สลด! ย่าจุดไฟเผาตัวเองพร้อมหลานพิการ ดับ 2 ศพ

16 ก.พ. 2567 – ผู้สื่อข่าวจังหวัดชุมพรรายงานว่า เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พ.ต.ท.พนัส หมุนวงศ์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.นาสัก ได้รับแจ้งเหตุมีคนจุดไฟเผาตัวเองเสียชีวิต จำนวน 2 ศพ ในพื้นที่ ม.6 ตำบลนาสัก อ.สวี จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาให้ได้ทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดชุมพร และหน่วยกู้ชีพกู้ภัยสายชลชุดเขาทะลุ อ.สวี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวไม่มีเลขที่ ซึ่งปลูกอยู่กลางสวนปาล์มน้ำมัน ห่างจากถนนสายเอเชีย 41 เข้าไปในถนนหมู่บ้านสายแก่งกระทั่ง-นาสัก กว่า 10 กิโลเมตร บริเวณด้านข้างของตัวบ้านริมชายคา เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ศพ ทราบชื่อภายหลังคือ นางอุทัย ชนะ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247 หมู่ที่ 6 ตำบลนาสัก อ.สวี จ.ชุมพร นอนหงายอยู่ระหว่างเก้าอี้พับแบบปิกนิกกับโซฟาแบบพนักพิงปรับลงเป็นที่นอนได้ถูกไหม้หมดไม่เหลือสภาพ โดยบนโซฟาดังกล่าวเป็นศพของ ด.ญ.กนกนภา ชนะ อายุ 14 ปี สภาพนอนคว่ำหน้า ทั้งสองศพอยู่ในสภาพถูกไฟเผาไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโก

ใกล้กันเจ้าหน้าที่พบยาฆ่าแมลงแบบแกลลอน 5 ลิตร จำนวน 1 แกลลอน ภายในแกลลอนมีน้ำยาหลงเหลือเพียงเล็กน้อย และยังพบว่าขวดน้ำยาแลกเกอร์สำหรับทาไม้ตกอยู่ใกล้ศพ จำนวน 2 ขวด เป็นขวดเปล่า 1 ขวด และอีก 1 ขวดภายในขวดมีน้ำขุ่นขาว ทราบภายหลังคือยาฆ่าแมลงซึ่งผสมกับน้ำไว้เต็มขวด

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบกระดาษ ขนาดเอ 4 จำนวน 2 แผ่น ปลิวตกอยู่บนพื้นปูนบริเวณหน้าบ้าน โดยกระดาษทั้งสองแผ่น ได้เขียนข้อความขนาดใหญ่ ไว้ว่า “ขอโทษ อสม. ทุกคน ที่จบชีวิตด้วยทำ (ลาย) ร้ายตัวเอง หนีทุกสิ่ง ทุกอย่าง จากน้อง” และกระดาษอีกแผ่น เขียนข้อความว่า “เรามาใช้เวรชาตินี้ (หนี้) กระนุ้ยมึงเอาเงินกูไป 60,000 บาท กูขอจองเวรมึงทุกๆ ชาติ” (กระนุ้ยเป็นภาษาภาคใต้ที่เรียกน้อง ที่นี้หมายถึงน้องสาวของคนตาย) เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกและเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบถาม น.ส.อ้อยทิพย์ ชนะ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247 ม.6 ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร ทราบว่า นางอุทัยผู้เสียชีวิต คือแม่ตนเอง และอีกศพเป็นหลานสาว ซึ่งเป็นผู้พิการด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงมาตั้งแต่เด็ก โดยหลานสาวเป็นลูกของพี่ชาย แต่แม่ได้พามาเลี้ยงหลังจากที่เกิด ซึ่งหลังจากที่พ่อเสียชีวิตลง แม่กับหลานก็อาศัยบ้านหลังดังกล่าวกันเพียง 2 คน ส่วนตนเองนั้นจะอยู่ก่อนถึงบ้านแม่ประมาณ 100 เมตร และจะเวียนไปมาหาสู่อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะเวลาแม่จะไปไหนมาไหน ตนก็จะเป็นคนขับรถไปให้

