27 ม.ค.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเสวียน บุตรที ส.อบต. ม่วงเจ็ดต้น พร้อมด้วยชาวบ้าน ประมาณ 40 คน รวมตัวกันบริเวณที่ว่าการอำเภอบ้านโคก พร้อมถือแผ่นป้ายข้อความระบุว่า “ลาออกไป เราไม่ต้องการผู้ใหญ่บ้านทุจริต” นายอำเภอต้องยุติธรรม ผู้ใหญ่บ้านต้องลาออก” เงินโควิดไม่โปร่งใส ลาออกไป” “น้ำประปาไม่โปร่งใส ทำบุญกองข้าวไม่โปร่งใส” “ลาออกไป เราไม่ต้องการผู้ใหญ่บ้านทุจริต” “ทุจริตโกงกินเงินวัด เหมือนคนบาป” เพื่อเป็นการทวงถามความคืบหน้ากรณีร้องเรียนให้มีการตรวจสอบการทุจริตต่อหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน 7 ข้อกล่าวหา ตามที่ได้เคยยื่นเรื่องร้องเรียนไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ดังนี้ 1.การรับเงินบริจาคก่อสร้างองค์พระรอบสำนักสงฆ์(วัด) 2.ตรวจสอบเงินเมรุ ตั้งแต่เป็นผู้ใหญ่บ้านมา ได้เก็บรวบรวมเงินเอาไว้เพียงคนเดียว มีเงินอยู่จำนวนเท่าไหร่ ใช้จ่ายไปแล้วเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่
3.เงินค่าน้ำประปา ที่มีการเก็บจากชาวบ้านไปไม่มีการชี้แจงให้ชาวบ้านรับรู้ยอดเงินเก็บได้เท่าไหร่ใช้จ่ายเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ 4.เงินเยียวยารักษาโควิด เป็นโครงการของรัฐบาลที่ขอมาช่วยเหลือชาวบ้านและเยียวยาปากท้องของชาวบ้าน รับมาเท่าไหร่ใช้จ่ายส่วนใดบ้าง ยังไม่มีการชี้แจง 5.เงินทำบุญกองข้าวเปลือกตามประเพณีของทุกปี มีการเก็บรวบรวมเงินเอาไว้เอง โดยทางวัดและคณะกรรมการไม่มีส่วนรู้เห็น ได้เงินจำนวนเท่าไหร่ ใช้จ่ายไปเท่าไหร่และเหลือเท่าไหร่ ไม่เคยชี้แจงให้ชาวบ้านทราบ
6.เงินบริจาคของชาวบ้านภายในหมู่บ้านเพื่อเทพื้นหน้าเมรุ รับเงินบริจาคไปแล้วเก็บไว้เอง โดยไม่ได้ดำเนินการใดเลยและไม่เคยชี้แจงให้ชาวบ้านทราบ 7.ขอให้ตรวจสอบการทุจริตเงินหมู่บ้านอาสาพัฒนาป้องกันตนเอง (อพป.) ของชุมชนในหลายปีที่ผ่านมา ขอให้ตรวจสอบพร้อมชี้แจงชาวบ้านด้วย ในวันนี้ชาวบ้านจึงต้องรวมตัวกันมาทวงถามนายอำเภอบ้านโคกว่า ได้ดำเนินการสอบสวนเอาผิดกับผู้ใหญ่บ้านไปถึงไหนแล้ว
โดย นายวันชัย เกตุแก้ว นายอำเภอบ้านโคก พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมบูรณ์ คล่องใจ ผกก.สภ.บ้านโคก ได้ยื่นรอพบชาวบ้านอยู่ที่บริเวณลานกว้างของที่ว่าการอำเภอ พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ อส. เจ้าหน้าที่ ชรบ.เจ้าหน้าที่ตำรวจรวมเกือบ 100 นาย ปิดทางเข้าออกบริเวณที่ว่าการอำเภอบ้านโคก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มชาวบ้านที่มารวมตัวกันในการรับฟังผลการสอบสวนตามที่มีการนัดหมายไว้และไม่ต้องการให้บุคคลที่สามสวมรอยเข้ามาสร้างความวุ่นวายภายในพื้นที่
