เครือข่ายอนุรักษ์ฯ ยื่น ปปช.ภูเก็ต เอาผิด 2 ข้าราชการปล่อยบุกรุกสวนป่าบางขนุน

29 ม.ค.2567 - นายจำรูญ เกิดดำ เครือข่ายอนุรักษ์พื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามันและเครือข่าย ป.ป.ช. และ สมาชิกเครือข่ายอนุรักษ์พื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน เข้ายื่นหนังสือต่อ ผู้อำนวยการ สำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)จังหวัดภูเก็ต ขอให้ไต่สวน เอาผิดข้าราชการ 2 ราย ที่ไม่พิทักษ์ป่าและทรัพยากรของแผ่นดิน สนับสนุนผู้บุกรุกทำลายสวนป่าบางขนุนภูเก็ต โดยมีผู้แทนผู้อำนวยการสำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประจำจังหวัดภูเก็ต (ปปช.จังหวัดภูเก็ต) รับเรื่อง ณ สำนักงานปปช.จังหวัดภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

ข้าราชการทั้งสองคนทราบดีว่า เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน และเป็นสวนป่าบางขนุน ที่กรมป่าไม้ได้จัดสรรเงินงบประมาณของแผ่นดินดำเนินการปลูกป่ามาต่อเนื่อง และทราบมาตลอดว่า กรมป่าไม้ ได้อนุญาตให้ส่วนราชการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าตามกรอบอำนาจการอนุญาตของทางราชการ

และทราบมาตลอดว่าเกิดการบุกรุกและพิสูจน์สิทธิ์ของผู้บุกรุกมาแล้ว ซึ่งสรุปว่าไม่มีผู้ใดบุคคลใดมีสิทธิ์ครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน แต่ทั้งจังหวัดภูเก็ต และ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ปล่อยปละละเลยให้มีการบุกรุกแผ้วทางทำลายป่า ก่อสร้าง เป็นพืชเชิงพาณิชย์ ที่เป็นพืชเชิงเดียวทำลายนิเวศน์ป่าดิบชื้นเกาะ

บุคคลทั้งสองเป็นเจ้าพนักงานป่าไม้โดยตำแหน่ง ซึ่งมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ป่าไม้ของทางราชการ แต่มีพฤติกรรมปล่อยให้มีการบุกรุกเข้าครอบครองพื้นที่ป่าไม้ป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุนของกลุ่มบุคคลและบุคคล

ขณะที่ พื้นที่ดังกล่าวทราบโดยทั่วกันแล้วว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ได้รับการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน ไว้เป็นคดีพิเศษ เลขคดีพิเศษ ที่ 49/2564 และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้บุกรุกบางรายไปแล้ว จำนวน 9 ราย โดยใช้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต เป็นสถานที่แจ้งข้อกล่าวหา และเป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่า กรมป่าไม้ได้อนุญาตให้ส่วนราชการ อาทิ กองทัพเรือ วิทยาลัยเทคนิคถลาง โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เป็นต้น ใช้ประโยชน์เพื่อสาธารณะของประเทศ

แต่จากพฤติกรรม การสั่งการในหนังสือราชการของ ข้าราชการทั้ง 2 ราย บ่งชี้ว่า เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มบุคคล หรือบุคคล ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่ไม่ครบถ้วนทุกด้าน พิจารณาและสั่งการเพียงมุมที่เป็นประโยชน์ต่อหน้าที่การงานของตนเอง ไม่รักษาทำให้จัดการทรัพย์ของทางราชการ น่าจะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 151

จึงร้องทุกข์ให้ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สืบสวน สอบสวน ไต่สวน เอาผิดกับข้าราชการทั้ง 2 รายนี้ และ หากพบการกระทำความผิดเข้ามูลฐานความผิดฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ขอให้ดำเนินการส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีอาญาฟอกเงินด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ปลาหมอคางดำ' บุกอ่าวไทย ผ่าท้องพบลูกกุ้ง สมุทรปราการระบาดขั้นวิกฤติ

ชาวประมงพื้นบ้านจับปลาหมอคางดำได้นอกเขต 3 ไมล์ทะเล จับผ่าพบมีเคยอยู่ในท้องจำนวนมาก แจ้งนายกสมาคมประมง จ.สมุทรปราการ นำเรื่องเข้าที่ประชุมหารือแนวทางแก้ไขด่วน

สส.ภูเก็ต เสนอมาตรการ 3 ข้อ เหตุไฟไหม้ 'กะรนไนท์พลาซ่า' เสียหายหนัก

นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต เขต 2 พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า "จากเหตุเพลิงไหม้บริเวณกะรนไนท์พลาซ่า 13 ก.ค.67 เวลา 01:44 น. ที่ผ่านมา เป็นย่านแหล่งช้อปปิ้ง ต.กะรน ร้านขายเสื้อผ้าและของที่ระลึกรวมถึงร้านอาหารที่บริการกับนักท่องเที่ยว ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งหมด 20 ร้านค้า

ภูเก็ตทำหนังสือด่วนที่สุด ให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน 13-17 ก.ค.นี้

ภูเก็ตทำหนังสือด่วนที่สุด ถึง นายอำเภอ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกแห่ง ทุกส่วนราชการ เตรียมความพร้อมน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก 13-17ก.ค.นี้

น้ำท่วมภูเก็ตเริ่มคลี่คลาย 2 อำเภอประสบภัยเสียหายหนัก เร่งฟื้นฟูพื้นที่

นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่าสถานการณ์น้ำท่วมขังในจังหวัดภูเก็ต ขณะนี้ได้คลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติสามารถเดินทางสัญจรได้ทุกพื้นที่

ประกาศฉบับ 7 กรมอุตุฯ เตือน 53 จังหวัดรับมือฝนตกหนักในอีก 24 ชม.ข้างหน้า

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน ฉบับที่ 7 (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 26 มิถุนายน 2567)