โดยก่อนเกิดเหตุวันเดียวกัน ตนเองได้พาแม่ไปประชุมที่ศาลาหมู่บ้าน เนื่องจากแม่เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เมื่อส่งเสร็จตนเองก็กลับมาบ้าน จนกระทั่งเที่ยง กำลังจะไปรับกลับ ก็ทราบว่า แม่ได้อาศัยรถจักรยานยนต์เพื่อนบ้านกลับมาแล้ว จึงไม่สนใจอะไรมากนัก กระทั่งตอนกลางคืน เห็นบริเวณบ้านแม่ มีเปลวและแสงไฟลุกโชนสว่าง พร้อมมีเสียงคล้ายระเบิดแต่ดังไม่มากนัก จึงวิ่งไปดูก็พบภาพไฟกำลังลุกไหม้แม่และหลานสาว จึงได้ร้องตะโกนให้คนช่วยแต่ก็สายไปแล้ว แม่กับหลานได้ถูกไฟคอกเสียชีวิต จึงได้โทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ

น.ส.อ้อยทิพย์ เล่าด้วยว่า สำหรับกระดาษที่แม่เขียนไว้นั้น คาดว่าแม่เครียดมากเพราะเงินที่น้องสาวแม่ยืมไปนานกว่า 2 ปีแล้ว ยังไม่ได้กลับคืนมา แม่เคยทวงก็ทะเลาะกัน หนำซ้ำน้องสาวแม่ที่บ้านอยู่ห่างหน้าบ้านแม่ไม่มากนัก ยังเอาไม้และหลักมาฝังปิดกั้นทางไม่ให้แม่ใช้ทางเข้าบ้าน ซึ่งผู้ใหญ่บ้านได้มาเจรจาไกล่เกลี่ยจนต้องยอมเปิดให้ และตลอดเวลาที่ผ่านมาแม่จะทวงถามเงิน เพราะต้องใช้จ่ายกับการซื้อของใช้สำหรับหลานสาวที่พิการ น้องสาวก็เย้ยหากอยากได้ก็ไปฟ้องเอา คาดว่าแม่คงเครียดมาก จึงได้ตัดสินใจจุดไฟเผาตนเองและหลานสาวที่พิการให้ตายตามกันไป เพราะไม่อยากให้เป็นภาระใคร ซึ่งเรื่องนี้แม่เคยพูดและจะทำมาแล้ว จนที่สุดก็มาถึงจนได้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะได้นำศพทั้งสองไปที่โรงพยาบาลสวี เพื่อให้ทางแพทย์ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งยืนยันผลการตรวจที่ชัดเจนแน่นอน เพื่อสรุปสำนวนคดีต่อไป ถึงแม้ญาติจะไม่ติดใจในการเสียชีวิตในครั้งนี้ก็ตาม จากนั้นจะมอบศพให้ทางญาติเพื่อนำไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทยดูแลปลอดภัย! ชาวเมียนมาหนีตายกว่า 200 คน อพยพข้ามชายแดนระนอง

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจังหวัดระนอง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ม.5 บ.น้ำแดง ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง ซึ่งอำเภอกระบุรี เป็นอำเภอเขตติดต่อกับ

'เสี่ยเต็นท์รถ' ผูกคอดับปริศนา ไม่พบหลักฐานถูกทำร้าย ส่งชันสูตรศพหลังญาติคาใจ

ความคืบหน้ากรณีเจ้าของเต็นท์รถมือสองชื่อดัง เสียชีวิตในสภาพแขวนคอด้วยสายฟ้า บริเวณราวบันไดทางขึ้นชั้นสองของบ้านพัก ที่เปิดเป็นสำนักงานเต็นท์รถอยู่ข้างวัดศิริพุทธาราม ชุมชนบ้านท่าควาย เขตเทศบาลเมือง

'แป้ง นาโหนด' จุดกระแสปฎิรูป 'กระบวนการยุติธรรมไทย'

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า แป้ง นาโหนด : จุดกระแสปฎิรูปกระบวนการยุติธรรมไทย