ยายวัย 67 ปี ชาว ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ บ่นอากาศร้อน อยากไปหานอนเล่นที่เย็นๆ เห็นลูกชายพร้อมพวก กำลังจะไปหว่านแหหาปลา จึงขอติดรถไปด้วย แต่ลูกไม่ให้ไป ตื้อจนลูกยอมให้ไปด้วย ขณะที่ลูกกำลังจะหว่านแหหาปลา แม่ได้ใช้เชือกผูกหูหม้อแล้วผูกที่เอวตัวเองงมหาหอย คาดหม้อพลิกคว่ำ ดึงร่างแม่จมน้ำดับอนาถ
27 ก.พ.2567 - ร.ต.อ.ประจักษ์ คำนาค ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งเหตุคนจมน้ำเสียชีวิต จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ แพทย์เวรโรงพยาบาลบุรีรัมย์ หน่วยกู้ชีพ อบต.กระสัง และหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์ รีบรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่ในบริเวณ ลำห้วยปอ บ้านม่วงเหนือ หมู่ที่ 2 ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ริมถนนสายบุรีรัมย์-ลำปลายมาศ พบชาวบ้านกำลังมุงดูร่างของ นางแอ๊ด ชัยรัมย์ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 2 ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่เพื่อนบ้านได้ช่วยกันงมร่างขึ้นมาจากลำห้วย ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบมีร่องรอย หรือบาดแผลจากการถูกทำร้ายแต่อย่างใด ก่อนจะนำร่างผู้เสียชีวิตส่งตรวจชันสูตรพลิกศพ ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
สอบถาม นายประวิทย์ อักษรณรงค์ อายุ 46 ปี บุตรชายคนตาย เล่าให้ฟังว่า วันนี้ตนเองกับเพื่อนบ้าน 5 คน ตั้งใจจะมารื้อเอาเศษกิ่งไม้ ที่ได้ก่อนหน้านี้ได้นำเศษกิ่งไม้ มากองรวมกันไว้ในลำห้วย เพื่อให้ปลามาอาศัยอยู่ ภาษาพื้นถิ่นเรียกว่า ‘เยาะ’ โดยที่ขณะพวกตนกำลังขับรถจักรยานยนต์ และรถจักรยานต์แบบพ่วงข้าง หรือรถซาเล้ง ออกมาจากหมู่บ้าน แม่ของตนได้ร้องขอว่าอยากจะไปด้วย ทั้งๆ ที่ร้อยวันพันปีก็ไม่เคยคิดอยากจะมาด้วย โดยแม่บ่นว่าอยู่บ้านอากาศมันร้อน อยากจะไปหานอนอยู่ในที่เย็นๆ และจะหางมหอยมาประกอบอาหารรับประทานด้วย ตนจึงยอมให้แม่นั่งรถซาเล้งมาด้วยกับตน
นายประวิทย์ เล่าให้ฟังต่อว่า เมื่อมาถึงที่ลำห้วย แม่ก็ได้นอนเล่นในรถซาเล้งสักพักก่อนจะลงงมหาหอยบริเวณริมตลิ่ง โดยแม่ได้นำเอาหม้อมาใช้เป็นภาชนะสำหรับหอย ซึ่งมีการนำเอาเชือกอีกฝั่งหนึ่งผูกกับหูหม้อ แล้วเอาเชือกอีกฝั่งผูกไว้กับเอวของตัวเอง เพื่อไม่ให้หม้อลอยไปไกล ส่วนพวกตนก็ได้นำอ้วนล้อมเยาะเอาไว้ ก่อนจะทำการรื้อเอาเศษกิ่งไม้ออกเพื่อจะหว่านแห ระหว่างนั้นแม่ก็ได้ว่ายน้ำข้ามไปอีกฝั่งของลำห้วยเพื่องมหอย ซึ่งตนก็จะหันไปดูแม่เป็นระยะๆ ขณะที่ทำการรื้อเยาะ เมื่อรื้อเยาะเสร็จแล้วกำลังจะทำการหว่านแห่ จึงได้หันไปดูแม่แต่ไม่พบตัวคน เห็นแต่หมวกลอยอยู่บริเวณริมตลิ่ง จึงคิดว่าแม่น่าจะจมน้ำ จึงรีบชวนเพื่อนที่มาด้วยกันให้ไปช่วยกันงมหาแม่ ในบริเวณที่พบหมวกลอยอยู่ และได้งมดูบริเวณกลางลำห้วย ก็พบร่างของแม่จมอยู่กลางลำห้วยจึงรีบพากันงมนำร่างของแม่ขึ้นมาบนฝั่ง แล้วช่วยกันปฐมพยาบาลแต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของแม่ได้ ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจและกู้ภัยให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าว
นายประวิทย์ เล่าด้วยว่า ส่วนสาเหตุที่แม่จมน้ำเสียชีวิตในครั้งนี้ คาดว่าหม้อที่แม่นำมาใส่หอย นั้นเกิดพลิกคว่ำจมน้ำลง จึงทำให้เกิดแรงฉุดดึงให้แม่จมน้ำลงไปกับหม้อใบดังกล่าวจนทำให้เสียชีวิต เนื่องจากแม่ได้ใช้เชือกผูกติดไว้ที่หม้อกับเอวของแม่
ด้าน นายบุญธรรม สังคโห อายุ 61 ปี เพื่อนบ้านที่มาร่วมหว่านแห บอกว่า นางแอ๊ดผู้เสียชีวิตเดินทางมากับลูกชาย บอกว่าอยากมาเล่นที่ลำห้วยเพราะอากาศเย็นสบายดี และอยากงมหาหอยเพื่อนำไปประกอบอาหารรับประทานด้วย โดยนางแอ๊ดผู้ตายได้ลงงมหาหอยบริเวณริมตลิ่ง ส่วนพวกตนกำลังล้อมอวนจะหว่านแหหาปลา ระหว่างนั้นนางแอ๊ดผู้ตาย ได้ว่ายน้ำข้ามฝั่งไปงมหาหอยอีกฝั่ง เมื่อล้อมอวนเสร็จกำลังจะหว่านแห ได้หันกลับมาดูนางแอ๊ดก็ไม่พบเห็นคน เห็นเพียงหมวกลอยน้ำอยู่ จึงรีบพากันมางมหาร่าง และพบว่านางแอ๊ดจมน้ำอยู่บริเวณกลางลำห้วย ก่อนจะรีบนำร่างขึ้นมาปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่นางแอ๊ดก็ได้เสียชีวิตไปก่อนแล้ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ป้า 67 ป่วยหลายโรค หาบเร่ขายของเลี้ยงชีพ หวังได้เงินหมื่น เฟส 2 หวั่นตกหล่น บัตรคนจนก็ไม่มี
บุรีรัมย์ ป้า 67 ป่วยความดัน มีก้อนเนื้อที่คอ แต่ต้องหาบเร่ขายของเลี้ยงชีพและลูกพิการ หวังได้เงินหมื่น เฟสสอง มาแบ่งเบา
ไก่ตายปริศนา คืนเดียว 12 ตัว พบพฤติกรรมคล้ายพังพอน ป้ายังเชื่อฝีมือผีกระสือ
ปศุสัตว์ จ.บุรีรัมย์ พร้อมปศุสัตว์อำเภอละหานทราย กำนัน และ ผญบ. ลงพื้นที่ตรวจสอบไก่ตายปริศนาคืนวันพระคืนเดียว 12 ตัว
ชาวนารับจ้างอัดก้อนฟางข้าว โกยรายได้งามช่วงหาซื้อยาก ราคาแพง
ชาวนาที่ จ.บุรีรัมย์ นำรถไถนาขนาดใหญ่ มาดัดแปลงติดตั้งเครื่องอัดฟาง ออกบริการรับจ้างอัดก้อนฟางข้าว จากชาวนาเพื่อนบ้าน
ชาวนาต้นทุนกระฉูด! ปุ๋ยคนละครึ่งไม่ตอบโจทย์
บุรีรัมย์ ชาวนา เรียกร้องให้รัฐบาล ช่วยค่าเก็บเกี่ยวไร่ละพัน แบ่งเบาภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ยังขายได้ราคาต่ำ
สนธิกำลังจับแก๊งขนยาบ้า ลอบขายช่วงลอยกระทง ยึดของกลาง 2.5 แสนเม็ด
ตำรวจ ทหาร ปกครอง จ.บุรีรัมย์ สนธิกำลังร่วมตำรวจ จ.สุรินทร์ ตามไล่ล่าติดตามจับกุม ทีมขนลำเลียงยาเสพติด ที่จะขนมาขายช่วงเทศกาลลอยกระทง ได้ยกแก๊ง 9 คน ยึดของกลางยาบ้า กว่า 2.5 แสนเม็ด ยาไอซ์จำนวนหนึ่ง กระสุนปืนอีก 14 นัด