ผอ.สำนักพุทธขอนแก่น ถูกมิจฉาชีพดูดเงินหายไปจากบัญชี สูญเงินกว่า 1.19 ล้านบาท หลังกดลิ้งก์สมัครบัตรการบินไทย เจ้าตัวเผยเคยคิดฆ่าตัวตายแต่ได้รับธรรมมะจากหลวงพ่อจึงทำใจสู้ พร้อมเตรียมตั้งทนายฟ้องธนาคารที่ไม่มีความปลอดภัย
13 ก.พ.2567 - ที่สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ขอนแก่น ว่าที่ ร.ต.จุลสัน ทันอินทร์อาจ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ขอนแก่น ได้นำเอกสารหลักฐานการโอนเงินมาแวดงต่อสื่อมวลชนหลังถูกมิจฉาชีพดูดเงินเกลี้ยงบัญชีธนาคารภายหลังจากสมัครบัตรการบินไทย โดยยืนยันว่าดำเนินการตามขั้นตอนอย่างครบถ้วนและได้มีการตรวจสอบข้อมูลต่างๆอย่างละเอียดแล้ว
ว่าที่ ร.ต.จุลสัน กล่าวว่า ได้จองตั๋วเครื่องบินเส้นทางขอนแก่น-กรุงเทพฯ โดยกำหนดเดินทางไป ในวันที่ 5-6 ก.พ. โดยเห็นลิ๊งก์ของสายการบินไทย จึงได้สอบถามราคาตั๋ว แต่ก็ยังไม่ทันได้ซื้อ เพราะจองสายการบินอื่นได้ก่อนเพราะราคาถูกกว่า จากนั้นได้มีไลน์สายการบินไทยได้ทักมาว่า สนใจสมัครสมาชิกไว้หรือไม่ ตนเองเห็นว่าสายการบินไทย เป็นของคนไทย สมัครสมาชิกไว้ก็ไม่เสียหลาย ถือเป็นการช่วยสายการบินของประเทศไทยไปในตัว จึงตัดสินใจสมัครโดยมีการส่งชื่อภาษาอังกฤษกับเบอร์โทรศัพท์ประจำตำแหน่งให้ ซึ่งไม่ใช่เบอร์ส่วนตัวที่ผูกกับแอพธนาคารเพราะกลัวมิจฉาชีพ
"จากนั้นช่วงบ่าย ได้มีไลน์ของการบินไทยที่ใช้ติดต่อกันนั้น วิดีโอคอลเข้ามาจึงรับสาย แต่ต้นทางไม่เปิดหน้า จากนั้นให้ตนเองยืนยันการสมัคร ด้วยความที่คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยของสายการบิน จึงต้องมีการสแกนใบหน้าและตั้งรหัส ก่อนมิจฉาชีพจะวางสายไป ต่อมาในช่วงค่ำ จึงเปิดแอพพลิเคชั่นธนาคารกรุงไทย เพื่อเช็คเงินในบัญชี แต่พอดูยอดเงินกลับเหลือเพียง 0.87 บาทจึงเกิดอาการช็อคว่าเงินหายไปได้อย่างไร"
ว่าที่ ร.ต.จุลสัน กล่าวต่ออีกว่า เมื่อยอดเงินหาย จึงไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ และโทรเข้าธนาคารทันที รุ่งเช้าตอนก็ไปแจ้งธนาคาร แต่ทำอะไรไม่ได้ ซึ่งตำรวจอายัดได้ 2 บัญชี ที่เงินถูกโอนไป คือ ธนาคารแลนดแอนด์เฮ้าส์ กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา แต่มีเงินเหลือแค่ 300 บาทเศษในบัญชีที่ถูกอายัด จึงเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยตำรวจไซเบอร์ หรือ สอท.ที่ส่วนกลาง ก่อนจะทำเรื่องยื่นฟ้องคดีผู้บริโภคกับธนาคารเจ้าของบัญชี
"ยืนยันว่า ไม่ได้เกิดจากความประมาทของตนเองเพราะไม่ได้มีการเปิดแอพธนาคารกรุงไทยในขณะทำรายการกับลิ้งก์ที่อ้างว่าเป็นของสายการบินไทย แต่เป็นการทักไปในไลน์ และส่งเฉพาะเบอร์มือถือที่ไม่ได้ผูกกับธนาคาร อีกทั้งโดยส่วนตัวได้มีการตั้งการโอนเงินไว้ไม่เกิน 500,000 บาท แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมีเงินโอนออกเป็นล้านบาท"
ว่าที่ ร.ต.จุลสัน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ไปติดต่อธนาคารก็พบว่ามีอีก 2 ท่าน ที่ถูกคนร้ายดูดเงินไป โดยคนนึงถูกดูดไปถึง 4 ล้านบาท ทำให้ขณะนี้จึงดำเนินคดีจ้างทนายฟ้องธนาคารตามขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตาม ในวันแรกที่เกิดเหตุ ยอมรับว่าคิดจะฆ่าตัวตาย จึงได้โทรไปลาพระผู้ใหญ่ที่ตนรู้จัก จากนั้นพระท่านสอนว่า คนเราเกิดมาตัวเปล่ากลับไปก็ตัวเปล่า ดังนั้นอย่าให้การสูญเสียครั้งนี้มาทำลายชีวิตเราที่เหลืออยู่ ทำให้ตัดสินใจที่จะไม่ทำร้ายชีวิตของตัวเองและจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลเร่งพัฒนาแพลตฟอร์ม สกัดมิจฉาชีพโทร-ส่งข้อความหลอกลวง คาดพร้อมใช้ต้นปี 68
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน
'ชูศักดิ์' สั่งสำนักพุทธฯ ศึกษากฎหมายรัฐธรรมนูญ มีมาตรการป้องกันทำลายพระพุทธศาสนา
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณีปัญหาพระออกมาเรี่ยรายเงินจะประสานพศ.แก้ปัญหาอย่างไรว่า
คุก! ศาลไม่ให้ประกัน 'เมียตั้ม ษิทรา' หวั่นหลบหนี
ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองปราบปรามนำตัวนายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 ข้อหา ฉ้
เผยแจ้งความออนไลน์ 1 มี.ค 65 - 31 ต.ค. 67 เฉลี่ยเสียหายวันละ 7.7 ล้านบาท
'รองโฆษกรัฐบาล' เผยสถิติแจ้งความออนไลน์ ตั้งแต่ 1 มี.ค 65 – 31 ต.ค.67 มูลค่าความเสียหายรวม 7.48 หมื่นล้านบาท เฉลี่ย 77 ล้านบาทต่อวัน
'ทนายตั้ม' โผล่ฉายหนังคนละม้วน อ้างปมเงิน 39 ล้านค่าศิลปินจีน เป็นมิจฉาชีพหลอก 'เจ๊อ้อย'
ที่กองบังคับการปราบปราม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" เข้าพบพนักงานสอบสวน ที่ถูกน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เ
ตำรวจสอบสวนกลาง CIB ผสานพลัง AIS ยกระดับเดินหน้าภารกิจปกป้องประชาชน เปิดบริการ *1185# แจ้งอุ่นใจ ตัดสายโจร กดแจ้งเบอร์โทรมิจฉาชีพได้ทันที หลังวางสาย
ตำรวจสอบสวนกลาง CIB จับมือ AIS ยกระดับการปกป้องลูกค้า และ ประชาชน จากมิจฉาชีพต่อเนื่องไปอีกขั้น เปิดตัวบริการ *1185# แจ้งอุ่นใจ ตัดสายโจร