สองสามีภรรยาใช้ชีวิตวัยเกษียณด้วยการล้มสวนยางพาราเนื้อที่ 1 ไร่ครึ่ง หันมาปลูกมะละกอพันธุ์เรดเลดี้ 200 ต้น เพียง 7-8 เดือนก็เก็บขายสร้างรายได้นับแสนบาทต่อเดือน พร้อมขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มเพื่อให้เพียงพอกับตลาด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังว่าที่สวน “รอยยิ้ม บ้านสวน” หมู่ที่ 5 ต.โคกสะบ้า อ.นาโยง จ.ตรัง เจ้าของสวนคือนายจิระศักดิ์ คำดี กับนางสาวปารมี สุวรรณรัตน์ อายุ 62 ปี ตัดสินใจใช้ชีวิตหลังเกษียณจากงานบริษัทในกรุงเทพฯ กลับบ้านเกิดที่จ.ตรัง และโค่นล้มสวนยางพาราเนื้อที่ 1 ไร่ครึ่งจากทั้งหมด 3 ไร่ เพื่อมาปลูกมะละกอพันธุ์เรดเลดี้จำนวน 200 ต้น เพราะเชื่อว่าผลไม้ปลอดสารและเป็นผลไม้เพื่อกลุ่มคนรักสุขภาพ จะขายได้ราคาดี
โดยใช้เวลาปลูกประมาณ 7-8 เดือนก็เก็บขายได้ในราคาส่ง กิโลกรัมละ 25-30 บาท แต่หากขายปลีกหน้าบ้าน กิโลกรัมละ 40 บาท ซึ่งแต่ละสัปดาห์จะเก็บมะละกอแบบวันเว้นวัน ได้ครั้งละ 300-400 กิโล หรือกว่า 10,000 บาททุก 2 วัน สร้างรายได้นับแสนบาทต่อเดือนกันเลยทีเดียว
ส่วนลูกค้ามีเฉพาะในจ.ตรังก็ไม่พอขาย เพราะบรรดาพ่อค้าแม่ค้ามีการสั่งซื้อล่วงหน้าเข้ามาทุกวัน จนเกษตรกรเตรียมขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มอีก 100 ต้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้ง มะละกอจะมีรสชาติหวานฉ่ำ สีส้มอมแดง เมล็ดน้อย และมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ อีกทั้งมะละกอยังมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงสายตา บำรุงผิวพรรณ ช่วยระบบขับถ่าย มีไฟเบอร์สูง มีเบต้าแคโรทีนช่วยต้านมะเร็ง มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ บรรเทาอาการเลือดออกตามไรฟัน บำรุงเลือด มีสารต้านอนุมูลอิสระ ไม่มีไขมัน ทำให้ไม่อ้วน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก และมีวิตามินอีกหลายชนิด จึงทำให้มะละกอ กลายเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย แถมยังมีรอบเร็ว ดูแลง่าย และมีตลาดรองรับอีกมาก เรียกว่ามีเท่าไหร่ก็ยังไม่พอขาย
ด้านนางสาวปารมี สุวรรณรัตน์ (ป้ายิ้ม) เจ้าของสวนกล่าวว่า ตนมีพื้นที่ทั้งหมด 3 ไร่แต่ปลูกแค่ 1 ไร่กว่า ๆ ได้ทั้งหมด 200 ต้น เก็บอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ๆ ละประมาณ 300-400 กิโล ซึ่งรสชาติประทับใจลูกค้ามากเพราะทั้งหวานกรอบ ซึ่งเป็นคุณสมบัติของเรดเลดี้อยู่แล้ว ซึ่งปลูกและบำรุงอย่างดีทำให้เด่นขึ้นมาในเรื่องความหวาน