สาวอาสากู้ภัยฯ ประสบอุบัติเหตุ วอนขอ 'ดวงตา' จากภาครัฐในสัตหีบ

28 พ.ย.2566- ผู้สื่อข่าว ได้รับการร้องเรียนจาก นางพิชญาภรณ์ สิริเมือง อายุ 54 ปี พักบ้านเลขที่ 2234/37 หมู่ 1 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ยึดอาชีพขายแซนวิช และเป็นอาสาหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ นามเรียกขาน 060 ที่ได้ตกเป็นเหยื่ออุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ จนชีวิตพลิกผัน ต้องอยู่สภาพคล้ายคนพิการเดินไม่ได้ ขอเป็นหนึ่งเสียงของพี่น้องชาวอำเภอสัตหีบ ที่จะออกมาเรียกร้องให้ภาครัฐ ดำเนินการแก้ไขปัญหาบนท้องถนน

นางพิชญาภรณ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องเมื่อวันที่ 9 ต.ค.66 ชีวิตต้องมาประสบอุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต ขณะขี่รถจักรยานยนต์พาหลานชายซ้อนท้าย เดินทางกลับจากไปกินข้าวบ้านเพื่อนที่เตาถ่าน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้จอดติดไฟแดง เพื่อเตรียมเลี้ยวขวา เข้าค่ายหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน หลังจากสัญญาณไฟเขียว ได้ขี่ออกมาปกติ ทันใดนั้น ได้มีรถจักรยานยนต์คู่กรณี วิ่งมาจากทางตลาดสัตหีบด้วยความเร็ว โดยมีเด็กสาววัย 12 ปี เป็นคนขี่ และเด็กชายซ้อนท้าย ได้พุ่งชนเข้าด้านข้างซ้ายอย่างแรง จนเป็นเหตุให้ตนเองได้รับบาดเจ็บ ถึงขั้นสะโพกซ้ายหัก ถูกหามนำตัวส่งโรงพยาบาล

นับตั้งแต่วันนั้น ชีวิตก็เปลี่ยนไป จากคนที่เดินได้ปกติ ต้องมานอนรักษาตัวไม่ต่างจากผู้ป่วยติดเตียง จะเดินก็ต้องใช้ไม้เท้าค้ำยัน เดินอย่างทุลักทุเล อีกทั้ง ก็ต้องตกงาน ไม่สามารถไปขายแซนวิชสร้างรายได้เหมือนเช่นเคย ซึ่งหมอระบุว่า อาจต้องใช้เวลานานหลายเดือน มิหนำซ้ำ ค่ารักษาพยาบาล ที่มีส่วนต่างนอกเหนือจาก พ.ร.บ. 150,000 บาท ต้องจ่ายเองกว่า 50,000 บาท ทางคู่กรณีไม่เคยมาดูแล

ในส่วนของทางคดี ขณะนั้นก็ประสบปัญหา เนื่องจากบริเวณแยกไฟแดงดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิดแม้แต่ตัวเดียว ทำให้ไม่มีหลักฐานสำคัญ ประกอบกับคู่กรณี ให้การขัดแย้งอ้างว่า ตนเองผ่าสัญญาณไฟแดง จนเกือบถูกตั้งข้อหาประมาท นั่นคือ จะต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเอง และคู่กรณี นับเป็นความโชคดีที่ในเวลานั้น นายสงกรานต์ บุตรวงศ์ อายุ 29 ปี วินจักรยานยนต์รับจ้างหน้านย.เบอ 54 ได้เห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ เขาให้ปากคำเป็นพยานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่ารถของตนเอง ขี่ผ่านแยกขณะสัญญาณไฟเขียว จึงทำให้รอดพ้นความผิดมาได้ ซึ่งรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก เพราะตนเองไม่ใช่คนผิด แต่กับต้องเกือบตกเป็นจำเลย

ด้วยเหตุนี้ จึงขอออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ ให้ช่วยเป็นกระบอกเสียง วิงวอนให้หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยดำเนินการติดกล้องวงจรปิด บริเวณแยกไฟแดงต่างๆ เพราะกล้องวงจรปิดถือเป็นพยานหลักฐานสำคัญ เสมือนเป็นดวงตา ที่จะผดุงความยุติธรรมให้กับพี่น้องประชาชน แต่ปัจจุบัน แยกไฟแดงสัตหีบหลายแห่ง กับดวงตามืดมิด เมื่อเกิดปัญหา อาจทำให้ผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือต้องตกเป็นจำเลยได้ จึงขอเป็นหนึ่งเสียงของพี่น้องประชาชนชาวอำเภอสัตหีบ ออกมาเรียกร้องให้ภาครัฐดำเนินการในครั้งนี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รถกระบะยางแตกชนสนั่น เก๋งพังยับ หมอ 3 ชีวิต รอดตายหวุดหวิด

ศูนย์วิทยุ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระบะพุ่งชนรถเก๋งได้รับความเสียหายหนัก ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าหมู่บ้าน The Palm ริมถนนสุขุมวิทขาเข้าสัตหีบ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

'กองทัพเรือ' จัดพิธีทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศล วันนวมินทรมหาราช

พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ มอบหมายให้ พลเรือโท กรวิทย์ ฉายะรถี รองผู้บัญชาการ กองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลา ถวายราชสักการะ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ท่วมซ้ำซาก ฝนถล่มครึ่งชม. ถนนหลวงชุมชนบางเสร่จมบาดาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเขตพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้เกิดฝนฟ้าคะนองตกลงมาอย่างหนัก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ชุมชนตำบลบางเสร่ หลังฝนกระหน่ำลงมาเพียง 30 นาที ส่งผลให้ช่วงบนถนนสุขุมวิท

ฝนถล่มสัตหีบ แค่ครึ่งชั่วโมง น้ำท่วมขังถนนหลวงชุมชนบางเสร่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเขตพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ชุมชนตำบลบางเสร่ หลังฝนตกลงมาเพียง 30 นาที ส่งผลให้ช่วงบนถนนสุขุมวิท เส้นทางขาเข้าสัตหีบ

ปิดตำนาน 'ลุงสว่าง' ชายผู้อุทิศชีวิตเพื่อสุนัขจรจัด หายตัว 8 วัน พบเป็นศพในป่า

พ.ต.ต.พรชัย เหลือผล สารวัตรสอบสวน สภ.พลูตาหลวง รับแจ้งจาก น.ส.ศิตา ทองดี อายุ 56 ปี ขอให้ตรวจสอบบริเวณป่า ท้ายซอยสัตหีบสุขุมวิท 109 พื้นที่หมู่ 6 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่าได้มีกลิ่นเน่าเหม็น รุนแรง