จากนั้น นายวันชัย นายอำเภอบ้านโคก ได้เปิดโอกาสให้ชาวบ้านพูดถึงปัญหาและข้อเรียกร้องที่ต้องการ นางเสวียน ส.อบต.ม่วงเจ็ดต้น ได้เดินเข้าหานายอำเภอบ้านโคกและกล่าวกับนายอำเภอว่า “ชาวบ้านไม่มีความเลื่อมใสผู้ใหญ่บ้านแล้ว ให้ลาออกไปอย่างเดียว ต้องลาออกไปอย่างเดียวและวันนี้จะมาทวงถามว่า การดำเนินการตามที่ชาวบ้านร้องเรียน 7 ข้อไปถึงไหนแล้ว
นายวันชัย นายอำเภอบ้านโคก ชี้แจงต่อชาวบ้านที่มารวมตัวกันว่า ทางอำเภอได้ดำเนินการให้ชาวบ้านตั้งแต่รับเรื่องแล้ว พร้อมชี้แจงว่า เบื้องต้นหลังรับเรื่องร้องเรียนได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านในฐานะผู้ถูกร้องรับทราบและเข้าชี้แจง ในส่วนนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว ขั้นตอนที่สองเชิญคู่กรณีคือผู้ร้องและทีมงาน พร้อมเจ้าอาวาสวัด(สำนักสงฆ์)ล้านช้าง พูดคุยกันถึง 2 ครั้ง อธิบายขั้นตอนการดำเนินงานของทางราชการจะต้องทำอะไรบ้าง ที่ร้องเรียนมาทั้ง 7 ข้อ อำเภอต้องสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดว่า เป็นไปตามที่ร้องเรียนหรือไม่อย่างไร ผู้ใหญ่บ้านจะชี้แจงอย่างไร ระยะเวลาแต่ละประเด็น จะมีข้อมูลส่งมาให้อำเภอนานมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะกรณีของเงินวัด เงินมีที่มาที่ไปและการดำเนินการอย่างไร รวมถึงผู้ใหญ่ บ้านนำเงินไปใช้จริงไหม โดยสอบให้ครบทั้ง 7 ประเด็น จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย กรรมการผู้สอบจะตรวจสอบว่า มีข้อเท็จจริงถูกต้องมากน้อยแค่ไหน หากมีและเข้าความผิดวินัย ก็จะตั้งคณะ กรรมการสอบเอาผิดวินัยต่อไป ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ การสอบให้ครบทั้ง 7 ประเด็น ต้องใช้เวลานานกว่า 6 เดือนขึ้นไป ยังไม่สามารถบอกได้ว่า จะใช้เวลานานแค่ไหนขึ้นอยู่กับการสอบสวนที่จะสรุปออกมาแต่ข้อตามที่ชาวบ้านร้อง
ระหว่างที่นายวันชัย นายอำเภอบ้านโคก ชี้แจงอยู่นั้น ชาวบ้านได้โต้แย้งถึงที่มาชุมนุมก็ต้องมีข้อเท็จจริงว่า ผู้ใหญ่บ้านมีอะไรที่บกพร่องบ้าง ระหว่างที่รอก็ให้ผู้ใหญ่บ้านพักหน้าที่ไปก่อน นายอำเภอชี้แจงว่า การพักหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านมีข้อระเบียบและกฎหมายที่ทางราชการกำหนดเอาไว้ การพักหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านได้ ผู้ใหญ่บ้านคนนั้นจะต้องถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยอย่างร้ายแรง จึงจะพักหน้าที่ได้ ที่ผ่านมาทางอำเภอบ้านโคกได้สั่งพักหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านไปแล้ว 1 ราย ตั้งแต่ที่ตนมารับตำแหน่งนายอำเภอบ้านโคกเป็นเวลา 1 ปีแล้ว ไม่ระบุว่าที่ไหน เป็นกรณีที่มีการร้องเรียนแบบนี้ สอบไปสอบมา กรรมการสอบข้อเท็จจริงสอบเสร็จเสนอว่า “มีความผิดทางวินัย” เมื่อมีความผิดทางวินัยก็เสนอจังหวัดตั้งกรรมการสอบเอาผิดวินัยอย่างร้ายแรง ก็จะเข้าเงื่อนไขของระเบียบกฎหมาย อำเภอก็สั่งพักหน้าที่ แต่เรื่องที่ชาวบ้านร้องมานี้ ยังไม่อยู่ขั้นตอนนั้น หากถึงขั้นสอบวินัยร้ายแรง ทางอำเภอก็ต้องสั่งพักหน้าที่ผู้ใหญ่บ้าน ทั้งนี้ ชาวบ้านกล่าวเสริมว่า ต้องการให้มีคณะกรรมการระดับจังหวัดเข้ามาร่วมสอบเอาผิดผู้ใหญ่บ้านในครั้งนี้ด้วย นายอำเภอกล่าวเรื่องนี้ว่าเป็นอำนาจของนายอำเภอ หากเป็นความประสงค์ของชาวบ้านให้ทำหนังสือแจ้งขึ้นมา
น.ส.กันยากร เกศกาญจน์ ชาวบ้านในพื้นที่กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านได้มาทวงถามความคืบหน้า 7 หัวข้อที่มีการร้องเรียนผ่านนายอำเภอบ้านโคกไปแล้ว ชาวบ้านอยากได้ความจริงใจจากผู้ใหญ่บ้าน ความซื่อสัตย์ ความโปร่งใส และ อยากได้จากนายอำเภอด้วยว่า ตรงนี้ผิดจริง อยากให้ทำเรื่องกระชับขึ้น ชาวบ้านรอด้วยความหวังจริง ๆ สิ่งที่ชาวบ้านทำขึ้นมาไม่ได้ทำเพื่อตนเองหรือ เพื่อใคร แต่เราอยู่จุดนั้น เราเห็นว่าสิ่งไหนถูกต้อง สิ่งไหนไม่ถูกต้อง มันมีข้อมูลสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ผู้ใหญ่ก็เซ็นรับความผิดเป็นเอกสารด้วยตัวของผู้ใหญ่บ้านเอง กรณีทุจริตนำเงินบริจาควัดไปใช้ แต่มาถึงที่อำเภอมันล่าช้า ชาวบ้านกังวลตรงส่วนนี้มันล่าช้า มันจะมีอะไรที่ทำให้มันผิดเพี้ยนไปหรือป่าวหรือมีคนช่วย ผู้ใหญ่บ้านทำงานจุดนี้มาเยอะรู้กว่าชาวบ้าน ไม่รู้เลยหรือว่าสิ่งที่ทำถูกหรือผิด สิ่งที่วิตกกังวลคือ ความยุติธรรมชาวบ้านจะได้จริงๆหรือป่าว คนที่ผิดจะยอมรับไหม ซึ่งทุกอย่างมันมีความเป็นจริงอยู่แล้ว แต่ตรงนั้นความยุติธรรมมันมีจริงอยู่หรือป่าว ชาวบ้านจะได้จริงๆไหมจากนายอำเภอเกี่ยวกับเงินวัด เกี่ยวกับเงินหมู่บ้าน เงินค่าน้ำประปาหมู่บ้านและเงินเมรุเผาศพ รวม 7 ข้อ 7 ประเด็น ยังมีสิ่งเล็กๆที่ยังไม่ได้มีการร้องเรียนเสนอนายอำเภอไป รามความเสียหายครั้งนี้ทั้งระบบ ทั้งหมดเป็นเงินกว่า 400,000-500,000 บาทขึ้นไป เรื่องที่เกิดขึ้นยังไม่รู้ว่ามีการทุจริตมานานแค่ไหนแล้ว ความยุติธรรมในหมู่บ้าน ชาวบ้านอยากได้และอยากเห็นจริงๆ
“ถ้าผู้ใหญ่บ้านไม่ผิดชาวบ้านพร้อมให้อยู่ต่อ อยู่ได้เลย เราไม่อยากให้เอาประชาชนมาชุมนุมเพื่อขัดแย้งกันเอง เพื่ออะไร ทำไมผู้ใหญ่บ้านไม่รับผิดชอบการกระทำของตนเอง แค่ผู้ใหญ่บ้านออกมารับผิดชอบจุดนี้ ชาวบ้านยอมถอยเพราะได้ข้อมูลจริงมาแล้ว เรียกร้องให้ลาออก ถ้าผู้ใหญ่บ้านทำผิดจริงสมควรดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านต่อไปอีกหรือ ความเป็นผู้ใหญ่บ้านไม่มีแล้ว ในเมื่อมีการทุจริตต่อหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้านเอง จะไม่สามารถปกครองคนในหมู่บ้านได้ เราไม่ใช่พวกเขาหรือคนของเขาจะอยู่กันอย่างไร