ผู้ว่าฯนครพนมตรวจเยี่ยมจุดตรวจ 7 วัน(ไม่)อันตรายทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่

31 ธันวาคม 2564 นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางกาญจนี รุจนเสรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่อำเภอโพนสวรรค์,ท่าอุเทน และอำเภอเมืองนครพนม เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และตรวจติดตามจุดตรวจ จุดบริการประชาชนที่คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดนครพนมจัดตั้งขึ้น เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พร้อมอำนวยความสะดวกและให้บริการแก่พี่น้องประชาชน ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่สัญจรไป-มาในพื้นที่ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565

นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ได้เสียสละเวลาอันมีค่าที่จะได้อยู่กับครอบครัว มาช่วยกันปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนที่สัญจรไป-มา ซึ่งการลงพื้นที่ของ ผวจ.ฯในครั้งนี้นอกจากจะสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานทุกคนแล้ว ยังได้นำเอาน้ำดื่ม อาหารแห้ง ยาสามัญประจำบ้าน เสื้อกั๊กและกระบองไฟจราจร มามอบให้เพื่อใช้ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ด้วย รวมถึงเป็นการนำคณะหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่จริง เพื่อรับรู้ รับทราบ ข้อมูลสถานการณ์ในการเดินทาง การให้บริการ ปัญหาของแต่ละพื้นที่ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และสิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานต้องการให้ทางจังหวัดสนับสนุนเพิ่มเติมในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาร่วมกันวางแผนกำหนดเป็นแนวทางในการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมาในพื้นที่

ซึ่งในการลงพื้นที่นั้นได้มีการแต่งตั้งทีมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจในลักษณะนี้ทั้งสิ้น 5 ชุดด้วยกันเพื่อแยกย้ายกันลงพื้นที่ให้ครอบคลุมทั้ง 12 อำเภอ ทั้งนี้ได้มีการเน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ทุกนายทุกฝ่าย โดยขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง เข้มงวด มีความสม่ำเสมอ เป็นไปด้วยความถูกต้องและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ถ้าพบเห็นปัญหาไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่อย่าได้นิ่งนอนใจให้รีบรายงานผู้บังคับบัญชาที่สูงกว่าทันที เพื่อร่วมกันหาทางแก้ไข เพราะเรื่องเล็กๆ อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ เช่น ถ้าพบว่าแสงสว่างบนเสาไฟฟ้าตามถนนไม่ติดเป็นบางจุด นั้นหมายถึงความสว่างของแสงไฟมีไม่เพียงพอ อาจส่งผลต่อการขับขี่ของผู้ใช้รถใช้ถนนที่นำมาซึ่งอุบัติเหตุได้ ที่สำคัญคือการดูแลลูกหลาน คนในครอบครัว และคนในชุมชนด้วยกันไม่ให้มีความประมาท เมื่อใช้รถใช้ถนนครั้งใดต้องมีความพร้อมทั้งร่างกาย และสติ ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถขณะมึนเมา หรือถ้าพบเห็นผู้ใช้รถใช้ถนนมีอาการง่วง ก็ให้หยุดรถไว้อย่าให้คนขับฝืนขับต่อไปเพราะนั้นหมายถึงอันตรายทั้งต่อผู้ขับขี่และผู้ที่ใช้ถนนร่วม และขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับการช่วยเป็นหูเป็นตาอีกแรงในการเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้ายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย เพราะในช่วงนี้จากสถิติพบว่ามีการกระทำผิดสูง เนื่องจากเป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่บางส่วนต้องมาประจำที่จุดตรวจ จุดบริการ ทำให้อาจมีช่องว่างที่ขบวนการทำผิดกฎหมายใช้ลักลอบดำเนินการได้ ทั้งนี้ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกนายพร้อมปฏิบัติการทันทีเมื่อได้รับแจ้ง ทั้งในเรื่องการช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกในการสัญจรไปมา และการปราบปรามยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ เพื่อทำให้ทุกคนมีความปลอดภัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'โตโน่ ภาคิน' สุดปลื้ม รับมอบเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดชั้น 1 ของสปป.ลาว

ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โตโน่-ภาคิน คำวิลัย ศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดงชื่อดัง เข้าพิธีรับประดับเหรียญชัย ชั้น 1 ซึ่งเป็นเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดของ สปป.ลาว

พ่อไม่ติดใจตำรวจจับตาย มือยิงประธานสภา อบต. รับลูกก่อเหตุเพราะเสพยาบ้า

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 20 หมู่ 7 บ้านต้าย ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย หรือไอ้ยุทธ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ฐานความผิดพยายามฆ่า หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนอาก้าจ่อยิงนายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี ส.อบต.บ้านต้าย 3 สมัย และยังมีตำแหน่งประธานสภา

วิสามัญ คนร้ายยิงประธานสภา อบต. ยิงใส่ตำรวจก่อน เลยถูกตอบโต้ดับคาไร่อ้อย

นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น เข้าตรวจสอบการติดตามจับกุม นายยุทธพล หมอกต้ายซ้าย อายุ 49 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุนายวินัย มณีรัตน์

จนท.ตรึงกำลัง ล่ามือยิงประธานสภา อบต. คนร้ายมีปืนอาก้า ระเบิดมือ

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดจ่อยิง นายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลโพนจาน บ้านต้าย หมู่ 7 (ส.อบต.ฯ ม.7) ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์

แม่เหยื่อคานก่อสร้างถล่ม เล่าทั้งน้ำตา อีกไม่กี่นาทีลูกชายก็จะเลิกงานแล้ว

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 145 หมู่ 9 ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายสำเริง พะพันทาง อายุ 48 ปี และ นางกันนิกา ทุมทอง อายุ 48 ปี พ่อแม่ของนายโจ้ผู้ตาย โดยพบว่าบริเวณหน้าบ้านได้มีกางเต็นท์

หนังเค็มอีสาน ดังไกลข้ามโลก เมืองนอกสั่งออเดอร์ โกยเดือนละแสน

หนังเค็มผลิตมาจากหนังควาย คือการถนอมอาหารตามแบบภูมิปัญญาชาวอีสาน มาหลายชั่วอายุคน เหมือนเป็นมรดกสืบทอดวัฒนธรรมการกิน ส่งจากรุ่นสู่รุ่นถึงปัจจุบัน โดยชาวอีสานมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย รวมถึงอาหารก็จะกินอย่างง่ายๆ และเพื่อให้สอดคล้องกับธรรมชาติ ชาวอีสานจึงรู้จักแสวงหาอาหารในท้องถิ่น