สีก็สดสวยด้วย ลูกค้าที่ซื้อไปชิมก็บอกต่อญาติๆตามเกาะต่าง ๆ ก็มาซื้อด้วย ทำให้ใน 1 อาทิตย์จะมีรายได้นับหมื่นบาท โดยมีเกษตรจังหวัดช่วยหาตลาดให้ รายได้ดีกว่ายางพาราเยอะมาก เพราะก่อนหน้านี้ราคาตกต่ำ และมีฝนเป็นตัวแปรสำคัญ โดยคิดจะขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มอีก 100 ต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกาะลิบงอ่วมหนักรอบ 30 ปี! คลื่นซัดเรือประมงล่ม 7 ลำ รีสอร์ทพัง ชาวบ้านเผยปีนี้ฝนมาเร็ว
ในพื้นที่เกาะลิบง หมู่ 5 บ้านหลังเขา ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง เกิดเหตุมีเรือประมงพื้นบ้านล่มจำนวน 7 ลำ หลังเกิดฝนตกและลมพายุในทะเลฝั่งอันดามัน โดยนายอ่าสาน ค
ป.ป.ช.ตรัง บุกตรวจอาหารกลางวันเด็ก พบไม่ตรงปก ชื่อนักเรียนทิพย์โผล่อื้อ
ป.ป.ช.ตรัง รวมกับ ศธ.ตรัง และชมรมตรังต้านโกง บุกตรวจสอบโรงเรียนเอกชนที่ใช้งบสนุนจากภาครัฐ พบอาหารไม่ตรงปก ชื่อนักเรียนทิพย์โผล่อื้อ
ผู้ตรวจ ป.ป.ช. สอบสนามบินตรัง หลังคารั่ว ฝ้าพัง เหตุผู้รับเหมาทิ้งงาน
นายพิเศษ นาคะพันธุ์ ผู้ตรวจราชการสำนักงาน ป.ป.ช. พร้อมด้วย นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต และ นางจิราภา ทินมาลา ผอ.ท่าอากาศยานตรัง เข้าประชุมชี้แจงและให้ข้อมูลปัญหาการก่อสร้างสนามบินนานาชาติตรังล่าช้า
ฝนถล่มตรัง! น้ำท่วมเกาะลิบง น้ำทะเลหนุน บ้านเรือน-โรงแรมเสียหาย
นายอ่าสาน คนขยัน หรือผู้ใหญ่สาน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 บ้านหลังเขา ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง แจ้งว่าภายหลังจากเกิดฝนตกตลอดทั้งคืนในทะเลฝั่งอันดามัน เช้าวันนี้มีฝนตกหนักประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูง
ปลูกข้าวโพดหวาน สร้างรายได้เดือนละกว่าครึ่งแสน
เกษตรกรสองสามีภรรยาชาวอำเภอนาโยง จ.ตรัง ใช้พื้นที่นาข้าวหลังเก็บเกี่ยว หันมาปลูกข้าวโพดหวานฝักใหญ่ เมล็ดเหลืองเรียวยาว เป็นที่ต้องการของตลาด ขายกิโลกรัมละ 25 บาท สร้างรายได้ 1,000-2,000 บาทต่อวัน เคล็ดลับคือทำปุ๋ยหมักจากต้นข้าวโพดนานข้ามปีจึงจะนำมาใช้
บุกจับเจ้าแม่เงินกู้รายใหญ่ จ.ตรัง รับสารภาพเก็บดอกเบี้ยโหด เงินหมุนเวียน 3 ล้าน
ตำรวจไซเบอร์เอาจริง! ลุยหนักปราบแก๊งเงินกู้นอกระบบ นำกำลังบุกจับ “เจ๊ขวัญ หาดเลา” เจ้าแม่เงินกู้รายใหญ่ พบหลักฐานคาบ้าน เจ้าตัวรับสารภาพหมดเปลือก ปล่อยเงินกู้เกินกฎหมายกำหนด ร้อยละ 20 บาทต่อเดือน ขยายผลพบมีเงินหมุนเวียนอีกกว่า 3 ล้านบาท