จะก้าวขึ้นมาเอ่ยปากอะไรได้ ในเมื่อไม่เห็นความยุติธรรมเลย อยากให้นายอำเภอแจ้งมาเลยว่าจะเสร็จสิ้นประมาณเดือนไหน กี่เดือน 2-3 เดือน แต่ 5-6 เดือนมันยาวไปชาวบ้านรอนานเกินไป เราไม่รู้ว่าความยุติธรรมข้างใน คุณจะไปคุยอะไรกันหรือป่าว ชีวิตที่อยู่ในหมู่บ้านตอนนี้แบ่งเป็นพรรคเป็นพวก เราเป็นคนกลุ่มน้อยที่เสนอตรงนี้ขึ้นมาจะอยู่ยังไง เมื่อกลุ่มผู้ใหญ่เป็นกลุ่มใหญ่มาก”
ด้านนางวาสนา ศาสตร์มานพ กล่าวว่า ตนได้ถูกข่มขู่ไม่ให้เข้ามายุ่ง อยากให้เลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน ไม่อยากเกิดคดีความอย่าได้ไป หากเกิดคดีความไม่คุ้มเสีย โดยพูดให้เรากลัวไม่อยากมา แถมยังบอกว่ามีคนคอยช่วยเหลือเขาอยู่ข้างหลัง นิ่ง ๆ อยู่นี้ เตรียมเรื่องที่จะดำเนินคดีเหมือนกัน คนที่ข่มขู่เป็นพี่สาวของผู้ใหญ่บ้าน ทั้งที่ตอนนั้นยังไม่ได้เรียกเข้ามาในบ้าน ลูก ๆเล่นกันอยู่ภายในบ้าน แจ้งให้ทราบว่า “แม่มีคนมาหา” ขณะอยู่ภายในห้องน้ำยังไม่ได้ออกมา แต่เขาไปนั่งรออยู่ภายในบ้านแล้ว รู้สึกไม่สบายใจที่เขามาข่มขู่ เพราะเราอยู่กัน 3 คนแม่ลูก มาขู่เราแบบนี้ก็รู้สึกกลัว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นาทีชีวิต เจ้าหน้าที่เร่งช่วยชีวิต ชายวัย 56 แปรงสีฟันติดคอ!
ศูนย์วิทยุกู้ชีพปราการ รับแจ้งว่ามีชายทำแปรงสีฟันหลุดเข้าไปติดอยู่ในลำคอ เหตุเกิดในห้องเช่าภายในซอยกิ่งแก้ว 58 ตำบลราชาเทวะ อำเภอ
สลด! พบศพสองพี่น้อง ถูกฆาตกรรมหมกบ่อน้ำหน้าบ้าน
พ.ต.ท.ภัคดี ตันอนุกูล สว.(สอบสวน)สภ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับแจ้งมีศพถูกฆาตกรรม 2 ศพทิ้งอยู่ในบ่อน้ำหน้าบ้านที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 10 ตำบลนาพญา อ.หลังสวน จึงรายงาน พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ รอง ผบก.ภ.จว
ชั่วโมงเดียวพายุฤดูร้อน ถล่มบ้านพังเกือบ 400 หลัง
เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนของชาวบ้าน ในพื้นที่ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ท่าอุเทน,โพนสวรรค์ และ อ.ศรีสงคราม ตั้งแต่ช่วงเย็น
นครพนม ระทึกกลางวงเวียน ไฟปริศนาไหม้รถขนฟาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อ.นาหว้า จ.นครพนม เกิดเหตุระทึก มีรถยนต์กระบะ ต่อพ่วงเป็นรถลาก บรรทุกฟางอัดก้อนจนล้น พอขับถึงวงเวียน
ลักลอบขุดต้นเทียนทะเลอายุกว่า 100 ปีเกือบเกลี้ยงหาด
นายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) สะพลี อำเภอปะทิว จ.ชุมพร เปิดเผยว่า
โจ๋วัย 16 แค้นแทนเพื่อน คว้า 9 มม.รัวยิงคู่อริดับ 1 สาหัส 3
ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.กะปาง อำเภอทุ่งสง นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งในชุมชนบ้าน