ทิ้งถนนพังไว้ดูต่างหน้า! 'ชุมชนบ้านตระ' ปวดร้าวหลังภารกิจไล่ล่า 'แป้ง นาโหนด'

ชาวบ้านตระ ปวดร้าว เสร็จภารกิจล่า “เสี่ยแป้ง” ทิ้งถนนพังไว้ดูต่างหน้า กระทบชาวบ้านสัญจรลำบากมาก วอนหน่วยงานช่วยเหลือ หากยังดูดาย คงต้องซ่อมกันเอง แต่จะเอาเงินที่ไหน ฝากโลกภายนอกเข้าใจ ที่นี่ไม่ใช่ซ่องโจร หมู่บ้านโบราณกลางหุบเขายังมีมุมสวยงาม คนอยู่ร่วมป่า ชวนมาเที่ยวศึกษา ชาวบ้านพร้อมต้อนรับ-พาเที่ยวทุกคน ด้านชาวบ้านอีกราย ต้องผันตัวเป็นรถรับส่งนักข่าวหารายได้

1 ธ.ค.2566 - ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกรณีชาวบ้านตระ ม.2 ต.ปะเหลียน จ.ตรัง ร้องเรียนกับนายทรงกลด สว่างวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ในฐานะรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ถึงความเดือดร้อนถนนขึ้นบ้านตระพังเสียหาย หลังจากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการตามล่านายเชาวลิต ทองด้วง หรือ
เสี่ยแป้ง นาโหนด พร้อมวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นช่วยเข้ามาซ่อมแซมหรือช่วยออกค่าปูนซีเมนต์ให้แก่ชาวบ้านได้ช่วยกันซ่อมแซม เพราะลำพังชาวบ้านไม่มีเงิน โดยหลังเกิดเหตุไม่สามารถออกไปหาของป่า หาปลา หากบ ทำมาหากินได้ตามปกติ รวมทั้งไม่ได้กรีดยาง และฝนก็ตกตลอดเวลานั้น

ล่าสุด หลังจากที่เสี่ยแป้ง ปล่อยคลิปออกมาว่าไม่ได้อยู่บนบ้านตระแล้วนั้น ทำให้ชาวบ้านตระรู้สึกคลายวิตกกังวล ไม่เครียดแล้ว สามารถออกมาทำมาหากินได้ตามปกติ แต่ยังประสบปัญหาการสัญจรขึ้นลงยังพื้นราบในเรื่องของถนนพัง โดยเป็นถนนคอนกรีตความกว้างประมาณ 50-80 เซนติเมตร เพียงเพื่อรองรับ รถมอเตอร์ไซต์เท่านั้น แต่เส้นทางเข้ายังเละเป็นดินโคลน เป็นหลุมเป็นย่อ พื้นซีเมนต์แตก และประกอบกับสภาพอากาศช่วงนี้ฝนตกอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ยังคงซ่อมแซมถนนไม่ได้ ต้องรอให้ฝนหยุดตกก่อน และชาวบ้านก็ไม่มีงบประมาณในการซ่อมแซม

นายเจตน์ นาดำ อายุ 58 ปี ชาวบ้านตระ อยู่บ้านเลขที่ 500 ม.2 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง และหมอพื้นบ้านบีบนวดรักษาโรค (เสื้อเขียว) กล่าวว่า ข้างบนรถวิ่งไม่ได้เลย เพราะไม่รู้จะหาทางไหน เจอหลุมเยอะ แล้วรถวิ่งลำบากมาก หลังจากนี้ถ้าฝนแล้ง ชาวบ้านจะรวมตัวกันเคลียร์เรื่องการทำทางเอง ไม่ว่าเขาจะช่วยหรือไม่ช่วยก็แล้วแต่ เพราะเป็นทางสัญจรหากินของชาวบ้าน และทางที่เป็นพื้นปูนตอนนี้แตกร้าวหลายจุดหมดแล้ว รู้สึกปวดร้าวมากเลย แล้วถนนที่เป็นซอยเล็กๆ ทางเป็นเทือกเลย บุกขับไปก็ไม่ได้

“ตอนนี้ความรู้สึกของชาวบ้านบอกเลยว่ารู้สึกไม่เครียดแล้ว สามารถทำมาหากินได้ตามปกติ แล้วชาวบ้านก็ยินดีต้อนรับทุกคน แต่ก็อยากให้จำด้วยว่าถนนที่ถูกลืมเพราะชำรุด จะทำยังไงต่อได้บ้าง พูดแล้วก็มีความรู้สึกว่าปวดร้าว ที่เส้นทางนี้ถนนพัง พอยิ่งเห็นข่าวว่าถนนพังก็ไม่มีใครอยากเข้ามา แต่ยังไงที่บ้านตระก็มีความสวยงามมาก แล้วตอนนี้โลกเปิดกว้างเห็นความสวยงามของบ้านตระจะได้มีคนเข้ามาเที่ยวด้วย”นายเจตน์ระบุ

นายเจตน์ กล่าวอีกว่า ในฐานะที่ตนเป็นชาวบ้านตระอยากจะฝากบอกกับคนภายนอก ที่มองว่าบ้านตระเป็นชุมชนที่ซ่องสุมโจรนั้น จริงๆแล้วไม่ใช่ ที่นี่เป็น แหล่งธรรมชาติที่สวยงามอีกที่หนึ่ง และชาวบ้านก็ให้การต้อนรับที่ดี ทักทายพูดไพเราะ ไม่ใช่แหล่งซ่องสุ่มโจรแต่อย่างใดเลย บ้านตระเป็นชุมชนโบราณกลางหุบเขาบรรทัดที่ชาวบ้านใช้ชีวิตอยู่กับป่า ใครอยากจะมาเที่ยวก็สามารถติดต่อชาวบ้านได้ ชาวบ้านพร้อมที่จะพาไปดู ให้เห็นกับตาว่าที่เขาอยู่มาเป็นร้อยๆปี วิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่เป็นยังไง อยากให้มาสัมผัสตรงนี้และตนก็พร้อมที่จะต้อนรับพาไปท่องเที่ยวบ้านตระด้วย แต่ตอนนี้การขึ้นลงลำบากมาก

ด้านชายชาวบ้านตระอีกรายซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อกล่าวว่า รู้สึกโล่งใจที่สถานการณ์ยุติลง ชาวบ้านจะได้กลับมาทำมาหากินได้ตามปกติ สำหรับตน ในช่วงที่ผ่านมาที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ก็ไม่สามารถออกทำมาหากินได้ จึงต้องหันตัวมารับจ้างรับส่งผู้สื่อข่าวขึ้นลงไปทำข่าวบนบ้านตระ ซึ่งก็ทำให้มีรายได้ในช่วงที่ผ่านมาราว 1 หมื่นกว่าบาท ก็ถือว่าโชคดี