'ไอกรน' ระบาดชายแดนใต้ ทารกอายุ 18 วัน ติดเชื้อเสียชีวิต ปัตตานีพบเด็กป่วย 72 ราย

29 พ.ย.2566 - สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี นายแพทย์อนุรักษ์ สารภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 จนถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ขณะนี้จังหวัดปัตตานีมีผู้ป่วยไอกรนแล้ว จำนวน 72 ราย ซึ่งกระจายในหลายอำเภอ และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นเด็กทารกอายุ 18 วัน ซึ่งร่างกายยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ได้รับเชื้อมาจากผู้อาศัยร่วมภายในบ้าน

โดยโรคไอกรน เป็นโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจชนิดหนึ่งที่มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย บอร์เดเทลลา เพอร์ทัสซิส หลังติดเชื้อในช่วงแรกจะมีอาการคล้ายเป็นหวัด เช่น ไอ มีไข้ น้ำมูกไหล หลังจากนั้น ผู้ป่วยจะมีอาการไอต่อเนื่องอย่างรุนแรงและมีเสียงไอที่เป็นเอกลักษณ์หรือเสียงดัง (ไอมีเสียงที่เกิดจากการ หายใจลําบาก) จึงมีอีกชื่อเรียกว่า Whooping Cough เป็นที่มาของชื่อไอกรนในภาษาไทย ในทารกหรือเด็กเล็ก อาจไม่พบอาการไอ แต่จะมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจเป็นหลัก ไอกรนเป็นโรคติดต่อจากคนสู่คน โดยเชื้อสามารถ แพร่กระจายได้จากการไอหรือจาม ทารกและเด็กเล็กจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากที่สุด ซึ่ง อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

ซึ่งการป้องกันไอกรนโรคไอกรนเป็นโรคที่ป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน แพทย์จะฉีดวัคซีนรวม คอตีบ บาดทะยัก ไอกรน โดยเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 7 ปี เริ่มฉีด 3 เข็มแรกเมื่อเด็กที่มีอายุ 2 เดือน 4 เดือน 6 เดือน และเข็มที่ 4 เมื่อเด็กมีอายุ 18 เดือน จากนั้นควรฉีดวัคซีนกระตุ้น (Booster Dose) เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันหลังฉีด ครบชุด 4 ครั้งแรกแล้ว ตอนอายุ 4-6 ปี และเด็กที่มีอายุมากกว่า 7 ปี ผู้ใหญ่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว แนะนําให้ฉีดวัคซีนกระตุ้นทุก 10 ปี เนื่องจากวัคซีนที่ได้รับในวัยเด็กจะหมดลงในช่วงวัยรุ่น และในผู้ที่กําลัง ตั้งครรภ์ แพทย์จะแนะนําให้ฉีดวัคซีนในช่วงสัปดาห์ที่ 27 และ 36 ของการตั้งครรภ์ ซึ่งอาจช่วยปกป้องทารก จากโรคไอกรนในช่วง 2-3 เดือนแรกหลังการคลอดอีกด้วย

อย่างไรก็ตามแนวโน้มการติดเชื้อยังคงสูงขึ้น สาเหตุหนึ่งเกิดจากการอัตราการรับวัคซีนของเด็กในพื้นที่จังหวัดปัตตานี น้อยอยู่มาก ทั้งโรคไอกรนและอีกหลายๆโรคเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ส่งมอบความช่วย สู่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดปัตตานี

มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ เดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ส่งมอบอาหารแห้งและขนมขบเคี้ยวกว่า 100 ลังใหญ่ ให้กับชาวบ้านในจังหวัดปัตตานี หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

แม่ทัพทัพภาคที่ 4 มอบถุงยังชีพให้ชาวปัตตานีที่ได้รับความเดือนร้อนจากอุทกภัย

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พลเอก มณี จันทร์ทิพย์ ที่ปรึกษา

“สส.คอซีย์“ เผย สถานการณ์น้ำท่วมปัตตานีลดลง แต่ยังมีน้ำท่วมขัง กระทบการผลิตน้ำประปาเพื่ออุปโภคบริโภค ทำ ปชช.เดือดร้อน ขาดแคลนน้ำดื่มหนัก

นายคอซีย์ มามุ สส.ปัตตานี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ว่า ขณะนี้ประชาชนยังได้รับความเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่ม ถึงแม้จะได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนในการจัดส่งน้ำเข้าพื้นที่ แต่ยังไม่เพียงพอ

เทศบาลเมืองปัตตานีน้ำแห้งแล้ว ชาวบ้านเร่งทำความสะอาด หมู่บ้านรอบนอกยังท่วมหนัก

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ยังไม่คลี่คลาย ยังคงมีพื้นที่ถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง มีน้ำท่วมสูง 1 เมตร ซึ่งลดลงเล็กน้อย ส่วนพื้นที่