บานปลาย! ไวยาวัจกรวัดธาตุพนม ดับเครื่องชน แจ้งความปลดมิชอบ ท้ากางบัญชีเงินฝาก 5 ธนาคาร เชื่อมีปีศาจคาบคัมภีร์รวบหัวรวบหาง
6 ก.พ.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับปัญหาการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ปมยักยอกเงินวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เริ่มบานปลายกลายเป็นศึกศักดิ์ศรี หลังจากทางวัดพระธาตุพนมฯ โดย พระธรรมวชิรโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม/ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 ลงนามออกคำสั่งให้ไวยาวัจกร วัดพระธาตุพนมฯ 3 คน รวมทั้ง กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ 1 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 โดยอ้างเหตุผล ว่า มีคนร้องเรียนให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปรามปราบการทุจริตแห่งชาติ ประจำจังหวัดนครพนม(ป.ป.ช.นครพนม) เข้าตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดพระธาตุพนม รวมถึงไวยาวัจกร จึงต้องให้มีการหยุดปฏิบัติหน้าที่
แต่เป็นที่น่าสังเกต คือ มีคำสั่งไวยาวัจกรวัดหยุดทำหน้าที่เพียง 3 คนจากทั้งหมด 6 คน ส่วนกรรมการวัดมีแค่ 1 คนจากทั้งหมด 14 คน นอกจากนี้ยังพบว่าทางอำเภอธาตุพนม ฝ่ายปกครอง ร่วมกับคณะกรรมการวัดที่เหลือ เข้ามาดูแลบริหารจัดการเรื่องรายได้ รวมถึงการดูแลผลประโยชน์วัด และรวบหัวรวบหางการเปิดเช่าพื้นที่ขายสินค้า ในงานนมัสการพระธาตุพนม ประจำปี 2567 จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 17 -25 กุมภาพันธ์ 2567 ที่จะถึงนี้
โดยทางอำเภอธาตุพนม อ้างว่าเป็นการจัดระเบียบใหม่ มีการตรวจนับเงินบริจาค สรุปยอดวันต่อวันเพื่อความโปร่งใส อาจสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มไวยาวัจกรวัดพระธาตุพนม ที่ถูกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงออกมาเรียกร้องให้ ป.ป.ช.นครพนม หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบ เนื่องจากมั่นใจว่า เป็นคำสั่งมิชอบ เป็นการโยนความผิดให้ ทั้งที่ยังไม่มีการสรุปผลสอบปัญหายักยอกเงินวัด โดยทางไวยาวัจกรที่ถูกกล่าวหา เรียกร้องให้ทางอำเภอธาตุพนม เปิดเผยหลักฐานที่กล่าวอ้างมานั้นแก่สาธารณชน
ทางด้าน นายปริญญา ฤทธิ์ตา หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริตสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่ามีการร้องเรียนเกี่ยวกับการเงินวัดพระธาตุพนมจริง โดยไม่สามารถให้รายละเอียดถึงการตรวจสอบได้ รวมถึงห้วงเวลา แต่ยืนยันว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.ตามกฎหมาย ซึ่งตามกฎหมายทางวัดถือเป็นนิติบุคคล รวมถึงไวยาวัจกร ก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐตามกฎหมาย ส่วนการออกคำสั่งชอบหรือไม่ในการปลดไวยาวัจกรวัด ถือเป็นอำนาจของคณะสงฆ์ หรืออำนาจของเจ้าอาวาสวัด ที่เป็นคนละส่วนของอำนาจหน้าที่ ป.ป.ช. อย่างไรก็ตามจะทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ในการตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส
ล่าสุด นายวิวัฒนชัย คงเพชร อายุ 66 ปี กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ยังคงเดินหน้านำเอกสารหลักฐาน พร้อมกลุ่มไวยาวัจกรที่ถูกกล่าวหาในทางเสื่อมเสีย เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ธาตุพนม เพื่อเตรียมเอาผิดกับคนที่ออกคำสั่งปลด หรือสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อความเป็นธรรม พร้อมเปิดเผยว่า ตนทำงานดูแลบริหารจัดการวัดมาร่วมกับพี่น้องประชาชน มานานหลายสิบปี สุดท้ายถูกกล่าวหาว่าเป็นคนยักยอกเงินวัด ถึงแม้จะมีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่ต่างจากปลด และมีการเผยแพร่หนังสือคำสั่งข้อมูลให้คนรู้ทั้งโลก ทำให้ทุกคนเข้าใจว่าพวกตนยักยอกเงินวัด สร้างความเสื่อมเสียเกียรติยศ ชื่อเสียง ทั้งที่ทำคุณงามความดีมาหลายปี รวมถึงรับราชการมาตลอดชีวิต
