
เจ้าหน้าที่เร่งดับไฟป่าติดชายแดนไทย –กัมพูชา หวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นมาอีกรอบ พร้อมจับตาพื้นที่ใกล้ชิด ชี้สาเหตุลักลอบถางป่า
21 ม.ค.2567 – นายอภิเดช บุญล้อม นายกเทศบาลตำบลตะกาง อ.เมือง จ.ตราด เปิดเผยว่า จากการที่มีกลุ่มควันจากประเทศเพื่อนบ้านปกคลุมเข้ามาในพื้นที่จังหวัดตราดด้านอำเภอเมืองตราดในพื้นที่ ต.ท่ากุ่ม ต.ตะกาง ต.ชำราก ต.แหลมกลัดที่เป็นพื้นที่ติดกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา และเกิดผลกระทบต่อพื้นที่และประชาชนนั้น ในสายวันนี้ ระดับความรนแรงได้ลดลงมากแล้ว แต่ที่ยังมีกลุ่มควันปกคลุมเพราะมีลมทะเลพัดผ่านเข้ามาทำให้กลุ่มควันปกคลุมอยู่แต่ก็ไม่มีผลกระทบอะไรมากนักในขณะนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบจุดที่มีการติดไฟหรือฮอตสปอตในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านพบว่า มีจุดความร้อนนับร้อยจุด วันนี้อาจจะมีกลุ่มควันจางลงแล้ว แต่อีกไม่นานก็จะเกิดปัญหาขึ้นอีก ทางเทศบาลตำบลตะกางได้เตรียมความพร้อมในการป้องกันไว้ระดับหนึ่งแล้ว ทั้ง ในการแก้ไขในระยะยาวนั้น ต้องให้หน่วยงานชายแดนประสานงานขอความร่วมมือจากฝั่งกัมพูชาไม่ให้ทำการเผาป่าเพื่อทำเกษตรกรรมในช่วงนี้
นายกำเนิด อภิบาลศรี นายกอบต.ท่ากุ่ม เปิดเผยว่า 1-2 วันที่ผ่านมามีกลุ่มควันจากประเทศเพื่อนบ้านลอยเข้ามาปกคลุมพื้นที่ตำบลท่ากุ่มจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ทำให้นายพีระ เอี่ยมสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราดได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบพื้นที่เพื่อนำปัญหานี้ไปหารือกันในระดับจังหวัดเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งอบต.ท่ากุ่ม ได้เข้าช่วยเหลือประชาชนและเตรียมการป้องกันโดยนำกำลังคน อุปกรณ์และเครื่องในการดับเพลิงไว้พร้อมหากมีการลุกไหม้เข้ามาในพื้นที่แล้ว
ขณะที่นายสุเมธ ตะเพียนทอง นายอำเภอบ่อไร่ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้นายทวีลาภ ประสิทธินาวา ปลัดอำเภอ นำกำลังสมาชิก อส.อ.บ่อไร่ 7 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่อ่างเก็บน้ำคลองโสน ที่อยู่ในเขตชลประทานตราด หมู่ที่ 3 ตำบลนนทรีย์ อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด พบว่า เกิดเพลิงไหม้ในพื้นที่เสียหายประมาณ 50 ไร่ (ไม่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่แต่อย่างใด) หลังจากเกิดเพลิงไหม้รุนแรง และได้สงบลงเบื้องต้นแล้ว แต่ดับไฟในจุดสำคัญเรียบร้อยเท่านั้น แล้วได้ทำแนวกันไฟ เพื่อป้องกันการลุกลาม เข้าพื้นที่ส่วนใหญ่ และทำแนวกันไฟ เพื่อไฟที่ยังลุกไหม้อยู่ไหม้ไปจนถึงริมน้ำ ส่วนพื้นที่ทั้งหมดอยู่ในความรับผิดขอบของชลประทานจังหวัดตราด
ขณะร้อยตรีคมพัชร ทักษิณ นายกอบต.นนทรีย์ อ.บ่อไร่ เปิดเผยว่า เกิดเพลิงไหม้ขึ้น เนื่องจากประชาชนที่เข้าไปครอบครองได้แผ้วถางป่าและจุดไฟไหม้เผา และเกิดการลุกลาม ซึ่งขณะนี้ได้ยุติไปแล้ว แต่ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดการลุกไหม้ลุกลามไปได้อีก เพราะยังไม่สามารถดับได้ทั้งหมด โดยพื้นที่ที่เกิดเพลิงไหม้นั้น ต้องชลประทานตราดเข้ามาตรวจสอบพื้นที่เนื่องจากเป็นพื้นที่รับผิดชอบโดยตรง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สีหศักดิ์' ถึงยูนนาน ถกจนท.-ทหารไทย พร้อมหารือไตรภาคี
'สีหศักดิ์' ถึง 'ยูนนาน' ประชุมร่วมเจ้าหน้าที่-ทหารฝ่ายไทย เตรียมพร้อมก่อนหารือไตรภาคี หลังข้อตกลงหยุดยิง
'จีน-ไทย-เขมร' เปิดฉากไตรภาคี นานาชาติร่วมยินดีหยุดยิง
'จีน-ไทย- กัมพูชา' หารือไตรภาคี หลังหยุดยิง นานาชาติร่วมยินดีไทย กต. ยืนยันยังคงรวบรวมหลักฐานทุ่นระเบิด เสนอตามกรอบออตตาวา ในฐานะรัฐภาคีที่รับผิดชอบต่ออนุสัญญา
กองทัพยังไม่พบเหตุละเมิดหยุดยิง ยันห้ามเขมรกลับเข้า 'บ้านหนองจาน'
กองทัพยันยังไม่พบเหตุการณ์ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง 72 ชม. ไทยยึดเคร่งครัด แจงชาวกัมพูชากลับเข้า 'บ้านหนองจาน' ในเขตฝ่ายไทยไม่ได้
'ทอ.' เช็กแล้ว! เที่ยวบิน 'เบลาลุส-พนมเปญ' อย่ากังวลพร้อม 24 ชม.
'ทอ.' เช็กเที่ยวบิน 'เบลาลุส-พนมเปญ' ยันถ้าเติมของและใช้กระทำฝ่ายไทย มีมาตรการตอบโต้-รับมือ ย้ำอย่าวิตกกังวล ชี้ช่วงนี้มีการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ
ชาวบ้านกรวดเริ่มเปิดร้าน หาเงินเลี้ยงชีพ แม้ไม่มั่นใจเขมรหยุดยิงจริง
ชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้าตามแนวชายแดน ในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ เริ่มกลับไปทำมาหากิน และเปิดร้านขายของชำในหมู่บ้าน เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัวและชำระหนี้สินกันแล้ว
เฝ้าระวัง72ชม. จับตา‘กัมพูชา’ เบี้่ยวเจอสวน!
ผอ.ศูนย์แถลงข่าวร่วมฯ แจงเฝ้าระวังหยุดยิง 72 ชั่วโมง ชี้ตัวเลขที่เหมาะสม-ระดับมาตรฐานสากลใช้กันทั่วโลก ชี้บทเรียนฉีกข้อตกลงไทยพร้อมตอบโต้ป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติข้อ

