารถจัดการเรียนการสอนได้แต่ไม่อนุญาตให้นักเยนออกจากสถานศึกษาและห้ามผู้ปกครองหรือบุคคลภายนอกเข้าเยี่ยมเด็ดขาด

“ขณะเดียวกันจังหวัดยังคงขอความร่วมมือไปยังภาคเอกชนพิจารณาดำเนินการตามมาตรการปฎิบัติงานนอกสถานที่ หรือสถานประกอบการและสถานที่อื่นๆ หรือ Work From Home เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งอาจจะเป็นไปในรูปแบบของการสลับวันทำงาน การทำงานแบบออนไลน์ เพื่อลดการสัมผัสหรือการรวมกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไปจนถึงวันที่ 14 ม.ค. รวมไปถึงการงดจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2565 อย่างเด็ดขาด” นายสมศักดิ์ ระบุ

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดยังคงมีการกำหนดให้ส่วนงานราชการทุกแห่งทำการตรวจหาเชื้อแบบ ATK ให้กับพนักงานในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเมื่อพนักงานเริ่มเข้าปฎิบัติงานเพื่อความปลอดภัยในภาพรวมทั้งหมด อย่างไรก็ตามมาตรการดังกล่าวที่กำหนดขึ้นนั้นมีผลทันที ซึ่งหากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามจะมีโทษตามความผิด มาตรา 9, 10 และ 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตามมาตรา 35 และ 52 ตาม พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งยังคงมีความผิด ในข้อ 4 ตามความผิดมาตรตรา 34 และ 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอยง' ชี้สถานการณ์โควิดเปลี่ยนตามกาลเวลา ปีนี้ยุติแล้ว แต่ไวรัสยังอยู่ต่อไป

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 5 ปี โควิด 19 กาลเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน

ปธ.หอการค้าขอนแก่น เผยขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องไม่เกิน 10% ลดผลกระทบค่าครองชีพ

นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลมีแนวคิดที่จะจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น

พ่อไม่ติดใจตำรวจจับตาย มือยิงประธานสภา อบต. รับลูกก่อเหตุเพราะเสพยาบ้า

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 20 หมู่ 7 บ้านต้าย ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย หรือไอ้ยุทธ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ฐานความผิดพยายามฆ่า หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนอาก้าจ่อยิงนายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี ส.อบต.บ้านต้าย 3 สมัย และยังมีตำแหน่งประธานสภา

วิสามัญ คนร้ายยิงประธานสภา อบต. ยิงใส่ตำรวจก่อน เลยถูกตอบโต้ดับคาไร่อ้อย

นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น เข้าตรวจสอบการติดตามจับกุม นายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย อายุ 49 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุนายวินัย มณีรัตน์

ส่องความน่ารักสัตว์นานาชนิด ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าขอนแก่น

ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 4 ขอนแก่น ชวนเที่ยวชมสัตว์น่ารักช่วงสุดสัปดาห์" พร้อมเปิดพื้นที่เรียนรู้สัตว์ป่าที่น่าสนใจ