โดยมีข้อสังเกตว่า ในการตรวจสอบการเงินวัดของ ป.ป.ช. ตนเข้าใจในการทำหน้าที่ แต่คาใจคือยังไม่มีข้อสรุปว่าใครผิดใครถูก หรือมีการทุจริต สุดท้ายสั่งตนหยุดปฏิบัติหน้าที่ ถือเป็นการปักปำกล่าวหา เพราะการตั้งไวยาวัจกรตั้งผ่านมติที่ประชุมสงฆ์ แต่พอคำสั่งหยุดทำหน้าที่ออกมาแบบเร่งด่วน เพราะไม่มีการประชุม เชื่อมีขบวนการปีศาจคาบคัมภีร์อยู่เบื้องหลัง อยากเข้ามาดูแลผลประโยชน์ ตนไม่ได้ยึดติดพร้อมที่จะพ้นตำแหน่ง แต่ไม่ใช่การกล่าวหาว่าทำผิด และต้องพ้นด้วยความสง่างาม มีเกียรติ หากต้องการให้โปร่งใส ตนพร้อมที่จะให้ ทางวัดพระธาตุพนม หรือหน่วยงานเกี่ยวข้อง นำเอกสารทางการเงิน บัญชีวัดพระธาตุพนม ทั้ง 5 บัญชีมาแสดงสถานะล่าสุด รวมถึงดูรายการเบิกจ่ายทุกรายการ เพื่อความโปร่งใส เป็นธรรมกับคนที่ทำงานบริหารจัดการวัด หากผิดจริงยอมรับผิด ขอเพียงให้ชัดเจน มีการมายืนยันบัญชีต่อสังคมให้รู้ทั่วกัน หากเป็นการกระทำที่ไม่โปร่งใสชัดเจน ตนจะเดินหน้าเอาผิดทุกคนที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด เพราะทุกครั้งมีการเบิกจ่ายเงิน ผ่านขบวนการเบิกจ่ายถูกต้องทั้งหมด คือต้องมีลายเซ็นของเจ้าอาวาสวัดเป็นหลักทุกครั้ง ถ้าไม่มีถือว่าลายเซ็นไม่ครบเบิกเงินไม่ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
งานนมัสการพระธาตุพนม สัญญาเช่าพื้นที่เอื้อพวกพ้อง ฮุบหน้าวัดจัดล็อก โขกค่าเช่าโหด
กรณี กลุ่มตัวแทนผู้ค้าขายสินค้า อาหาร เสื้อผ้าและของฝาก บริเวณพื้นที่หน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร พระอารามหลวง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม มีหนังสือร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมฯ ถูกคนอ้างว่าได้รับฉันทานุมัติจากกรรมการวัด
น้ำลด ถนนอันซีนโผล่ จุดเช็กอินริมโขงนครพนมกลับสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจมน้ำนานสัปดาห์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม ระดับน้ำโขงเริ่มลดลงวันละ 20-30 เซนติเมตร ล่าสุดช่วงเวลา 17.00 น. อยู่ที่ 11.50 เมตร ห่างจากจุดเตือนภัยเฝ้าระวัง 50 เซนติเมตร คือที่ 12 เมตร
ระดับแม่น้ำโขงที่นครพนม วัดได้ 11.79 เมตร ปลอดภัยใกล้สู่ภาวะปกติแล้ว
ที่ จ.นครพนม ระดับน้ำโขงเริ่มลดปริมาณลง ตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ ล่าสุดอยู่ที่ 11.79 เมตร ห่างจากจุดเฝ้าระวังเตือนภัย 21 เซนติเมตรคือที่ 12 เมตร ถือว่าปลอดภัยใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังมีกระแสไหลเชี่ยว
ชาวนาระทม น้ำโขงหนุนสูง นาข้าวจมเกือบ 7 หมื่นไร่ 4 อำเภอ จ.นครพนม ตั้งศูนย์รับมือ
ระดับน้ำโขงสูงที่ จ.นครพนม หวนกลับมาอีกครั้ง หลังรับอิทธิพลจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ผนวกกับจีนปล่อยน้ำออกจากเขื่อนไฟฟ้า จึงเกิดผลกระทบต่อเนื่อง
น้ำโขงดีดสูงสุดรอบปี นาข้าวจมบาดาลกว่า 2 หมื่นไร่ จ่อประกาศพื้นที่ประสบภัย
คืบหน้าเกี่ยวกับผลกระทบจากแม่น้ำโขง มีระดับสูงต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 10.35 เมตร ถือว่าสูงสุดในรอบปี ห่างจากจุดวิกฤตประมาณ 1 เมตรเศษ คือที่ 12 เมตร หากถึงจุดดังกล่าวจะส่งผลให้ลำน้ำสาขาสายหลัก ไม่สามารถไหลระบายลงน้ำโขงได้ ในทางตรงกันข้ามน้ำโขงจะหนุนเข้าลำ
อพยพร้านค้าริมโขง ระดับน้ำขยับเพิ่มใกล้จุดวิกฤติ จ่อทะลักเข้าตัวเมืองนครพนม
ระดับน้ำโขงที่ จ.นครพนม โดยสถานีวัดระดับน้ำอัตโนมัติฯ กรมทรัพยากรน้ำ ยังคงเพิ่มระดับต่อเนื่อง ล่าสุดเช้าวันที่ 26 สิงหาคม 67 อยู่ที่ระดับ 10.20 เมตร ห่างจากจุดวิกฤตแค่ 1.80 เมตรคือที่ 12 เมตร เป็นการแตะระดับเลข 2 ตัวครั้งแรกในรอบปี