22 ก.พ.2567 - ร.ต.อ.พิชานน ปลื้มสุด รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งเหตุจากนายพิเชษฐ วิชัยสา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ว่า พบศพคนถูกไฟคลอกเสียชีวิต บริเวณหลังโรงงานราชวงศ์เฟอร์นิเจอร์ จึงประสานกู้ชีพ อบต.บ้านผึ้ง และแพทย์เวร รพ.นครพนม เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พบศพตายเป็นชายนอนคว่ำหน้าอยู่ในทุ่งนา ที่ปลูกกล้วยน้ำว้า แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นใครมาจากไหน ใกล้ที่พบศพมีคราดเหล็กด้ามหักตกอยู่ จึงมีการกระจายข่าวไปในหมู่บ้าน ว่า มีญาติใครยังไม่กลับเข้าบ้านบ้าง
สอบถามนายนิกร อินทรรักษา อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่สาธารณะสุข อบต.บ้านผึ้ง ทราบเบื้องต้นว่า ขณะเข้าเวรได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ ว่า มีไฟลามทุ่งหลังโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ จึงนำรถดับเพลิงออกไปดับไฟ แต่ยังไม่ทันจะฉีดน้ำ พบมีศพคนนอนคว่ำหน้าอยู่ท่ามกลางควันไฟ จึงไม่กล้าฉีดน้ำดับเพลิง พร้อมแจ้งเหตุดังกล่าวให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ ทางด้าน นายประยงค์ ลุนลา อายุ 61 ปี เจ้าของนาที่พบศพ เปิดเผยว่าได้ปลูกกล้วยน้ำว้าบนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ไม่ทราบใครมาจุดไฟเผาหญ้าและมีคนตาย ตอนนี้ยังงงในเหตุการณ์อยู่
ต่อมามีนายนภาพล สีคะ หรือแลน อายุ 43 ปี ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ พร้อมกับเปิดเผยว่า พ่อของตนชื่อนายจร สีคะ อายุ 80 ปี ได้มาดูนาตั้งแต่หลังเที่ยง ถึงตอนนี้ไม่ทราบว่าพ่ออยู่ไหน แต่รถจักรยานยนต์ยังจอดอยู่ที่เถียงนา ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่มากนัก แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดผ้าคลุมศพให้ดู ก็ยังไม่กล้ายืนยันเพราะไฟไหม้จนเกรียม จึงขอเวลาไปตามหาพ่อ
โดยรอบบริเวณทุ่งนามีการจุดไฟเผาเป็นวงกว้าง นายแลนพร้อมญาติเดินไปยังเถียงนาพร้อมตะโกนเรียกชื่อพ่อเป็นระยะ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ กระทั่งแพทย์เวรเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ เพื่อชันสูตรพลิกศพ โดยครั้งนี้มีการเปิดผ้าคลุมศพอย่างเต็มที่ นายแลนเห็นนาฬิกาที่ข้อมือซ้าย ก็จำได้ทันทีว่าเป็นนาฬิกาที่ตนซื้อให้พ่อ จึงสามารถยืนยันอัตลักษณ์ศพดังกล่าวว่าเป็นนายจรพ่อของตนแน่นอน
ส่วนสาเหตุคาดว่านายจรผู้ตาย ขับรถจักรยานยนต์มาที่นา เพื่อจะจุดไฟเผาตอซังข้าว แต่เป็นจังหวะที่มีลมพัดแรง ทำให้เกิดไฟลามทุ่งไหม้ขยายเป็นวงกว้าง นายจรจึงคว้าคราดไล่ดับไฟ ประกอบกับไฟไหม้ลุกลามใกล้ถึงโรงงานเฟอร์นิเจอร์ เกรงจะลามไปถึงจึงรีบใช้คราดดับไฟจนคราดหัก แต่ด้วยแรงลมที่พัดจึงเป็นเหตุให้นายจรหน้ามืด เพราะสำลักควันไฟ ล้มคว่ำท่ามกลางกองไฟจนไหม้เสียชีวิตดังกล่าว ญาติไม่ติดใจในสาเหตุการตาย เจ้าหน้าที่จึงมอบศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตม.นครพนม คุมเข้มสกัด 'แก๊งสแกมเมอร์ทิพย์' ปมเจ๊อ้อยโอนเงิน 39 ล้าน
กรณี ตำรวจกองปราบปราม กองบังคับการ 3 ร่วมกับชุดสืบสวนของกองกำกับการ 5 ตำรวจทางหลวง นำกำลังเข้าสกัดจับกุม ทนายตั้ม-นายษิทรา เบี้ยบังเกิด อายุ 43 ปี ในคดีหลอกลวงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย ตามหมายจับศาลอาญา
พี่สาวร่ำไห้ตามหา 'ครูวี' เจอมรสุมชีวิตทับถม ชิงลาออกไปเป็นกรรมกรก่อสร้าง
กรณีมีข่าวลือหนาหูว่ามีครูชำนาญการพิเศษ ลาออกไปเป็นกรรมกรก่อสร้างในกรุงเทพฯ หลังประสบมรสุมชีวิตอย่างเดียวดาย และล้มป่วยสารพัดโรค ก่อนจะตัดสินใจลาออก เพื่อรับเงินบำเหน็จ นำไปใช้หนี้เงินกู้
แจงดราม่า! งานตักบาตรพระ 1 พันรูป ปล่อยนั่งตากแดด โยนออแกไนซ์รับผิด
จังหวัดนครพนม ได้รายงานข้อเท็จจริง กรณีงาน "มหาบุญแห่งศรัทธานครพนม" โดยตามที่ปรากฏข่าวบนสื่อสังคมออนไลน์ ประเด็น "ทัวร์ลงยับ นิมนต์พระ 1 พันรูป ปล่อยนั่งตากแดด" เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมานั้น
สิ้นท่า 'ท้าวตู้' ตัวตึงค้ายาฝั่งโขง ยอมแฉหมดเปลือกแลกอิสรภาพ
นครพนม-จู่โจมจับกลางลำน้ำ “ท้าวตู้ตัวตึงฝั่งโขง” พร้อมชาวประมงคนไทยรวม 2 ราย ทำทีหาปลาแฝงขนยาบ้า ลูกเล่นอ้างจะแฉชื่อเอเยนต์ เพื่อแลกกับอิสรภาพ
ทัวร์ลงยับ! นิมนต์พระ 1 พันรูป ตักบาตรริมโขง ปล่อยพระนั่งตากแดดจนเหงื่อชุ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีผู้ใช้ชื่อ “Kittichai Kaenjan” โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีข้อความว่า “มนต์พระมานั่งตากแดด จนหลวงพ่อเปียกเมิด บาดเจ้าของนั่งในฮ่ม (พระกะคนใด๋ ฮ้อนเป็นคือกัน) บางอำเภอมาตั้งแต่ตี 3 นั่งถ้าจนหกโมง
เบื้องหลัง 'เรือไฟ' แชมป์เก่า อ.ปลาปาก ไหม้ก่อนไหลโชว์ สูญเกือบล้าน
เบื้องหลังเรือไฟ อ.ปลาปาก มูลค่าเกือบล้านบาท ไฟไหม้ก่อนไหลโชว์ ตะเกียงไส้ยาวจนลามไปอีกดวง กลุ่มผู้สร้างขอนำไปแก้ไข เพื่อทวงบัลลังก์แชมป์คืน เสียดายเงินเหมือนโยนทิ้งน้ำ