น้ำท่วมยะลาเริ่มลดลงแล้ว จนท.เร่งซ่อมถนนพัง คอสะพานทรุด รถยังสัญจรไม่ได้

27 ธ.ค.2566 - ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ยะลา ฝนเริ่มหยุดตก น้ำในแม่น้ำสายบุรีเริ่มลด ถ้าฝนไม่ตกสถานการณ์น่าจะคลี่คลาย แต่ยังคงมีความเสียหายจากน้ำท่วม ประชาชนบางส่วนเริ่มเข้าไปกวาดบ้านที่ได้รับความเสียหาย

สำหรับเส้นทางสายยะลา-นราธิวาส เส้นทาง ยะลา รามัน ยังไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ต้องใช้เส้นทาง บานท่าเรือ บ้านกาลอ เนื่องจากบริเวณคอสะพานข้ามแม่น้ำสายบุรี ม.3 ต.ตะละฮาลอ ทรุดเนื่องจากโดนกระแสน้ำกัดเสาะได้รับความเสียหาย กว้าง 3 เมตร ลึก 4 เมตร นอกจากนั้นน้ำยังกัดเซาะถนนพังหลายจุด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ระดมรถแบ๊คโฮและรถขนดินจำนวนหลายคันถมดินบริเวณคอสะพานที่ได้รับความเสียหายแล้ว คาดว่าภายในวันนี้เจ้าหน้าที่จะสามารถเปิดเส้นทางได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตำรวจภาค 8 เตรียมพร้อมรับมือฝนตกน้ำท่วม วางแผนช่วยเหลือดูแลผู้ประสบภัย

พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 สั่งการให้ พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและวิเคราะห์ภารกิจตามสถานการณ์ในพื้นที่

ถนนทรุดตัวยาวกว่า 100 เมตร เส้นรอยต่อ อำเภอเมืองพะเยา ถึงอำเภองาว จ.ลำปาง

ได้เกิดเหตุถนนทรุดตัวฝั่งขาเข้าจังหวัดพะเยา สถานที่เกิดเหตุถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 1 กิโลเมตรที่ 815 + 800 ถึงกิโลเมตรที่ 815 + 900 เมตร(ขาขึ้น)

'ยะลา' ชวนสัมผัสธรรมชาติ 'ป่าฮาลา-บาลา' ชื่นชมทะเลหมอก สกายวอล์คอัยเยอร์เวง

สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยะลา ร่วมกับกลุ่มงานบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภายใต้ชายแดน และองค์การบริหารส่วนตำบลอัยเยอร์เวง จังหวัดยะลา จัดกิจกรรม “เปิดประตูสู่ ป่าฮาลา-บาลา แฟมทริป ล่องเรือ ส่องสัตว์ สัมผัสธรรมชาติกลางผืนน้ำ”

ฝนกระหน่ำเชียงใหม่ น้ำป่าหลาก ดินถล่ม เฝ้าระวังภัยพิบัติหลายอำเภอ

นายขวัญชัย เนื่องจำนงค์ นายอำเภอเวียงแหง พร้อมด้วย สมาชิก อส. กองร้อยอาสารักษาดินแดนที่ 21 อำเภอเวียงแหง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากน้ำจากลำน้ำแม่แตงได้ไหลบ่าทะลักเข้าท่วมพื้นที่เกษตร นาข้าว พนังกั้นดินของเกษตรกรได้รับความเสียหายหลายพื้นที่

ชาวสวนเบตง เริ่มเก็บทุเรียน 'มูซานคิง' ยอดสั่งซื้อเพียบ กก.ละ 400 บาท

เกษตรกรชาวอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เริ่มตัดทุเรียนโอฉี่หรือหนามดำ มูซานคิงในสวนแล้ว โดยนำมาจำหน่ายทั้งหน้าสวน และช่องทางออนไลน์ โกยยอดสั่งซื้อทั่วประเทศ โดยพันธุ์มูซานคิง และโอฉี่หรือหนามดำ กก.ละ 350-400 บาท ล้งมาเลเซียบุกซื้อถึงสวน